หลัง ฮ. กระทรวงทรัพยฯ ถูกยิง หวั่นถูกเชื่อมโยงชาวบ้านบางกลอย ด้าน “ร.อ. ธรรมนัส” ยัน สั่งชะลอคดีไปที่ สภ.แก่งกระจานแล้ว เตรียมคุยอธิบดีอัยการ ชะลอ-ไม่เพิ่มคดีใหม่
วันนี้ (25 พ.ค. 2564) กลุ่มที่ใช้ชื่อว่า ภาคี #SAVEบางกลอย และผู้แทนชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี จัดกิจกรรมหน้าทำเนียบรัฐบาล (ฝั่ง ก.พ.ร.) เพื่อยื่นหนังสือถึง ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน รวมทั้งการพัฒนาและฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่บ้านบางกลอย หลังเมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอแก่งกระจาน เรียกชาวบ้านไปแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม โดยเบื้องต้นมี สมพาส นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับหนังสือ
สำหรับเหตุผลสำคัญของการเคลื่อนไหวดังกล่าว เนื่องจากพวกเขาเห็นว่าการแก้ปัญหาของชาวบางกลอยไม่คืบหน้า รวมถึงมีสถานการณ์ตึงเครียดในพื้นที่เพิ่มขึ้น สืบเนื่องจากการพยายามแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับชาวบ้าน 28 ราย ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 และ พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 อีกทั้งพนักงานสอนสวนจะเร่งรัดส่งสำนวนฟ้องให้พนักงานงานอัยการในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้
พงษ์ศักดิ์ ต้นน้ำเพชร ชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอยกล่าวว่า ตนเป็นหนึ่งในผู้ถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และได้รับทราบข้อมูลจากตำรวจและทนายความว่าจะมีการเพิ่มข้อหาให้ชาวบ้าน วันนี้ตนก็อยากจะมายื่นหนังสือถึงร้อยเอก ธรรมนัส ว่า คณะกรรมการฯ ที่แต่งตั้งขึ้นมา มีความคืบหน้าไปถึงไหน ทำไมต้องสั่งเร่งรัดการดำเนินคดี จึงอยากมาทวงคำตอบ รวมถึงที่มีการเปิดปฏิบัติการของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่อาจกระทบต่อการแก้ไขปัญหา
“อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานยังมีการใช้ปฏิบัติการที่เรียกว่า ‘ใจแผ่นดิน ยอดดวงใจของแก่งกระจาน’ หลังปรากฏข่าวว่าเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถูกยิงด้วยอาวุธปืนเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งอาจถูกนำมาเชื่อมโยงกับชาวบ้านบางกลอยจนเกิดเป็นปฏิบัติการที่สร้างความขัดแย้ง อันไม่เป็นผลดีต่อกระบวนการแก้ไขปัญหาร่วมกับรัฐบาล”
จากนั้นผู้แทนชาวบ้านบางกลอยได้อ่านแถลงการณ์เสนอ 3 ข้อเรียกร้องเร่งด่วนสำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ คือ (1) ขอให้ประสานงานหรือสั่งการไปยังพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอแก่งกระจาน ให้ชะลอการดำเนินการส่งฟ้องชาวบ้านบางกลอยทั้ง 28 คนไว้ก่อน รวมทั้งให้ยุติการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม
(2) ขอให้สั่งการ ให้คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหากฎหมายและคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาคดีความ เร่งรัดจัดประชุมโดยเร่งด่วน เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาด้านคดีความของชาวบ้าน ก่อนการดำเนินการใด ๆ ของพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการ
