หลังในคลิปพบพฤติกรรมไกด์นำเที่ยว ประพฤติตัวไม่เหมาะสมจนทัวร์ลง ด้านบริษัททัวร์ยอมรับให้ “เด็กเรือ” มาทำหน้าที่แทน ล่าสุดกรมการท่องเที่ยวตรวจสอบบริษัทฯดังกล่าว พบใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวหมดอายุ มีโทษทั้งจำและปรับ
จากกรณีที่ #คัลแลนพี่จอง ติดเทรนด์อังดับ 1 ใน X (Twitter) ต่อเนื่องเป็นวันที่สาม หลังจากช่อง YouTube : Cullen HateBerry เผยแพร่คลิป เราจะดำน้ำ กระโดดหน้าผา ตามหาน้องเต่า-น้องฉลาม | ชุมพร DAY 3 ซึ่งเป็นคลิปที่ทั้ง 3 หนุ่ม ได้แก่ คัลแลน พี่จอง และแดน เที่ยว จ.ชุมพร ซึ่งโดยปกติแฟนคลับมักจะเข้ามาชื่นชมลีลาการเล่าเรื่องเดินทางของทั้ง 3 คน
แต่สำหรับ EP. นี้ต่างไปจากคลิปที่ผ่านมา เมื่อผู้ชมได้สังเกตเห็นพฤติกรรมของคนที่แนะนำตัวเองว่า “เป็นไกด์” ทำหน้าที่นำเที่ยวในทริปนี้ ทำให้มีทั้งแฟนคลับ ยูทูบเบอร์สายท่องเที่ยว ผู้ทำอาชีพไกด์หลายคน เข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก ทั้งเรื่องการแต่งกายที่ไม่เหมาะสม ไม่ติดบัตรแสดงตัว ให้นักท่องเที่ยวจ่ายค่าตั๋วให้ ติดตามไปกินข้าวด้วยถึง 3 มื้อ รวมทั้งการที่นักท่องเที่ยวซื้อทัวร์มาแบบ Private แต่กลับไม่ได้รับความเป็นส่วนตัวตลอดทริปอีกด้วย
หลังเกิดกระแสดราม่าขึ้น ทางช่อง Cullen HateBerry ได้เขียนสรุป ชี้แจงดังนี้
“สวัสดีครับ จากทีมงานช่อง Cullen Hateberry เราจะมาชี้แจงประเด็นในส่วนของไกด์ในคลิปชุมพร ep.3 ครับ เราได้พูดคุยกับไกด์และบริษัททัวร์ ซึ่งในวันนั้นไกด์ที่จะนำทัวร์ไม่สามารถมาได้ ดังนั้นน้องที่เป็นเด็กเรือจึงมาเป็นไกด์ให้เราแทนครับ ”ซึ่งทางบริษัททัวร์ได้ขอโทษสำหรับการทำงานของน้องที่อาจจะไม่ได้ตรงตามการทำงานของไกด์ นอกจากนี้น้องยังเป็นแฟนคลับของช่อง Cullen Hateberry มาเป็นเวลานาน น้องได้ทำการขอโทษจากใจจริงที่อาจจะทำให้หลาย ๆ คนอึดอัด ทางบริษัททัวร์ได้ทำการขอโทษต่อทีมงาน Cullen Hateberry ที่อาจจะรบกวนการถ่ายทำ และเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น“ และนี่เป็นการแสดงความขอโทษจากบริษัททัวร์ครับ ทางทีมงานช่อง Cullen Hateberry ก็ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งที่ไม่สามารถสื่อสารและอธิบายสถานการณ์ให้ผู้ชมทราบได้อย่างถี่ถ้วนในวิดีโอ ทั้งคัลแลน พี่จอง และน้องแดน ไม่ทราบในประเด็นนี้เพราะในทริปนี้ทั้ง 3 คนสนุกสนานและแฮปปี้กับทางบริษัททัวร์และไกด์ครับ ในอนาคตเราจะทำงานให้มากขึ้นเพื่อสร้างคอนเทนต์ที่สนุกสนานครับ”
Cullen HateBerry
แม้ว่าทางช่องจะออกมาชี้แจง แต่หลายคนยังตั้งข้อสังเกตถึงการให้บริการของบริษัททัวร์แห่งนี้ ทั้งการให้เด็กเรือมาทำหน้าที่แทนไกด์นำเที่ยว ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมและผิดจรรยาบรรณอาชีพ รวมทั้งเรียกร้องให้บริษัททัวร์รับผิดชอบกับเหตุการณ์นี้
เปิดคุณสมบัติ มัคคุเทศก์
