บ้านในกระดาษ

ในยุคสมัยที่การพัฒนา และงานกระจุกตัวอยู่ในเมืองใหญ่ ทำให้คนมากหน้าหลายตามุ่งหน้าเข้าสู่เมือง หวังลงหลักปักฐาน และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น . “บ้าน” คือคำที่ใคร ๆ ก็ฝันอยากจะมี แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นจริงได้อย่างฝัน โดยเฉพาะคนจน . และมีอีกจำนวนไม่น้อยที่กำลังอยู่ในความเสี่ยงจะถูกขับไล่ออกจากที่อยู่อาศัย เพราะบุกรุกอยู่ในที่ดินของรัฐและเอกชน แต่พวกเขามีทางให้เลือกไม่มากนัก
“บุญร่มไทร” ชุมชนแออัดริมทางรถไฟเขตราชเทวี เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของผู้คนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด เพื่อแสวงโชคในเมืองกรุงเมื่อ 50 ปีก่อน ในยุคสมัยที่ละแวกนี้ยังรกร้าง พวกเขาแผ้วถางพุ่มไม้หนาพงหญ้ารก สร้างที่พักอาศัยชั่วคราว ก่อนลงหลักปักฐาน ขยับขยายครอบครัวอยู่ตลอดแนวริมทางรถไฟ เพราะใกล้แหล่งทำมาหากิน
แม้จะอยู่มานานกว่าครึ่งศตวรรษ และรวมตัวกันเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง แต่กรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย ชุมชนจึงไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรุงเทพมหานคร 
.
เมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 มีผู้ติดเชื้อในชุมชน ทำให้พวกเขาไม่สามารถร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐ ต้องพึ่งพาอาศัยกันเองเท่าที่ทำได้
“ชาติ” เป็นผู้ติดเชื้อรายแรกในชุมชนบุญร่มไทร ระหว่างรอรถโรงพยาบาลมารับ เขาไม่สามารถกักตัวแยกห่างจากครอบครัวได้ เพราะบ้านหลังเล็ก ๆ ริมทางรถไฟของชาติมีเพียงห้องเดียว ซึ่งทั้ง 5 คนในบ้าน ใช้พื้นที่เดียวกัน ทั้งกิน อยู่ หลับนอน ทำอาหาร ทำให้ภรรยาและลูก ๆ กลายเป็นผู้มีความเสี่ยงสูงตามไปด้วย
บ้านแต่ละหลังสร้างขึ้นตามมีตามเกิด ต่อเติมเสริมความสะดวกสบายได้มากเท่าที่แต่ละคนจะมีความสามารถ แต่พื้นที่การใช้งานก็ไม่สามารถตอบโจทย์ความเป็นอยู่ที่ดีได้อย่างที่ควรจะเป็น เด็ก ๆ ขาดพื้นที่วิ่งเล่นตามวัย ในเมื่อบ้านก็คับแคบ นอกบ้านก็เต็มไปด้วยอันตราย
ในวันที่ภรรยาไม่ว่างดูแลลูกที่บ้าน “ชาติ” จำเป็นต้องพาลูกสาวคนเล็กมาทำงานด้วย เพื่อลดความเสี่ยงที่เด็ก ๆ จะไปพบเจออันตรายจากฟืนไฟในบ้าน หรือริมทางรถไฟหน้าบ้าน แม้งานบนท้องถนนจะเสี่ยงอันตรายไม่แพ้กัน แต่เขาก็อุ่นใจที่ได้ดูแลลูกอย่างใกล้ชิด
“เชาว์ เกิดอารีย์” ผู้นำชุมชนบุญร่มไทร มีอาชีพขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างในย่านราชเทวี ย่านธุรกิจที่เคยคึกคัก เต็มไปด้วยห้างร้าน พนักงานบริษัท แต่มาตรการป้องกันการระบาดของโควิด-19 
เปลี่ยนวิถีชีวิตผู้คนให้เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน 
.
รายได้ที่เคยมีเป็นกอบเป็นกำก็หดหาย ไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพในเมืองใหญ่
“เชาว์” นั่งอยู่ในบ้านที่สร้างขึ้นอย่างง่าย ๆ เช่นเดียวกับบ้านหลังอื่น ๆ ในชุมชนบุญร่มไทร เคร่งเครียดกับการอ่านเอกสารคดีความ ที่ตัวเขาเองและชาวบ้านส่วนหนึ่งตกเป็นจำเลย คดีบุกรุกที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย
แม้ข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินของชุมชนบุญร่มไทรจะยังไม่เป็นที่ยุติ และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้เงินยิ่งหายากขึ้นไปอีก แต่พวกเขาก็ยังเดินหน้าเก็บออมเงินกับกลุ่มออมทรัพย์ในชุมชน ด้วยความหวังว่าเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ จะสะสมเป็นทุนสร้างบ้านหลังใหม่ของตัวเองได้ในอนาคต
“ชาติ” อวดกองไม้ที่เขาสะสมไว้มานานปี คนทั่วไปอาจมองเป็นเศษไม้ไร้ค่า วงกบผุ ๆ เสาพัง ๆ เหล็กดัดเก่าขึ้นสนิม แต่สำหรับชาติ นี่คือส่วนประกอบของบ้านหลังใหม่ในอนาคตที่เขาตั้งใจจะสร้างขึ้นด้วยสองมือของตัวเอง
ลายเส้นปากกาลูกลื่นขีดเขียนบ้านในกระดาษขึ้นมาอย่างง่าย ๆ มีหน้าต่างประตู หลังคา และห้องหับเป็นสัดส่วนอย่างที่บ้านทั่วไปควรจะมี แต่ชาติยังไม่มี ทำได้เพียงวาดและฝันไว้ว่าสักวันลูกหลานจะได้มีที่พำนักพักพิงอันอบอุ่นสะดวกสบายในมหานครแห่งนี้

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active