ผ่านแล้ว ร่างกฎหมายคุม NGO

ครม.ให้เพิ่มการติดตามความโปร่งใสการใช้เงิน “องค์กรที่ไม่แสวงหารายได้” ป้องกันการฟอกเงิน

รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเมื่อวานนี้ (29 มิ.ย.) ว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบการแก้ไขเพิ่มเติมหลักการของร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้ (NGO) ที่คณะรัฐมนตรี เห็นชอบในหลักการ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา 

โดยให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และปลัดกระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบร่วมกัน และคณะกรรมการกฤษฎีกาได้นำร่างที่ได้เห็นชอบร่วมกันไปรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง 

ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นชอบส่วนที่จะเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรฐานสากลด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ในการต่อต้านการสนับสนุนการเงินแก่การก่อการร้าย การแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง เนื่องจากประเทศไทย เป็นสมาชิกกลุ่มต่อต้านการฟอกเงิน asia pacific ซึ่งประเทศไทย จะต้องรับการประเมินเป็นระยะ 

ล่าสุดการประเมินรอบที่ 3 ประเทศไทย ก็ถูกประเมินว่ายังมีส่วนที่ไม่สอดคล้องเป็นไปตามมาตรฐานสากล ซึ่งประเทศไทย จะต้องปรับปรุงยกระดับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินให้สูงขึ้น เพื่อติดตามความโปร่งใสขององค์กร NGO จึงจำเป็นต้องนำหลักการที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินไปบรรจุไว้ในร่างกฎหมายดังกล่าว

สำหรับประเด็นที่จะต้องนำไปสู่การพิจารณายกร่างกฎหมายเพิ่มเติม มี 8 ประเด็น เช่น การจดทะเบียนและการเปิดเผยข้อมูลการจดทะเบียน เนื่องจากปัจจุบันยังมีองค์กร NGO จำนวนมากที่ไม่ได้จดทะเบียน และการลงโทษยังไม่เหมาะสม การเก็บรักษาข้อมูลวัตถุประสงค์ของกิจกรรมขององค์กร NGO และชื่อบุคคลที่เป็นเจ้าของ หรือมีอำนาจควบคุมการเปิดเผยข้อมูล เนื่องจากไม่ชัดเจนว่ามีข้อมูลดังกล่าวและสาธารณชนสามารถเข้าถึงได้หรือไม่ 

การให้ข้อมูลขององค์กร NGO ต่อหน่วยงานต่างประเทศ เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายให้อำนาจเปิดเผยข้อมูลกับหน่วยงานต่างประเทศ และไม่มีความชัดเจนในการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร NGO กับองค์กรต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนต่อไปคณะกรรมการกฤษฎีกาจะนำข้อมูลการฟอกเงิน ไปปรับให้เหมาะสมให้สอดคล้องกับความคิดเห็นของภาคประชาชนที่แสดงความคิดเห็นมา จะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณชนอีกครั้ง  

Author

Alternative Text
AUTHOR

เพ็ญพรรณ อินทปันตี

อดีตนักกิจกรรม รักการอ่าน งานเขียน ว่ายน้ำ และเล่นกับแมว