‘แพทย์ชนบท’ เผย ยาฟาวิฯ ขาดแคลนหนัก ​’สธ.’ ชี้ ติดเชื้อไม่มีอาการ ไม่ต้องรับยา

ช่วงกันยาฯ 64 ยาฟาวิพิราเวียร์เหลือเฟือ จึงจ่ายยากับผู้ติดเชื้อทุกคน สร้างความเข้าใจผิด ขณะที่ช่วงนี้ความต้องการสูง ต้องเก็บไว้ให้กลุ่มเสี่ยง อภ. กำลังเร่งผลิตเพิ่ม ด้าน ‘รองอธิบดีกรมการแพทย์’ ระบุ อาการเล็กน้อยหายเองได้ เหมือนไข้หวัด ไม่ต้องรับยา

วันนี้ (26 ก.พ. 2565) ชมรมแพทย์ชนบท เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ท่ามกลางการระบาดของโอมิครอนอย่างหนัก แต่ฟาวิพิราเวียร์อาวุธสำคัญกลับขาดแคลนหนักมาก หนักอย่างชนิดที่ว่า หลายโรงพยาบาลแทบไม่มีจะจ่ายหรือต้องจำกัดการจ่าย หลายโรงพยาบาลไม่ใช่ให้ในคนอายุมากกว่า 60 ปีตามที่กระทรวงสาธารณสุขสั่งการแล้ว แต่ให้ในคนอายุมากกว่า 80 ปี เพราะยามีไม่เพียงพอ

ในช่วงท้ายการระบาดของเชื้อเดลตาราวกันยายน (2564) เป็นต้นมา ฟาวิพิราเวียร์ก็เริ่มหาง่าย เพราะองค์การเภสัชกรรมผลิตได้เอง เดือนตุลาคมเดลตาเริ่มลด จำนวนฟาวิฯ มีเหลือเฟือ กระทรวงสาธารณสุขจึงประกาศให้จ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ให้แทบทุกคนที่ติดเชื้อ มีการตามตัวชี้วัดอย่างแข็งขัน กระตุ้นการจ่ายฟาวิฯ แม้เกินจำเป็นจนกลายเป็นที่รับรู้ของสังคมอย่างไม่ถูกต้องนักว่า ผลบวก = ฟาวิ  

สิ่งที่กระทบกับทางโรงพยาบาล รพ.สต. CI และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกระดับเผชิญความเหนื่อยยากจากฟาวิมี 2 เด้งคือ

  1. ไม่มีฟาวิจะจ่ายให้ผู้ป่วยที่ควรได้รับฟาวิ เช่นผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวหรือ ผู้ป่วยสีเหลืองเป็นต้น ทุกข์ทั้งหมอและคนไข้
  2. ต้องเหนื่อยยากกับการทำความเข้าใจกับผู้ป่วยโควิดที่เดินทางมาเพื่อรับยาฟาวิ แล้วไม่มียาให้ รายที่อายุน้อยแข็งแรงก็พอจะคุยได้ แต่รายที่อายุค่อนข้างมาก มีอาการไอมากเจ็บคอมากนี่สิ เขามาแล้วก็ไม่ได้ยาไปดังที่คาดหวัง ทำให้เป็นภาระในการอธิบายจนเกินกว่าเจ้าหน้าที่จะรับไหว

ฟาวิพิราเวียร์ขาดแคลนนั้น เป็นปัญหาที่โรงพยาบาลแก้เองไม่ได้ เพราะยาถูกผูกขาดโดยรัฐ อีกทั้งการทำความเข้าใจของกระทรวงสาธารณสุขต่อประชาชนให้เข้าใจสถานการณ์ก็ไม่มี ไม่กล้าบอกความจริงกับประชาชน การบอกให้ประชาชนเข้าใจว่าไม่ใช่ทุกคนที่ต้องทานฟาวิพิราเวียร์ก็ไม่ชัดเจน

“เสาร์อาทิตย์นี้ฟาวิขาดหนักมาก จริงเท็จประการใด ส่งข่าวมาทางcomment กันด้วยนะพี่น้องเสียงบ่นก่นด่าเรื่องฟาวิขาดแคลนกำลังดังขึ้นเรื่อยๆ  ไม่รู้ท่านอนุทินได้ยินหรือเปล่า” 

เพจชมรมแพทย์ชนบท

อภ. สำรองยาฟาวิพิราเวียร์ 84 ล้านเม็ด

ภญ.ศิริกุล เมธีวีรังสรรค์ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศ ทำให้มีความต้องการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19  องค์การเภสัชกรรม ได้มีการบริหารจัดการสำรองยาฟาวิพิราเวียร์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ดังกล่าว 

โดยขณะนี้มีการสำรอง จำนวน 24 ล้านเม็ด และทำการการผลิตเพิ่มเติมอีก 60 ล้านเม็ด รวมการสำรองทั้งสิ้น 84 ล้านเม็ด เพื่อกระจายสู่หน่วยบริการแม่ข่ายอย่างต่อเนื่อง 

