ห่วง “กะเหรี่ยงบางกลอย” ถูกกล้อนผมเข้าเรือนจำ ขัดจารีต ความเชื่อ

กรรมการสมานฉันท์ และ เครือข่ายชาติพันธุ์ เห็นพ้อง ไม่ควรมีใครถูกละเมิดสิทธิในเนื้อตัวร่างกาย โดยเฉพาะความเชื่อ จารีตตามวิถีวัฒนธรรม ระบุ สำหรับกะเหรี่ยงบางคนถูกตัดผม เสมือนสูญเสียขวัญ อย่างรุนแรง

กรณีตำรวจ สภ.แก่งกระจาน ส่งตัว ชาวกะเหรี่ยงบางกลอย 22 คน ซึ่งชุดจับกุมอุทยานฯ แก่งกระจานนำตัวลงจากบางกลอยบน เพื่อดำเนินคดีข้อหาบุกรุกป่า เข้าฝากขังภายในเรือนจำกลาง จ.เพชรบุรี ตั้งแต่ช่วงค่ำที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ หน่อแอะ มีมิ ลูกชายปู่คออี้ (โคอิ มีมิ) รวมอยู่ด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นหลายฝ่ายแสดงความกังวล ว่า อาจขัดต่อวิถีวัฒนธรรม ความเชื่อของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง

ตัวแทนชาวกะเหรี่ยง รวมตัวที่อุทยานฯ แก่งกระจาน เพื่อให้กำลังใจชาวบางกลอยที่ถูกจับกุมดำเนินคดี


เรื่องนี้ วุฒิ บุญเลิศ ผู้ประสานงานเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เขตงานแนวตะนาวศรี ยอมรับว่า สำหรับกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบางคนที่ยึดมั่นในวิถีวัฒนธรรม เคารพในลัทธิความเชื่อที่ถ่ายทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ อย่าง เช่น การแต่งกาย การไว้ผมยาว การมวยผม โพกศีรษะด้วยผ้า อาจเป็นสิ่งที่ขัดต่อระเบียบของราชทัณฑ์ ดังนั้นหากเจ้าหน้าที่ไม่เข้าใจในวิถีความเชื่อของบุคคล อาจกระทบต่อสภาพจิตใจ ความรู้สึก

เพราะสำหรับการไว้ผมยาวของชาวกะเหรี่ยงนั้น ถือเป็นความเชื่อในเรื่องของสง่าราศี เป็นขวัญทางจิตวิญญาณ ที่ได้รับมาจากบรรพบุรุษ จึงจะเห็นว่าสำหรับกะเหรี่ยงที่เคร่งครัดความเชื่อเช่นนี้ บางคนจะไม่ตัดผมเลย และไว้ยาวโดยใช้ผ้าโพกเอาไว้ เพราะการตัดผม ก็เหมือนตัดทำลายขวัญที่ยึดถือมาทั้งชีวิต ดังนั้น หากการถูกคุมขัง ต้องนำไปสู่การถูกกล้อนผมตามระเบียบ จึงเป็นห่วงว่าจะกระทบต่อความรู้สึกอย่างรุนแรง โดยเฉพาะ หน่อแอะ มีมิ ลูกชายปู่คออี้ ที่ยึดมั่นในจารีต และเคารพความเชื่อลักษณะนี้มาตลอด

หน่อแอะ มีมิ ลูกชายปู่คออี้ 1 ใน 22 ชาวบ้านบางกลอยที่ถูกนำตัวเข้าเรือนจำกลาง จ.เพชรบุรี

ขณะที่ เตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสมานฉันท์ ในฐานะอดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ก็แสดงความเป็นห่วงเรื่องนี้เช่นกัน โดยระบุว่า สิทธิในเนื้อตัวร่างกายไม่ควรมีใครต้องถูกละเมิด แม้ทราบดีถึงระเบียบของราชทัณฑ์ที่ต้องปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน แต่สำหรับกรณีของชาติพันธุ์บางคนแล้ว ควรต้องอยู่ที่ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่เรือนจำ ที่ต้องเข้าใจวิถีวัฒนธรรม และจำเป็นที่ต้องได้รับการยกเว้น เพราะถือเป็นสิ่งที่กะเหรี่ยงยึดถือมาชั่วชีวิต

ยกตัวอย่าง กรณีการทำบัตรประจำตัวประชาชนของปู่คออี้ ที่ได้รับในช่วงอายุ 97 ปี ซึ่งตนในฐานของกรรมการสิทธิมนุษยชน ตอนนั้นก็เป็นคนหนึ่งที่เดินทางไปเป็นเพื่อนปู่คออี้ตอนทำบัตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียน ที่แก่งกระจาน ขอให้ปู่ถอดผ้าโพกหัวออก เพื่อถ่ายรูปทำบัตร แต่ปู่ไม่ยอมถอดผ้าออก จึงได้ขอให้เจ้าหน้าที่ถ่ายรูปทั้งที่มีผ้าโพกหัวอยู่แบบนั้น ซึ่งก็ถือเป็นการยึดมั่นในอัตลักษณ์ ตามวิถีความเชื่อ

สำหรับประเด็นการจับกุมชาวกะเหรี่ยงบางกลอย ข้อหาบุกรุกป่าทั้ง 22 คน นั้น โดยเฉพาะ หน่อแอะ ถูกตั้งคำถามอย่างมากว่า เป็นการกระทำที่รุนแรง เกิดกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่หรือไม่ เพราะหากดูจากสภาพร่างกายของหน่อแอะ ที่มีความพิการ ไม่สามารถแผ้วถาง บุกรุกป่าตามที่ถูกกล่าวหาได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว จึงตั้งข้อสังเกตการต่อการกระทำของเจ้าหน้าที่ ซึ่งในวันจันทร์ ที่ 8 มีนาคม นี้ ตนเตรียมนำกรณีการจับกุมชาวกะเหรี่ยงบางกลอย เข้าสู่การหารือในคณะกรรมการสมานฉันท์ เพื่อให้นำไปสู่การหาแนวทางแก้ปัญหา และยุติการละเมิดสิทธิชาวบ้านอย่างเร่งด่วน  

Author

Alternative Text
AUTHOR

พงศ์เมธ ล่องเซ่ง

นักข่าวไม่จำกัดสาย จัดให้ได้ทุกประเด็น