และ (3) ขอให้ประสานงานไปยังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ยุติการดำเนินการใด ๆ ในระดับพื้นที่ เนื่องจากมีบันทึกข้อตกลงเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2564 และขณะที่ยังอยู่ในระหว่างการแก้ไขปัญหาของคณะกรรมการฯ ที่ท่านเป็นประธานอยู่ รวมทั้งให้ชี้แจงข้อเท็จจริงในกรณียิงเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรฯ และผลการดำเนินการตามปฏิบัติการใจแผ่นดิน “ยอดดวงใจแก่งกระจาน” อย่างเป็นทางการและตรงไปตรงมาต่อสาธารณะ
ด้าน ธัชพงศ์ แกดำ ผู้แทนภาคี #SAVEบางกลอย กล่าวว่า ที่ผ่านมาร้อยเอกธรรมนัสได้เห็นชอบตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาแก้ไขปัญหาอีก 5 ชุด แต่ปรากฏว่าหัวใจสำคัญเรื่องการชะลอการดำเนินคดีกับชาวบ้านทั้ง 28 รายนั้นไม่ถูกนำไปปฏิบัติ ตนยืนยันว่าต้องชะลอคดีเอาไว้ก่อนจนกว่าคณะทำงานที่ตั้งโดยนายกรัฐมนตรี มีท่านธรรมนัสเป็นประธาน จะทำงานเสร็จ แล้วค่อยมาคุยกันใหม่ว่าจะเอายังไง แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทำทุกอย่างย้อนแย้ง สวนทาง และคณะกรรมการ ไม่ยอมชะลอคดีความ แต่เพิ่มข้อหาหนักให้ชาวบ้านอีก
“ความผิดที่ชาวบ้านโดนเมื่อวานนี้หนักมาก คือติดคุกหัวโต มันย้อนแย้งกับคณะทำงานตาม MOU ที่กำลังดำเนินการแก้ไขปัญหากันอยู่ หลักการการทำงานมันควรจะเป็นการให้ชาวบ้านมามีส่วนร่วม แต่เจ้าหน้าที่กลับเร่งรัดคดี เรียกชาวบ้านไปรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมโดยแจ้งชาวบ้านก่อนไม่กี่วัน วันที่ 27 นี้จะสั่งฟ้องชาวบ้านทั้งหมด แสดงว่าเจ้าพนักงานในพื้นที่ทำลายทุกอย่าง ทั้ง MOU ทั้งคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาที่ยังไม่ได้ดำเนินการทำงานไปซักเท่าไหร่เลย แต่เจ้าพนักงานจะเอาชาวบ้านติดคุกให้ได้”
ต่อมาเวลา 12.30 น. ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้มารับหนังสือจากผู้แทนชาวบ้านบางกลอยด้วยตนเอง พร้อมชี้แจงว่าได้ประสานงานไปยังสถานีตำรวจภูธรอำเภอแก่งกระจาน พนักงานอัยการเจ้าของสำนวนคดี รวมทั้ง ชัยพร เกริกกุลธร อธิบดีอัยการ สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ในนามประธานคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาคดีความ กรณีกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ให้เกิดการแก้ไขปัญหาด้านคดีได้ข้อยุติภายใน 10 วัน
“เรื่องแรกผมได้รับการประสานจากทางพีมูฟแล้ว ผมประสานไปยังผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเรียบร้อยแล้ว การประชุมครั้งแรกที่ผมเป็นประธานได้มีข้อตกลงว่าเราจะชะลอการดำเนินคดีของพี่น้องบางกลอย อันนี้เรื่องแรก เรื่องที่สองวันนี้ผมจะลงนามหนังสือสั่งการไปยังท่านอธิบดีอัยการในบ่ายนี้ เพื่อให้ท่านที่เป็นประธานอนุกรรมการด้านคดี ไปยังอัยการจังหวัดเพชรบุรี เจ้าของสำนวน ให้ชะลอคดี รวมทั้งไม่เพิ่มคดีให้พี่น้องบางกลอย เรื่องที่สามคือ การประชุมของคณะอนุกรรมการเรื่องคดีความ จะแล้วประชุมให้แล้วเสร็จภายใน 10 วัน”
ขณะที่ ธัชพงศ์ แกดำ ผู้แทนภาคี #SAVEบางกลอย ยืนยันจะยังปักหลักอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล (ก.พ.ร.) ต่อไป จนกว่าจะมีหลักประกันเป็นลายลักษณ์อักษร