‘บิ๊กโจ๊ก’ ลั่นปมพิพาท ‘เกาะหลีเป๊ะ’ ต้องจบ! คืนความเป็นธรรม ใครผิด ฟันไม่เว้น

‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล’ ยอมรับข้อมูลเยอะ เรื่องซับซ้อน แต่เชื่อสางปัญหาได้ด้วยความจริง ตั้งต้นการได้มาเอกสารสิทธิ์ที่ดินชอบหรือไม่ เดินหน้าลงพื้นที่ 22 ม.ค.นี้ ฝั่งเครือข่ายชาวเล มุ่งหน้าเข้ากรุง ทวงถามรัฐ ถึงเวลาจริงจังแก้ปัญหา

วิทวัส เทพสง ผู้ประสานงานเครือข่ายชาวเลอันดามัน ระบุผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกำหนดการกิจกรรม ‘ทวงคืนแผ่นดินชาวเล’ จากกรณีข้อพิพาทที่ดินสาธารณประโยชน์ระหว่างเอกชน กับชาวเลเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล จนนำไปสู่การเคลื่อนไหวของตัวแทนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ และภาคประชาชน ร่วมกันเคลื่อนขบวนจากเกาะหลีเป๊ะ มายังกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 16-20 มกราคมนี้

ภายหลังนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาฯ เรื่องนี้เครือข่ายชาวเลอันดามัน ยืนยันให้โอกาสคณะกรรมการชุดนี้ทำงาน แต่ระหว่างนี้ก็มีข้อเรียกร้องถึงนายกฯ ให้มีมาตรการคุ้มครองทางสาธารณะ เปิดรั้วโรงเรียน ซึ่งยังไม่ดำเนินการ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใส่ใจปัญหาเรื่องนี้มากขึ้น ทั้งนี้แม้เป็นช่วงปลายของรัฐบาล แต่ก็หวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่รับรู้ปัญหามาตลอด จะให้ชาวเลได้มีโอกาสพบ ฟังข้อเท็จจริงจากปาก เพื่อนำไปสู่การแสดงศักยภาพ สร้างความเป็นธรรมให้กับชาวเล ในฐานะผู้นำประเทศ

“ทางฝ่ายประสานงานของรัฐบาลไม่อยากให้ชาวเลขึ้นไปกดดันที่กรุงเทพฯ ช่วงนี้ ขอทำงานก่อน ชาวเลก็รับฟัง ลดจำนวนคน โดยจะเน้นสื่อสาร รณรงค์ไม่ประชิดกดดันที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งถือว่าชาวเลก็ต้องปรับเพื่อแสดงความวางใจต่อรัฐบาลพอสมควร แต่หลังจากวันที่ 25 มกราคมนี้ หากการดำเนินการยังไม่คืบหน้า ไม่เกิดผลที่เป็นธรรม การปักหลักชุมนุมยาวแบบเต็มรูปแบบจะเกิดขึ้น

สำหรับร่างกำหนดการ #ชาวเลหลีเป๊ะทวงคืนแผ่นดิน นั้นระบุว่า ในวันที่ 16 ม.ค. ช่วงสายเครือข่ายฯ เตรียมเข้ายื่นหนังสือต่อกระทรวงศึกษาธิการ ขอให้คุ้มครองนักเรียนและที่ดินโรงเรียน ส่วนในช่วงบ่าย ยื่นหนังสือต่อกระทรวงมหาดไทย ขอให้ติดตามผลการดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ ตามข้อเสนอรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ปี 2533

จากนั้นในวันที่ 17 ม.ค.ช่วงเช้า จะยื่นหนังสือต่อองค์การสหประชาชาติ (UN) ขอเรียกร้องให้ไทยคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ ต่อด้วยการยื่นหนังสือต่อกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ในประเด็นเอกสารสิทธิ์เอกชนรุกที่ดินโรงเรียน ในช่วงบ่าย จะยื่นหนังสือต่อกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องการทวงคืนที่ดินอุทยาน

วันที่ 18 ม.ค. ตัวแทนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ จะเข้ายื่นข้อมูลต่าง ๆ ให้กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 19 ม.ค. เตรียมเปิดเผย “กระบวนการฮุบที่ดินชาวเล” โดยมีนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ และตัวแทนกลุ่มชาวเล ร่วมให้ข้อมูล คาดว่าจะจัดขึ้นที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย


ส่วนวันที่ 20 ม.ค. เตรียมยื่นข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับที่ดินชาวเลเกาะหลีเป๊ะ ให้กับ อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเล เกาะหลีเป๊ะ

เพจเฟซบุ๊ก Maitree Jongkraijug 


สอดคล้องกับ ไมตรี จงไกรจักร ผู้จัดการมูลนิธิชุมชนไท ที่โพสต์ข้อความในเรื่อง #33ปีที่มหาดไทยคาราคาซัง โดยอ้างถึง การตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ที่ดินเกาะหลี ของกระทรวงมหาดไทย ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก่อนหน้านี้พบว่ามีข้อสรุปเสนอให้ คณะรัฐมนตรี ตั้งแต่ เดือนมิถุนายน ปี 2533 โดยให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ ส.ค.1 จำนวน 17 แปลง และ น.ส.3 จำนวน 12 แปลง



