ทวงเงินอุดหนุนเด็กถ้วนหน้า กู้วิกฤตผู้ปกครองยุคโควิด-19

เครือข่ายรัฐสวัสดิการเพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม ร้อง “กมธ.” ทวงสัญญารัฐบาล “จัดสรรเงินอุดหนุนเด็กเล็ก 0-6 ปีถ้วนหน้า” ชี้ สัญญาต้องเป็นสัญญา ประกาศตามหา “พลังประชารัฐ – ประชาธิปัตย์” รับผิดชอบนโยบายใช้หาเสียง

22 ก.ค. 2564 – เครือข่ายรัฐสวัสดิการเพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม หรือ We Fair เปิดเวทีเสวนาออนไลน์ “เงินอุดหนุนเด็กเล็ก 0-6 ปีถ้วนหน้า” เข้าพบคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี ส.ส. ณัฐวุฒิ บัวประทุม และ ส.ส. ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ จากพรรคก้าวไกล เป็นตัวแทนรับฟังสถานการณ์ และรับจดหมายเปิดผนึก “ข้อเสนอสิทธิสวัสดิการและสิทธิทางสังคม ประชากรกลุ่มเฉพาะ”

นิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ ผู้ประสานงานเครือข่าย We Fair กล่าวว่า มีข้อเสนอให้คณะกรรมาธิการฯ จับตาการแปรญัตติและทวงถามความคืบหน้าในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 วาระ 2 ในส่วนเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด 0-6 ปี โดยวาระแรกกำหนดงบฯ ส่วนนี้ 16,659.49 ล้านบาท ซึ่งไม่สอดคล้องกับมติคณะกรรมการส่งเสริมเด็กและเยาวชนแห่งชาติ (กดยช.) ที่มี จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมพิจารณาเห็นชอบให้รัฐบาลจัดเงินอุดหนุนเด็กเล็ก 0-6 ปี เดือนละ 600 บาท แบบถ้วนหน้า สำหรับเด็ก 4.2 ล้านคน ในปีงบประมาณ 2565 แต่กลับไม่มีการบรรจุเรื่องนี้ไว้ในร่า งพ.ร.บ.งบฯ ปี 65 ทั้งที่ควรตั้งงบประมาณ 30,000 ล้านบาท

“ในการจัดสรรเรื่องนี้ยังไม่เป็นแบบถ้วนหน้า เขาประมาณการเด็กที่จะเข้าถึงสิทธิ์นี้ประมาณ 2 ล้านกว่าคน คือประมาณครึ่งเดียวจากจำนวนเด็กทั้งหมดที่มีประมาณ 4.2 ล้านคน ถ้าเป็นระบบถ้วนหน้าจะใช้เงินไม่ได้มากเลยประมาณ 30,000 ล้านบาท เราเรียกร้องในเรื่องนี้ว่าควรเป็นระบบถ้วนหน้า เพื่อทำให้เด็กทุกคนเข้าถึงสิทธิ์ รัฐไม่ได้มองเรื่องสงเคราะห์ หมดปัญหาตกหล่นจากการพิสูจน์ความจน ขณะเดียวกันก็เป็นการลงทุนพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในช่วงวัยที่คุ้มค่าที่สุด การจัดสวัสดิการจึงควรเป็นแบบถ้วนหน้าในความเห็นของเรา”

ส่วนประเด็นที่พรรคการเมืองเคยหาเสียงไว้เกี่ยวกับการจัดสวัสดิการเด็กเล็ก เครือข่าย We Fair ขอให้พรรคพลังประชารัฐรับผิดชอบนโยบาย มารดาประชารัฐ ช่วยค่าเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดถึง 6 ปี เดือนละ 2,000 บาทและพรรคประชาธิปัตย์รับผิดชอบนโยบาย เกิดปั๊บรับแสน ช่วยค่าเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดถึง 8 ปี เดือนละ 1,000 บาท ตามสัญญาในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล หากทำไม่ได้ก็ขอให้พิสูจน์ความเป็นผู้นำด้วยการ จัดสรรเงินอุดหนุนเด็กเล็ก 0-6 ปี เดือนละ 600 บาท แบบถ้วนหน้า” ให้ได้ก่อน

นิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ ผู้ประสานงานเครือข่าย We Fair

นอกจากนี้ เครือข่าย We Fair มีข้อเสนอให้คณะกรรมาธิการฯ พิจารณาศึกษาแนวทาง เพื่อสร้างโอกาสในการยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำและความเปราะบางของเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการกลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ เพื่อสร้างสังคมไทยเสมอหน้าสู่รัฐสวัสดิการ ในประเด็นเงินอุดหนุนเด็ก เยาวชน และสิทธิสังคม 3 ข้อเสนอหลัก

