ค้านจนกว่าจะถอนร่าง พ.ร.บ.การดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร

ขบวนการต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน เตรียมบุกทำเนียบพรุ่งนี้ยื่น 3 ข้อเรียกร้อง ถอนร่างกฎหมาย พร้อมออกหนังสือยืนยันไม่เดินหน้ากฎหมายควบคุมเสรีภาพการรวมกลุ่มอีกต่อไป

วันนี้ (23 พ.ค.) ภาคประชาชนจากทั่วประเทศ ในนาม “ขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน” รวมตัวกันที่หน้าสำนักงานองค์การสหประชาชาติ (UN) ตั้งแต่ช่วงเช้า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้งวางกำลัง และได้นำแผงกั้นรั้วเหล็กมาปิดกั้นพื้นที่บริเวณหน้า UN ทำให้เกิดความชลมุลระหว่างผู้ชุมนุมที่ผลักดันกัน โดยผู้ชุมนุมขอให้เปิดช่องทางหน้า UN เพื่ออ่านแถลงการณ์การเคลื่อนไหว  จนกระทั่งตำรวจยอมเปิดทางทำให้สถานการณ์คลี่คลาย  

อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังคงยืนยันที่จะปิดถนนบริเวณประตูทางเข้าองค์การสหประชาชาติ โดยให้เหตุผลว่ามีการประชุมสำคัญด้านใน และเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องใช้อำนาจในการวางแผงเหล็กเพื่อดูแลความปลอดภัยให้ พร้อมระบุว่าการมามั่วสุม ทำลายแผงเหล็ก เป็นการกระทำผิดกฎหมาย โดยห้ามไม่ให้บุกรุกเข้าไปในสถานที่ราชการ รวมถึงทำร้ายเจ้าหน้าที่ และทำลายทรัพย์สินราชการ 

จากนั้นในช่วงเวลา  14.00 น. ขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน ได้อ่านแถลงการณ์ถึงรัฐบาล เรียกร้องให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีที่ให้ความเห็นชอบในหลักการต่อร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร ที่พวกเขาเห็นว่าละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์โดยทันที และยุติการเสนอกฎหมายควบคุมเสรีภาพการรวมกลุ่มของประชาชนทุกฉบับ

โดยมีรายละเอียดสำคัญระบุว่า ตามที่เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2565 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการต่อร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร และมอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบของร่างกฎหมายตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญฯ  และพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี ซึ่งการรับฟังความคิดเห็นสิ้นสุดแล้วเมื่อวันที่ 30 เมษายน2565

โดยในระหว่างช่วงเวลาการรับฟังความคิดเห็น พี่น้องประชาชนในนาม ‘ขบวนต่อต้าน
ร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน’ ซึ่งเกิดจากการรวมกลุ่มของนักปกป้องสิทธิมนุษยชนประชาชน นักกิจกรรม และองค์กรภาคประชาสังคม ที่มีความเห็นและเจตนาร่วมกันชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยและไม่ยอมรับร่างกฎหมายทำลายสิทธิเสรีภาพในการรวมกลุ่มของประชาชนทุกฉบับ ได้ใช้สิทธิชุมนุมแสดงความคิดเห็นและยื่นหนังสือคัดค้านกฎหมายดังกล่าวต่อนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ยุติการผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าวโดยทันที แต่ปรากฏว่ายังไม่มีการดำเนินการตามข้อเรียกร้องของประชาชนแต่อย่างใด

ในวันนี้ ขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชนจึงมารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อยืนยันคัดค้านและเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการผลักดันร่างกฎหมายฉบับนี้โดยทันที โดยมีเหตุผลดังต่อไปนี้ 

1.เนื้อหาสาระสำคัญในร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ. … มีความหมายกว้างขวางคลุมเครือ สร้างข้อจำกัดในการทำงานขององค์กรที่ทำงานประเด็นสังคมโดยไม่แสวงหากำไรหรือการรวมกลุ่มของประชาชนเพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน อีกทั้งยังกำหนดเงื่อนไขความผิดโดยอ้างเหตุความมั่นคง ความสงบเรียบร้อย ศีลธรรมอันดี ความแตกแยก และผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ ได้อย่างกว้างขวางคลุมเครือตามอำเภอใจ เพื่อเป็นเหตุในการใช้อำนาจสั่งลงโทษให้หยุดดำเนินการหรือยุติกิจกรรมขององค์กรได้ โดยไม่มีกระบวนการตรวจสอบถ่วงดุลโดยศาลก่อน 

“  หากกฎหมายฉบับนี้ผ่านออกมา การรวมตัวของประชาชน เช่น สมาคม, มูลนิธิ, กลุ่มจิตอาสา, กลุ่มรณรงค์ประเด็นต่างๆ, การทำงานที่ชอบธรรมของนักปกป้องสิทธิมนุษยชนตามปฏิญญาสากลว่าด้วย นักปกป้องสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ และกลุ่มกิจกรรมต่างๆ จะเป็นไปอย่างยากลำบากด้วยความคลุมเครือของข้อกฎหมาย  “ 