ไมตรี ยังระบุด้วยว่า มีข้อสรุปของกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ว่า น.ส.3 หลายแปลง มีกระบวนการไม่ชอบมาพากล บางแปลงบิน และ บวม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบว่า เอกสารบางแปลง ออกทับ ที่อุทยานฯ บางแปลงบวมทับสุสาน และบางแปลงถือครองเกินกว่าเอกสารสิทธิ์ เช่นเดียวกับที่ดินถนน ลำราง หนองน้ำ ด้วย ในขณะที่ DSI ก็ยืนยันว่า เอกสารสิทธิ์ส่วนใหญ่ออกโดยมิชอบ จึงเห็นว่า ที่ผ่านมา กรรมการหลายชุด ตรวจสอบพบเห็นปัญหา แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงมหาดไทย ทั้งกรมที่ดิน กรมการปกครอง กลับไม่ได้ปกป้อง ดูแล พื้นที่สาธารณะ อ้างแค่ว่า เป็นไปตามกฎหมาย 

“กระทรวงมหาดไทย ทำอะไรอยู่ กรณีเกาะหลีเป๊ะ ตรวจสอบมา กว่า 33 ปี แล้ว แต่กลับทำอะไรคืบหน้าไม่ได้ โดยเฉพาะช่วงที่ รัฐมนตรีเคยมีอำนาจ คสช. และเป็นต่อ มาถึงปัจจุบัน ในขณะที่ชาวเลหลีเป๊ะ ทวงถามท่านมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ท่านมานั่งตำแหน่งใหม่ ๆ ผ่านมากว่า 8 ปีที่ไม่มีทางแก้ไข”


‘บิ๊กโจ๊ก’ ย้ำ ตั้งต้นตรวจสอบการได้มาซึ่งที่ดิน พบทำผิดต้องเพิกถอน

สำหรับความคืบหน้าภายหลังมี คำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 339/2565 ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา เรื่องแต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเล เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล โดยให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน และมีกรรมการจากภาคส่วนต่าง ๆ อีก 20 คน รวม 21 คนนั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : นายกฯ ลงนามตั้ง คกก.ตรวจสอบข้อพิพาทที่ดินเกาะหลีเป๊ะ

ล่าสุด The Active พูดคุยกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้รับคำยืนยันว่า จนถึงตอนนี้ได้รับข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากคณะกรรมการหลายชุดที่เคยตรวจสอบปัญหามาก่อนหน้านี้ มาครบถ้วนแล้ว โดยวางแนวทางการทำงาน คือ ต้องยึดหลักข้อเท็จจริง หลักกฎหมาย ต้องดูว่าการได้มาของที่ดินถูกหรือไม่ การถือครองเอกสารสิทธิ์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ต้องเริ่มจากตรงนี้ จากนั้นจะนำไปสู่การดำเนินคดี

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

สำหรับคณะทำงานครั้งนี้ แม้ประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ยืนยันว่าข้อมูลจากส่วนต่าง ๆ รวมถึงภาคประชาชน จะนำไปพิจารณาร่วมด้วย หากจำเป็นต้องตั้งอนุกรรมการเพิ่มเติมทั้งในส่วนของประชาชน และเอกชน ก็จะดำเนินการ เพื่อให้เกิดความตรงไปตรงมา ค้นหน้าความจริงให้ได้ครบถ้วนที่สุด ขณะเดียวกัน ในวันที่ 22 มกราคมนี้ เตรียมเดินทางพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหา แน่นอนว่าก่อนลงพื้นที่ต้องดูข้อมูลต่าง ๆ ให้ครบถ้วน หากพบว่าส่วนไหนผิด ก็ต้องดำเนินคดีก่อน

“วันนี้ผมต้องใช้อำนาจตามที่นายกฯ มอบหมาย เรียกเอกสารทั้งหมดมาดู ยอมรับว่าเยอะพอสมควร แต่ยังไงต้องเร่งให้เร็ว เอกสารซับซ้อน แต่ไล่ได้ ตรวจได้ ว่าข้อเท็จจริงอยู่ตรงไหน ถ้านับหนึ่งถูกต้องนับสาม นับสี่ก็จะเดินง่าย และในวันที่ 22 มกราคม จะลงพื้นที่ ก็ต้องแก้ไขปัญหาให้ได้ เพราะถ้าผู้ใหญ่ลงไปแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็เกิดคำถามว่าแล้วจะลงไปทำไม ลงไปแล้วต้องเกิดผล ต้องหาความจริงให้ได้ ยังไงเรื่องนี้จะพยายามทำให้เร็ว อันดับแรกต้องเรื่องที่ดิน ออกโดยชอบหรือไม่แค่นี้เอง ถ้าออกไม่ชอบต้องเพิกถอน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ส่วนการออกมาเคลื่อนไหวของเครือข่ายชาวเลในสัปดาห์หน้านั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ย้ำว่า เข้าใจปัญหาความเดือดร้อน ยืนยันนายกฯ สั่งการชัดเจน ต้องเอาความเป็นธรรมมาคืนทุกคนให้ได้ จึงขอความกรุณาว่าจะเร่งรัดเรื่องนี้และดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ความเป็นธรรมเกิดขึ้น

“ทุกคนรักษาสิทธิของตัวเอง ถ้าเรารู้ว่าอันไหนผิดถูกจะพูดกับเขาได้ ทุกอย่างต้องอยู่บนหลักการเดียวกัน ยังไงเรื่องนี้ก็ต้องทำความจริงให้ปรากฎเสียที เพราะว่ามันนานมากแล้ว ฟังปัญหานี้มานาน ไม่รู้เรื่องว่าเป็นยังไง เมื่อได้รับมอบหมายก็เอาซะที ทำให้ชัดเจน โปร่งใส ผิดว่าไปตามผิด เจ้าหน้าที่รัฐคนไหนผิดก็ต้องดำเนินคดี แล้วประชาชนจะรู้เอง ทุกเรื่องถ้าหาความจริงได้ปัญหาก็จบ แต่ทุกวันนี้ไม่ได้พูดเรื่องจริงกัน คิดว่าเรื่องนี้ทำไม่ยากหรอกครับ”   

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล



Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active