เตือนอันตราย! ‘ลูกอมสายตี้’ นักอาชญาฯ ชี้ ‘สารเสพติด’ เปลี่ยนตามผู้เสพ

ป.ป.ส. ตรวจพบ ลูกอมสายตี้ขายเกลื่อนออนไลน์ ในรูปแบบ ‘ขนมเด็ก’ เป็นวัตถุออกฤทธิ์ ทำลายจิต ประสาท เมา ขณะที่นักอาชญาวิทยา ชี้คือวิวัฒนาการผู้ค้า ทำให้ขายง่ายมากกว่าหนีกฎหมาย แนะเจ้าหน้าปราบปรามตามกระแสผู้เสพให้ทัน

จากกรณีที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) ตรวจพบ อมยิ้ม ที่ผสมสารวัตถุออกฤทธิ์ ต่อจิตและประสาทจากร้านค้าออนไลน์

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยว่า จากตรวจพบการขายวัตถุออกฤทธิ์ ต่อจิตและประสาท แฝงในรูปแบบ ‘อมยิ้ม’ พบการขายในรูปแบบออนไลน์ ที่เรียกกันว่า ‘ลูกอมสายตี้’ หรือ ลูกอมเมา กำลังเป็นที่นิยมใช้ในกลุ่มวัยรุ่นและนักท่องเที่ยวตามสถานบันเทิง และจากการนำตัวอย่างอมยิ้ม จำนวน 4 แบบ ส่งสถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ตรวจสอบ ผลปรากฏว่า อมยิ้ม ทั้ง 4 แบบ มีสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทผสมอยู่ โดยลูกอมแบบที่ 1 ตรวจพบ ไนเมตาซีแพม และทรามาดอล แบบที่ 2 และแบบที่ 3 ตรวจพบ คีตามีนและทรามาดอล และแบบที่ 4 ตรวจพบ ฟลูไนตราซีแพม

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส.

สำหรับ ไนเมตาซีแพม คีตามีนไฮโดรคลอไรด์ และ ฟลูไนตราซีแพม จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด เป็นยาควบคุมที่แพทย์จะต้องสั่งจ่ายยาเท่านั้น สถานพยาบาลที่จะสั่งจ่ายยานี้ได้ต้องได้รับอนุญาตขายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ซึ่งไม่สามารถจำหน่ายในร้านขายยาทั่วไปได้ และการจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 2 จะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-15 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 100,000 – 1,500,000 บาท ความผิดฐานโฆษณา จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผู้ค้ายาเสพติดในปัจจุบันมักจะหาช่องทางการลักลอบจำหน่ายโดยใช้ สื่อสังคมออนไลน์ และเปลี่ยนแปลงรูปแบบในการค้ายาเสพติด ก่อนหน้านี้มีนำวัตถุออกฤทธิ์ลักษณะดังกล่าว บรรจุซองกาแฟ ชงกับน้ำดื่ม และปัจจุบันในรูปแบบอมยิ้ม เพื่อหลบหนีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ และสร้างความสนใจจากวัยรุ่นและนักท่องเที่ยว”

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ

The Active สอบถามเรื่องนี้เพิ่มเติมกับ ผศ.ร.ต.อ.จอมเดช ตรีเมฆ นักวิชาการด้านอาชญาวิทยา ผอ.หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาผู้นำทางสังคมฯ ม.รังสิต บอกว่า ยาเสพติดมีวิวัฒนาการในตัวเองมาโดยตลอด คล้าย ๆ กับ สินค้าชนิดหนึ่ง ที่จะทำให้ผู้บริโภคสามารถซื้อและใช้และเกิดการเสพติด ผู้ค้าได้พยายามเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสนิยม หากย้อนกลับไปช่วงแรก ๆ ที่มีการระบาดในไทย จะเป็นเฮโรอีน และต่อมาเป็นยาบ้า กลุ่ม แอมเฟตามีน และมาเป็นยาไอซ์ จากนั้นเริ่มมียาอีและยาเลิฟ ยาเค จนปัจจุบันที่มี Happy Water และกระทั่งเป็นรูปแบบลูกอม ลูกกวาด ซึ่งมองว่าไม่ได้เป็นการเปลี่ยนเพื่อหนีกฎหมาย แต่มองว่าเป็นการเปลี่ยนรูปแบบเพื่อให้ขายได้ง่ายขึ้น 

