พระราชา และปีศาจจิ๋ว | ทิชา ณ นคร

“ดินแดง”

“ม็อบดินแดง”

“ชุมชนแฟลตดินแดง” ฯลฯ ถูกพูดย้ำ ผลิตซ้ำมาตลอดช่วงกลางปี 2564 สถานการณ์ที่นั่นปรากฏขึ้นในภาพที่มองได้หลายมิติ

การเมือง ปากท้อง วิถีชีวิต ความเหลื่อมล้ำ?

แต่ภาพชัดหากมองผิวเผิน สิ่งที่ปรากฏ คือ ความรุนแรง ไม่ว่าจะสิ่งที่ผู้ชุมนุมแสดงออก หรือสิ่งที่เจ้าหน้าที่รัฐเลือกใช้ควบคุม ปราบปราม และจับกุมพวกเขา

ปฏิกริยาเช่นนี้ ส่งผลให้เกิดการตอบโต้ไปมา ทั้งอาวุธ สิ่งเทียมอาวุธ และท่าทีที่ส่อสัญญาณความรุนแรง หลายคนเจ็บหนัก และมีคนเสียชีวิต…

แม้ สมรภูมิดินแดง จะไร้ความเคลื่อนไหวมาตลอด 3 สัปดาห์ แต่ที่ผ่านมาก็ยืดเยื้อกันมานานกว่า 3 เดือน

‘ป้ามล’ ทิชา ณ นคร แห่งศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกาญจนาภิเษก ชวนมองสถานการณ์นี้ จากประสบการณ์ที่ทำงานกับเยาวชนที่อยู่ในวังวนของความรุนแรงในทุกรูปแบบมาหลายสิบปี ผ่านเครื่องมือที่เรียกว่า นิทาน เพื่อที่จะทำให้เราเข้าใจและมองเรื่องราวนี้ในอีกหนึ่งมิติ

ป้าจะเล่านิทานให้ฟัง…

การจัดการกับเรื่องราวของเด็กเหล่านี้ จำเป็นต้องมีรายละเอียดกว่าการมองบนยอดภูเขาน้ำแข็ง มองเขาและจัดการเขา ด้วยความรุนแรง เดี๋ยวป้าจะเล่านิทานให้ฟัง…

มีพระราชาองค์หนึ่ง มีวังที่ใหญ่มาก มีกำแพงวังที่สูงมาก มีทหารยืนรายรอบวังของท่าน ของพระองค์ท่าน แล้ววันหนึ่งพระราชาองค์นี้จะไปประพาสป่า ก็เลยไม่ได้อยู่ในวัง แล้ววันที่พระราชาเสด็จประพาสป่านั้น มี “ปีศาจตัวน้อย” ตัวหนึ่งมาที่วัง บุกจะเข้าไปข้างใน

พวกทหารที่ยืนรายรอบก็ด่าทอ ขับไล่ ทุกครั้งของการด่าทอและขับไล่ เจ้าปีศาจก็โตขึ้น โตขึ้น แล้วยิ่งโตขึ้นเรื่อย ๆ ทหารก็ไม่ใช่แค่ด่าทอหรือขับไล่แล้ว ทหารก็ใช้หอก ใช้ดาบทิ่มแทงเจ้าปีศาจซึ่งกำลังโตขึ้น ยิ่งทิ่มแทงเข้าไปเท่าไหร่ เจ้าปีศาจตัวนี้ก็จะยิ่งใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น ใหญ่จนกระทั่งข้ามกำแพงเข้าไปได้ ในที่สุด ปีศาจตัวนี้ก็ฆ่าทหารตายหมดเลย แล้วก็เข้าไปนั่งอยู่ที่บัลลังก์ของพระราชาอย่างสง่างาม

มีทหารคนหนึ่งรอดชีวิต รีบเข้าไปในป่าเพื่อไปทูลพระราชาว่า มันมีมันปีศาจซึ่งตอนนี้มันตัวใหญ่มาก มันบุกเข้ามาในวังแล้ว และมันไปนั่งอยู่ในบัลลังก์ของพระองค์ ให้พระองค์รีบจัดการ พระราชาก็รีบกลับมาที่วัง แล้วก็ไปเจอเจ้าปีศาจตัวนั้น ปีศาจก็ตัวใหญ่มากเลย ปีศาจก็นั่งเอกเขนกบนบัลลังก์อย่างสบายใจ

สิ่งแรกที่พระราชาทำก็คือว่า ยินดีต้อนรับ เจ้าปีศาจนั้นก็ตัวเล็กลงทันที แล้วพระราชาก็ถามต่ออีกว่า ขาดเหลืออะไรหรือเปล่า เจ้าปีศาจก็ตัวเล็กลงอีก

จากบทสนทนาต่อไปจนสุดท้าย พระราชาบอกว่า เจ้าจะอยู่นานสักเท่าไหร่ก็ได้นะ ปรากฏว่าเจ้าปีศาจตัวนั้นกลับเป็นปีศาจจิ๋วตัวเดิม แล้วก็เดินออกไปจากวัง

“เมื่อคุณสู้กับ…ปีศาจ
คุณต้องไม่เป็น…ปีศาจ
เมื่อคุณสู้กับ…ด้านมืดของคน
คุณต้องไม่ใช้…ด้านมืดของคุณ ”

ทิชา ณ นคร

ป้ามลเล่าว่า นิทานเรื่องนี้ได้มาจากกิจกรรมอบรมจิตวิทยากับชาวต่างชาติในอดีต เมื่อค้นหาชื่อเรื่อง ก็ปรากฏชื่อ ปีศาจกินความโกรธ หรือ The Anger Eating Monster ที่ถูกนำมาเล่าอีกครั้งโดย Prince Ea ยูทูบเบอร์ชื่อดังชาวอเมริกัน

บทส่งท้าย

การเล่นกับด้านมืดของคน จึงเป็นเรื่องที่เราจะต้องตระหนักอย่างมาก ความมืดมันจะทำให้คนรู้สึกว่าเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด เมื่อถึงจุดหนึ่ง เขาก็อาจจะไม่กลัวอะไรเลย ซึ่งบางทีเหตุการณ์ที่ดินแดงก็เหมือนว่าคนกลุ่มที่น่าจะมีวุฒิภาวะมากกว่า มีประสบการณ์มากกว่า มีความเจนจัดต่อโลกมากกว่า ลืมใช้ทุกสูตรที่ตัวเองมี ลืมใช้ไปหมดเลย แต่ใช้อำนาจอย่างเดียว ซึ่งยิ่งทำให้ทุกอย่างออกนอกลู่นอกทางไปเยอะมาก

ในทัศนะของของป้า ไม่ได้แปลว่าเด็ก ๆ ทำถูก เพียงแต่ว่าเฮ้ย!!! น่าจะมองเรื่องนี้ด้วย ด้วยสายตาที่ละเอียดอ่อนกว่านี้ แทนที่ปัญหามันจะเลยเถิดมาถึงขนาดนี้ มันอาจจะจบเร็วกว่านี้ หรือมันอาจจะมี ทางลง ที่สวยงามกว่านี้ก็ได้

Author

Alternative Text
AUTHOR

อัญชัญ อันชัยศรี

จากทุ่งนาสู่ป่าคอนกรีต สาวอีสานผู้หลงไหลในการเดินทาง ใช้ชีวิตไปตามแรงดึงดูดของความสัมพันธ์ เชื่อว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันคือการคัดสรรโดยธรรมชาติ