ขณะที่ “คุณสมบัติของอาชีพมัคคุเทศก์” ต้องมีการปฏิบัติและขั้นตอน ตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 มาตรา 50 โดยสรุปได้ดังนี้
- อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ในวันที่ขอรับใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์
- มีสัญชาติไทย
- สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือเทียบเท่าในสาขามัคคุเทศก์ หรือสาขาการท่องเที่ยวที่มีวิชาเกี่ยวกับมัคคุเทศก์ หรือ สำเร็จการศึกษาระดับอนุปริญญา หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงในสาขามัคคุเทศก์ หรือสาขาการท่องเที่ยวที่มีวิชาเกี่ยวกับมัคคุเทศก์ไม่น้อยกว่าที่คณะกรรมการกำหนด หรือได้รับวุฒิบัติ ว่าได้ผ่านการฝึกอบรมวิชามัคคุเทศก์ตามหลักสูตรและสถานฝึกอบรมที่คณะกรรมการกำหนด
- ผ่านการทดสอบความรู้ความสามารถในการเป็นมัคคุเทศก์ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่คณะกรรมการประกาศกำหนด โดยใน มาตรา 57 ได้ระบุมาตรฐานในการปฏิบัติหน้าที่ การแต่งกาย การรักษามารยาท ความประพฤติ และการตรวจสุขภาพของมัคคุเทศก์ให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด และต้องติดบัตรประจำตัวตลอดเวลาที่ทำหน้าที่มัคคุเทศก์ ซึ่งมีโทษกรณีไม่ติดบัตร คือ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
มาตรา 60 มัคคุเทศก์ต้องไม่ยินยอมให้ผู้อื่นซึ่งไม่มีใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์แทนตน ฝ่าฝืนต้องระวงโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนกรณีการแอบอ้างเป็นมัคคุเทศก์ กฎหมาย มาตรา 86 ระบุุว่า ผู้ใดทำหน้าที่มัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ตามกฎหมาย หรือทำหน้าที่ระหว่างถูกสั่งพักใบอนุญาต ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
วิธีตรวจสอบมัคคุเทศก์แท้-เถื่อน
สำหรับการตรวจสอบ ข้อมูลมัคคุเทศก์ หรือ ธุรกิจนำเที่ยวว่ามีใบอนุญาตดำเนินการตามกฎหมายหรือไม่ สามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยเข้าไปที่ https://www.dot.go.th/ เข้าไปที่ LICENSE CHECK โดยสามารถตรวจสอบได้ทั้ง ใบอนุญาตนำเที่ยว ใบอนุญาตมัคคุเทศก์ และใบอนุญาตผู้นำเที่ยว เมื่อทำการกรอกชื่อลงไป ขึ้นสถานะการจดทะเบียนว่า “ปกติ” แสดงว่าได้รับการจดทะเบียนที่ถูกต้อง และสามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนการให้บริการอื่น ๆ ได้ที่ โทร 024011111 ตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่การตรวจสอบเพิ่มเติมของกรมการท่องเที่ยวกับบริษัทนำเที่ยวในรายการข้างต้น พบว่า ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวหมดอายุตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา และผู้หญิงที่ทำหน้าที่ไกด์ตามที่ปรากฏในข่าว ไม่มีใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ ซึ่งมีความผิดตามกฎหมายธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ มีโทษจำคุกทั้งจำทั้งปรับ