1.) ข้อเสนอสิทธิสวัสดิการด้านเด็กและเยาวชน เสนอให้ จัดสรรเงินสนับสนุนเด็กและเยาวชน อายุ 0 – 18 ปี ไม่ต่ำกว่าเส้นความยากจนโดยเฉลี่ยของประเทศ, เงินสนับสนุนเด็กและเยาวชนอายุ 19 – 22 ปี สำหรับการเรียนมหาวิทยาลัย/ปวส. ไม่ต่ำกว่าเส้นความยากจนโดยเฉลี่ยของประเทศ, พิจารณาเพิ่มงบประมาณรายหัวประชากรศูนย์รับเลี้ยงดูเด็กอายุ 0 – 3 ขวบ

2.) ข้อเสนอสิทธิทางสังคมประชากรกลุ่มเฉพาะ คนพิการ เพศสภาพ ชาติพันธุ์ เสนอให้เพิ่มเบี้ยยังชีพคนพิการจาก 800 บาท เป็นตามเส้นความยากจนของประเทศ, คนพิการมีอิสระในการจัดซื้อกายอุปกรณ์ ตามวงเงินที่รัฐจัดหาให้, คนพิการได้รับเงินสนับสนุนการอบรมอาชีพในหลักสูตรที่รัฐกำหนด

กลุ่มเพศสภาพ เสนอให้กระบวนการข้ามเพศเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน, พนักงานบริการฯ ต้องเข้าถึงสวัสดิการ

กลุ่มชนเผ่าพื้นเมือง ผู้มีปัญหาสถานะบุคคล ต้องให้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ด้วยการเข้าถึงรัฐสวัสดิการ

3.) สิทธิสวัสดิการผู้สูงอายุ เสนอให้เปลี่ยน “เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ” จาก 600 – 1,000 บาท/เดือน เป็น “บำนาญถ้วนหน้า” โดยใช้เกณฑ์เส้นความยากจนโดยเฉลี่ยของประเทศ ปรับเพิ่มขึ้นทุก 5 ปี ตามอัตราเงินเฟ้อและดัชนีผู้บริโภค เพื่อเป็นหลักประกันทางรายได้ โดยรัฐบาลจ่ายตรงให้แก่ประชาชนผ่านกรมบัญชีกลาง

ทั้งนี้ ณัฐวุฒิ บัวประทุม รองประธานคณะกรรมาธิการฯ และ ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ โฆษกคณะกรรมาธิการฯ สนับสนุนข้อเสนอเครือข่าย We Fair ระบุว่าหลายประเด็นมีความคืบหน้าในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร เช่น ร่างกฎหมายเกี่ยวกับผู้ประกอบอาชีพภาคบริการ ซึ่งเตรียมเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย 

ส่วนประเด็นเงินอุดหนุนเด็กเล็ก 0-6 ปีถ้วนหน้า จะนำไปเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภา และจะไม่ผลักดันเพียงระดับนโยบายเท่านั้น แต่จะยกระดับไปสู่การเสนอเป็นกฎหมาย เพื่อให้มีความมั่นคงเมื่อเปลี่ยนรัฐบาล

ณัฐวุฒิ บัวประทุม รองประธานคณะกรรมาธิการเด็ก เยาวชนฯ
ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ โฆษกคณะกรรมาธิการเด็ก เยาวชนฯ

เวทีเสวนา “เงินอุดหนุนเด็กเล็ก 0-6 ปีถ้วนหน้า” เป็นส่วนหนึ่งของเวทีเสวนาออนไลน์ในซีรีส์ “We Fair We Care ชวนคุยถึงรัฐสวัสดิการถ้วนหน้าในทุกวัยของชีวิต” ที่เครือข่าย We Fair จัดขึ้นเพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกต่อคณะกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎร 3 คณะ ระหว่างวันที่ 21-23 ก.ค. 2564 โดย 21 ก.ค. เป็นการเข้าพบคณะกรรมาธิการการแรงงาน, 22 ก.ค. พบคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ, 23 ก.ค. พบคณะกรรมาธิการการสวัสดิการสังคม สามารถติดตามได้ทางเพจ We Fair

• อ่านเพิ่ม จี้ กมธ.แรงงาน สร้างประกันสังคมถ้วนหน้า เพิ่มสวัสดิการประชาชน

Author

Alternative Text
AUTHOR

ศศิธร สุขบท

มนุษย์ช่างฝัน ชอบสร้างสรรค์ข่าวเชิงบวก มีพรรคพวกชื่อจินตนาการ แสนสุขกับงานขับเคลื่อนสังคม