“ส่วนการหนีกฎหมาย อาจเป็นอีกประเด็นหนึ่งของผู้ค้า ที่เขาจะมองว่ายาเสพติดชนิดไหนที่ทำการตลาดได้ ส่วนการหนีกฎหมายเป็นอีกมุมหนึ่ง ส่วนสารเสพติดที่ถูกกฎหมายแล้ว ทั้ง แอลกอฮอล์ บุหรี่ กัญชา ก็มีคนทำการตลาด บางทีถูกกฎหมายแล้วก็ขายได้น้อยลง ผู้เสพมองว่าเข้าถึงง่ายแล้ว ยาเสพติดเป็นอะไรที่คาดเดาได้ยากมาก กว่าการบริโภคสินค้าอื่น”

ผศ.ร.ต.อ.จอมเดช ตรีเมฆ

ผศ.ร.ต.อ.จอมเดช บอกด้วยว่า ความฮิต หรือ กระแสนิยม บอกอะไรไม่ได้เลย วัฒนธรรมการเสพของแต่ละกลุ่มก็แตกต่างกัน การจะตามให้ทันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ คือ “การตามกลุ่มผู้เสพสารเสพติดให้ทัน” เพราะผู้ค้า ก็ทำตามผู้เสพ อะไรนิยม อะไรเป็นกระแส

ผศ.ร.ต.อ.จอมเดช ตรีเมฆ นักวิชาการด้านอาชญาวิทยา ผอ.หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาผู้นำทางสังคมฯ ม.รังสิต

“การแก้ปัญหายาเสพติดในไทยก็เป็นเรื่องยาก เนื่องจากไทยมีพรมแดน มีช่องทางธรรมชาติจำนวนมาก  และยาเสพติดส่วนใหญ่ มาจากนอกประเทศ ไม่ได้ผลิตในประเทศ ทำให้ไม่สามารถปิดช่องทางได้หมด แต่เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ก็ทำงานป้องกันปราบปรามอยู่ต่อเนื่อง แต่สิ่งสำคัญคือการ อัปเดตกระแส”

ผศ.ร.ต.อ.จอมเดช ตรีเมฆ

สบยช. เตือน ใช้สารเสพติดหลายชนิดร่วมแอลกอฮอล์ ถึงขั้นเสียชีวิต

นพ.ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ลูกอมสายตี้นับเป็น ยาเสพติดชนิดใหม่ ที่กำลังเป็นนิยมในกลุ่มวัยรุ่นและนักท่องเที่ยวยามราตรี ซึ่งเป็นการนำยาเสพติดหลายชนิดมาผสมเข้าด้วยกัน อาทิ เคตามีน ทรามาดอล สารไนเมตาซีแพม สารฟลูไนตราซีแพม ไฮโดรคลอไรด์ หรือยาที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทมาผสมกัน นำมาแปรรูป และจำหน่ายในรูปแบบของลูกอมหรืออมยิ้ม เมื่อนำมารับประทาน จะออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทในหลายรูปแบบ ทั้งกระตุ้นประสาท หลอนประสาท และกดประสาท แล้วแต่ว่าผู้ค้าผสมสารชนิดใดเป็นหลัก ทำให้เคลิบเคลิ้ม สนุกสนาน ตื่นตัว คึกคัก ซึ่งมีแนวโน้มจะแพร่ระบาดเป็นวงกว้างขึ้น และที่น่ากังวล คือ การใช้ยาเสพติดหลายชนิดร่วมกับการดื่มแอลกอฮอล์ จะเสริมฤทธิ์ทำให้กดการหายใจระบบหัวใจล้มเหลวและถึงขั้นเสียชีวิตได้

นพ.ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์

ขณะที่ นพ.สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผอ.สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) ย้ำเตือนกลุ่มวัยรุ่นและนักท่องเที่ยวที่นิยมทดลองของแปลกใหม่ ให้ตระหนักถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น เพราะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าผู้ค้าตั้งใจผสมสารชนิดใดลงไปบ้าง และพึงระลึกไว้เสมอว่าการใช้ยาเสพติดทุกชนิดมีความอันตราย ส่งผลต่อร่างกายของผู้เสพ เป็นสาเหตุของการเกิดความรุนแรงและอาชญากรรมต่าง ๆ อาจรุนแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้

นพ.สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผอ.สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.)

“ขอฝากถึงกลุ่มผู้ปกครองในช่วงนี้ ให้ระมัดระวังการเลือกซื้อขนมประเภทอมยิ้มให้บุตรหลาน ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่ไว้ใจได้ ดูส่วนผสมและแหล่งผลิตให้ชัดเจน หากไม่แน่ใจไม่ควรซื้อให้บุตรหลานบริโภคโดยเด็ดขาด การนำ ลูกอมสายตี้ ไปบริโภคโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์อาจเกิดอันตรายต่อบุตรหลานได้”

นพ.สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active