ทั้งนี้จำนวนดังกล่าว เป็นการสำรองอยู่ที่องค์การเภสัชกรรม นอกจากนี้ยังมีการสำรองไว้ที่หน่วยบริการต่าง ๆ ทั่วประเทศอีกจำนวนหนึ่ง 

อย่างไรก็ตาม ยาฟาวิพิราเวียร์ทั้งหมดได้จัดสรรให้กับหน่วยบริการหรือโรงพยาบาลแม่ข่ายต่าง ๆ ตามการบริหารจัดการของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (PHEOC) โดยกลุ่มภารกิจสำรองเวชภัณฑ์และส่งกำลังบำรุง องค์การเภสัชกรรม เป็นผู้ดำเนินการจัดส่งกระจายตามการจัดสรรให้กับหน่วยบริการแม่ข่ายในแต่ละพื้นที่อย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นหน่วยงานแม่ข่ายจะทำการบริหารจัดการและกระจายให้แก่หน่วยบริการลูกข่ายในแต่ละพื้นที่ต่อไป

อาการน้อยไม่ต้องรับยา 

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่าผู้ติดเชื้อโควิด-19 หากไม่มีอาการไม่จำเป็นต้องจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ ซึ่งไปตามแนวทางการรักษาของทั่วโลก โดยเราจะจ่ายให้กับผู้ที่มีอาการปานกลางขึ้นไป เป็นไกด์ไลน์ใหม่ของกรมการแพทย์

“การจ่ายยาขอให้แพทย์เป็นผู้พิจารณา และทำความเข้าใจกับคนไข้ ยาคือยาต่างจากขนม ยาทานเข้าไปแล้วก็มีผลดี ผลข้างเคียงและผลเสีย จึงต้องรับประทานที่จำเป็นจริง ๆ 

เราน่าจะเป็นการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์มากที่สุดแห่งหนึ่ง เพราะเราใช้หลายสิบล้านเม็ด แต่ต้องพิจารณาข้อดีข้อเสีย” 

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต

ขณะที่ นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่าทุกวันนี้มีการเข้าใจผิด มีประชาชนและจิตอาสามาขอยาให้ประชาชน อยากบอกว่าแนวทางการรักษาในปัจจุบันออกมาว่า ผู้ป่วยไม่มีอาการไม่จำเป็นต้องได้ยาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียร์ หากมีอาการหรือความเสี่ยงก็อีกเรื่อง แต่อาจพิจารณาให้ฟ้าทะลายโจรได้ แต่หากรับฟ้าทะลายโจรแล้วก็ไม่ควรรับฟาวิพิราเวียร์มารับประทานร่วมกัน อาจเกิดภาวะตับอักเสบได้ ถ้าอาการมากขึ้นจะมียาตัวอื่น หรือส่งเข้า รพ.รักษาตามระบบตามปกติ

ไม่กินยาฟาวิพิราเวียร์คู่ฟ้าทะลายโจร 

รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวอีกว่า การกินยาฟาวิพิราเวียร์ มีโอกาสเกิดผลข้างเคียง ที่กลัวคือ ตับอักเสบ แม้จะไม่เกิดขึ้นมาก แต่ก็เกิดได้ รวมถึงกรณีที่มีดวงตาเปลี่ยนเป็นสีฟ้า ยิ่งกินคู่กับฟ้าทะลายโจรทำให้มีอาการขึ้นมา จึงต้องซักประวัติก่อนว่า รับยาฟ้าทะลายโจรมาแล้วหรือไม่ ต้องหยุดก่อน ไม่กินคู่กัน

สำหรับคนไม่มีอาการและไม่ได้รับยา ถ้าแพทย์วินิจฉัยเร็วก็ต้องรอดูอาการอีก 2-3 วัน หากยังไม่มีอาการ ก็ไม่จำเป็นต้องรับยาฟาวิราเวียร์ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ไปมาก ทำให้คนเข้าใจว่าต้องกินยา คนเรียกร้องเข้ามาผ่าน 1330 เพราะต้องการยา ทั้งที่ไม่มีความจำเป็น

“หากเป็นอาการเล็กน้อยให้รักษาตามอาการ ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดหายเองได้ไวรัสตัวนี้เหมือนไข้หวัด แต่ที่ผ่านมา เดลตามีความรุนแรง ไม่มีภูมิต้านทาน ก็ลงปอด ยิ่งมีโรคประจำตัว ก็แย่ลง พอติดเชื้อแจ้งเข้ามาส่วนใหญ่ก้มีอาการจึงจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ แต่ช่วงนี้โรคมีความรุนแรงลดลง ส่วนใหญ่ไม่มีอาการพอมี ATK ก็ตรวจรู้ผลเร็ว ไม่มีอาการ จึงไม่ได้จ่ายยา” 

นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์

Author

Alternative Text
AUTHOR

วชิร​วิทย์​ เลิศบำรุงชัย

ผู้สื่อข่าวสาธารณสุข ThaiPBS