แถลงการณ์ระบุ

2. ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ไม่ได้มีเจตนารมณ์ในการสนับสนุนให้องค์กรไม่แสวงหากำไรทำงานได้ง่ายขึ้นแต่อย่างใด แต่เป็นบทบัญญัติที่มุ่งเน้นไปที่การแทรกแซงสิทธิมนุษยชนพื้นฐาน คือการรวมกลุ่มของประชาชนทุกคน ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนอย่างกว้างขวางรุนแรงเพียงเพื่อความมั่นคงของการผูกขาดการใช้อำนาจของรัฐบาลมิให้ประชาชนรวมกลุ่มตรวจสอบการบริหารจัดการบ้านเมืองของรัฐบาล ที่สืบทอดอำนาจมาจากเผด็จการทหาร คสช. เฉกเช่นกฎหมายฉบับอื่นๆ ในตลอด 8 ปีที่ผ่านมา 

ถือเป็นการคุกคาม และกำจัดกลุ่มคนที่มีความเห็นต่างทางการเมือง กำจัดประชาชนที่เรียกร้องต่อรัฐและผู้มีอำนาจเพื่อต้องการการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีกว่าเป็นหลัก เพื่อใช้เป็นเครื่องมือปกป้องรัฐบาลที่กำลังขาดเสถียรภาพอย่างรุนแรง เป็นบทบัญญัติ  ที่ขัดต่อเสรีภาพในการรวมกลุ่มเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออก ที่จะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อบทบาทของประชาชนและนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในการมีส่วนร่วมสนับสนุนและตรวจสอบการทำงานของภาครัฐภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ตามมาตรา 34 และมาตรา 42 แห่งรัฐธรรมนูญ และมาตรา 19 และมาตรา 22 ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ICCPR ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีและมีพันธะที่ต้องให้การรับรองคุ้มครอง 

การสร้างเงื่อนไขข้อจำกัดตามร่างกฎหมายฉบับนี้ยังขัดต่อหลักการประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมที่รัฐพึงส่งเสริมให้ประชาชนมีบทบาทในการมีส่วนร่วมสนับสนุนและตรวจสอบการทำงานของภาครัฐด้วย นอกจากนี้ยังขัดกับปฏิญญาว่าด้วยนักปกป้องสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติที่ประเทศไทยเป็นภาคีและรัฐไทยอ้างว่าได้ทำตามปฏิญญานี้มาตลอด ในข้อ 5 ที่ระบุว่า เพื่อวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน บุคคลทุกคนต้องมีสิทธิในการพบปะ ก่อตั้งกลุ่มหรือสมาคม หรือชุมนุมร่วมกันอย่างสันติและข้อ 12 
ที่พูดถึงหน้าที่ของรัฐในการดำเนินมาตรการที่จำเป็นคุ้มครองการใช้สิทธิฯดังกล่าว มิให้เกิดความรุนแรง การข่มขู่ ถูกตอบโต้หรือถูกเลือกปฏิบัติจากการใช้สิทธิเหล่านั้น

“ขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน” ขอยืนยันต่อต้านร่างกฎหมายทุกฉบับที่มีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุม กำกับ และทำลายสิทธิเสรีภาพในการรวมกลุ่มของประชาชนตามที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้ เพื่อจะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการปกป้องรักษาอำนาจรัฐ ลดทอนอำนาจและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของประชาชน และละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและการมีส่วนร่วมสร้างสังคมประชาธิปไตยอย่างแท้จริงของประชาชน“ 

แถลงการณ์ระบุ

ขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชนจึงมีข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี 3 ข้อ คือ 

1. ให้มีมติยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีที่ให้ความเห็นชอบในหลักการต่อร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ. …. ที่ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์โดยทันที และยุติการเสนอกฎหมายควบคุมเสรีภาพการรวมกลุ่มของประชาชนทุกฉบับ

2. ให้ทำข้อตกลงที่เป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะไม่ผลักดันร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ. …. และกฎหมายควบคุมเสรีภาพการรวมกลุ่มของประชาชนทุกฉบับอีก

และ 3. ให้การรับรองว่าจะไม่มีผู้ใดตกเป็นเป้าหมายการถูกคุกคาม การใช้ความรุนแรง ถูกจับกุมคุมขัง หรือถูกตั้งข้อหาต่อการที่ประชาชนใช้สิทธิขั้นพื้นฐานในการชุมนุมและแสดงออกโดยสันติ

“ พรุ่งนี้เราจะเคลื่อนขบวนเอาหนังสือที่เราแถลงกันวันนี้ไปยื่นต่อนายกรัฐมนตรีรัฐบาลกันถึงที่ที่ทำเนียบรัฐบาลพี่น้องพร้อมให้เราเตรียมตัวกันเลย “ 

สมบูรณ์ คำแหง  ตัวแทนขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน

ขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน ยังยืนยัน จะปักหลักชุมนุมอย่างไม่มีกำหนด และจะมีประชาชนมาร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่องจนกว่ารัฐบาลจะดำเนินการตามข้อเรียกร้องทั้ง 3  ข้อ 

Author

Alternative Text
AUTHOR

ทัศนีย์ ประกอบบุญ

นักข่าวสายลุย เกาะติดประเด็นแล้วไม่มีปล่อย รักการเดินทาง หลงรักศิลปะบนรองเท้า และชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