Saveบางกลอย ร้อง กสม. ดูแลผู้ต้องขังคดีการเมืองป่วยโควิด – ขอสิทธิประกันตัว

ระบุ “บอย” ชาติชาย แกดำ นักเคลื่อนไหว ติดเชื้อโควิด-19 ในเรือนจำ อาการน่าห่วง เกล็ดเลือดต่ำ เสี่ยงติดเชื้อในกระแสเลือด ภาคีฯ เรียกร้องขอสิทธิประกันตัว ด้านผู้แทน กสม. รับประสานกรมราชทัณฑ์ ย้ำการชุมนุมเป็นเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ

วันนี้ (2 ก.ย. 64) ตัวแทน ภาคีSaveบางกลอย ยื่นหนังสือถึง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เรียกร้องให้หามาตรการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนผู้ถูกคุมขังคดีการเมือง ขอสิทธิประกันตัว และตรวจสอบมาตรการดูแลรวมถึงอาการป่วยจากโควิด-19 ของนักกิจกรรมทางการเมืองในเรือนจำ หลังทราบข่าว “บอย” ชาติชาย แกดำ สมาชิกภาคีฯ ติดโควิด-19 ในเรือนจำอาการน่าเป็นห่วง โดยมี ศยามล ไกยูรวงศ์ และ สุชาติ เศรษฐมาลินี กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นผู้แทนรับหนังสือ

แถลงการณ์ภาคีSaveบางกลอย ระบุว่า ธัชพงศ์ หรือ ชาติชาย แกดำ นักเคลื่อนไหวในนามภาคีSaveบางกลอย ที่เคลื่อนไหวในประเด็นสิทธิมนุษยชน ได้รับหมายจับ ข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค ของสถานีตำรวจภูธร คลอง 5 จ.ปทุมธานี คดีหมายเลข ฝ.387/64 โดยได้ติดต่อเข้ามอบตัว วันที่ 9 ส.ค.64 เมื่อศาลธัญบุรี มีคำสั่งฝากขังและคัดค้านการประกันตัว ต่อมาชาติชาย แกดำ ได้ติดเชื้อโควิด – 19 ที่กำลังระบาดในเรือนจำ

ขณะนี้เขามี ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ หมอสั่งให้ระวังห้ามกระแทกมีบาดแผลเพราะอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือด นอกจากนี้ชาติชายยังมีอาการแน่นหน้าอก หายใจติดขัด ไอ ความดันโลหิตสูง แพทย์ให้ใช้ออกซิเจนในการช่วยหายใจ แต่ด้วยจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ในเรือนจำมีหลายคน จึงต้องใช้สลับกับนักโทษคนอื่นๆ

ธัชพงศ์ หรือ ชาติชาย แกดำ นักเคลื่อนไหว ภาคีSaveบางกลอย

ตัวแทนภาคี Saveบางกลอย ยังย้ำว่า สิทธิการประกันตัวเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามหลักสิทธิมนุษยชน ที่จะต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหา หรือจำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด จึงเรียกร้องให้ กสม. เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอาการป่วยของชาติชาย และผู้ต้องขังคดีการเมืองคนอื่น ๆ โดยเสนอแนะแนวทางที่เหมาะสมในการป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อหน่วยงานของรัฐ หรือเอกชนที่เกี่ยวข้อง ตามบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560

ในฐานะที่ กสม. มีสถานะเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ภาคีSaveบางกลอย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า กสม. จะยืนอยู่เคียงข้างประชาชน โดยเฉพาะเมื่อประชาชนผู้นั้นได้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง ท่านจะไม่นิ่งเฉย หรือทำงานประดุจดั่งหน่วยงานภายใต้อำนาจรัฐ เราอยากเห็นความอยู่รอดและปลอดภัย การได้รับความเป็นธรรมของผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างชาติชาย แกดำ และเพื่อนที่ถูกดำเนินคดีทางการเมืองอื่นๆ จากกระบวนการทำงานอย่างตรงหลักการของ กสม. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่มีความหมายสำหรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังเติบโตในกระแสธารสังคมประชาธิปไตยอันเกี่ยวเนื่องกับสิทธิมนุษยชน

ด้าน ศยามล ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวว่า กสม. ประสานงานกับกรมราชทัณฑ์อย่างไม่เป็นทางการมาตลอด ว่าจะมีช่องทางช่วยเหลืออย่างไร ซึ่งเป็นการประสานงานคุ้มครองสิทธิ ไม่ใช่การตรวจสอบ เพราะต้องการที่จะรู้ว่าอาการของ ชาติชาย แกดำ น่าเป็นห่วงหรือไม่ หลังจากที่กรมราชทัณฑ์ได้ให้ข่าวมา กสม. จะเร่งดำเนินการในเรื่องนี้โดยการประสานงานให้เกิดการประชุมออนไลน์

ศยามล ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

ตอนนี้ กสม. ได้เตรียมแผนนัดประชุมผ่านซูมกับทางราชทัณฑ์ เพราะว่าทางราชทัณฑ์ไม่ให้เราเข้าไปเยี่ยม กสม. พยายามต่อไปหลายรอบแล้ว แต่เขามีนโยบายห้ามเยี่ยม ก็เลยแก้ปัญหาว่าถ้าอย่างนั้นต้องมีการประชุมซูมว่าราชทัณฑ์มีมาตรการอย่างไรต่อผู้ชุมนุมที่ร้องเรียนมาว่าเขาติดโควิด ส่วนกรณีนี้เร่งด่วนต้องขอปรึกษาหารือกับราชทัณฑ์อีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อเรื่องนี้

กรรมการสิทธิมนุษยชนฯ ยังย้ำว่า ผู้ต้องขังไม่ใช่ผู้กระทำความผิด ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ควรจะได้รับการประกันตัว การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองไม่ควรต้องถึงขั้นถูกจับกุม การชุมนุมเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ เป็นการชุมนุมโดยเปิดเผย รัฐควรจะดูแลจัดการเรื่องความเรียบร้อยมากกว่าการควบคุมหรือสลายการชุมนุมด้วยอาวุธ กสม. ตระหนักดี และคิดว่าควรจะต้องคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและราชทัณฑ์ที่เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะรับเรื่องไว้แล้วหารือกับ กสม. คนอื่นต่อไป

ช่วงสายวันนี้ (2 ก.ย.64) ทนายความได้ยื่นขอประกันตัว ชาติชาย แกดำ ต่อศาลชั้นต้น (ศาลธัญบุรี) ต่อมาศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัว และระบุว่าไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งดังกล่าว

Author

Alternative Text
AUTHOR

พิชญาพร โพธิ์สง่า

นักข่าวเล่าเรื่อง ที่เชื่อว่าการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์จะช่วยจรรโลงสังคมได้