อ.สะบ้าย้อย – รพ.สงขลา ไป กลับ 150 บาทตลอดสาย หวังแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย หลังพบผู้ป่วยไม่ไปหาหมอเฉพาะทางตามนัด เหตุเดินทางไกล ไม่มีรถส่วนตัว ต้องเหมารถ 2,000 บาท/ครั้ง
นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จ.สงขลา โพสต์ข้อความระบุ รถตู้ลดเหลื่อมล้ำ พร้อมเดินรถแล้ว วันที่ 5 มกราคม 2567 โดยโรงพยาบาลสะบ้าย้อย ใช้รถตู้โรงพยาบาล รับส่งผู้ป่วยนอกมาตรวจ หรือติดตามการรักษาที่โรงพยาบาลสงขลา เพื่อลดการ loss follow up หวังเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการการแพทย์เฉพาะทาง
โดยระบุว่า รถออกทุกวันราชการ เวลา 7.00 น. ถึง โรงพยาบาลสงขลา 8.30 น. และกลับเมื่อผู้ป่วย และญาติ ขึ้นรถมาครบทุกคน (มีระบบโทร.ตาม หากผู้ป่วยหรือญาติหายไปหรือมาช้า) ทั้งนี้ประชาชนในพื้นที่สามารถโทร.จองได้ที่ “ศูนย์ส่งต่อโรงพยาบาลสะบ้าย้อย 074-377-100 ต่อ 108 หรือ 065-979-9690 (กรุณาโทร.เวลา 14.00-16.00 น.) รับจำนวนจำกัดวันละไม่เกิน 12 คน”
“โรงพยาบาลสงขลา ยินดีช่วยให้บริการคนสะบ้าย้อยอย่างเข้าใจว่า ต้องบริหารจัดการไม่ให้รอนานจนสี่โมงเย็นไม่เสร็จ เพื่อที่ผู้ป่วย และญาติจะได้กลับบ้านไม่ค่ำ โรงพยาบาลเก็บค่ารถคนละ 150 บาท (ไป-กลับ) โดยมีระเบียบเงินบำรุงรองรับ รถตู้โรงพยาบาล และพนักงานขับรถโรงพยาบาลเป็นไปตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบก ขอบคุณทุกฝ่าย ทุกท่านมาก ที่ช่วยกันลุ้นจนสำเร็จ แล้วจะประเมินผลและเล่าให้ฟังเป็นระยะครับ”
นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ
ข้อจำกัดผู้ป่วย! แม้รักษาฟรี แต่ต้องเหมารถไปหาหมอ
นพ.สุภัทร เปิดเผยเพิ่มเติมกับ The Active ว่า เกือบปีหลังจากเข้ามาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย สิ่งที่เห็นคือเป็นอำเภอที่ห่างไกลจากตัวจังหวัด 100 กิโลเมตร และเป็นโรงพยาบาลที่ไม่มีแพทย์เฉพาะทาง เมื่อจะต้องส่งต่อผู้ป่วยไปพบแพทย์เฉพาะทาง ก็พบว่า คนไข้ส่วนหนึ่งไม่ยอมไป แม้ว่าจะมีความจำเป็นทางการแพทย์ เหตุผลเพราะปัญหาเรื่องรถ และค่าใช้จ่ายการเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลในตัวจังหวัด
ผอ.โรงพยาบาลสะบ้าย้อย บอกด้วยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นภาระที่ผู้ป่วยต้องรับผิดชอบเอง กรณีผู้ป่วยนอกไม่ใช้ผู้ป่วยฉุกเฉิน ต้องดิ้นรนยืมรถเพื่อนบ้าน หรือ ขอรถคนอื่นไป ขณะเดียวกันมีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่ต้องจ้างเหมารถเฉลี่ย 2,000 บาท/ครั้ง เพื่อเดินทางไปโรงพยาบาลสงขลา ซึ่งหากแพทย์นัดทุกเดือนหรือทุก 2 เดือน ก็เป็นภาระผู้ป่วยอย่างมาก
“เราก็เลยมาคิดกันว่าหรือเราจะช่วยได้ เพราะว่าเราอยากให้คนไกล ๆ ที่ขาดโอกาสในการเข้าถึงบริการ ได้เข้าถึงบริการแพทย์เฉพาะทาง ให้เอาแพทย์เฉพาะทางมาอยู่ที่นี่ก็คงเป็นไปไม่ได้ มันไกลมาก ก็เลยนำมาสู่การคิดเรื่องนี้แล้วก็วางแผนทำ“
นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ
แนะจัดระบบคิวพบแพทย์เฉพาะทาง รับมือ รักษาทุกที่
นพ.สุภัทร ยังให้ความเห็นเกี่ยวกับนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ด้วยว่า เป็นเรื่องที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรค์อีกเยอะ เรื่องใหญ่คงไม่ใช่ค่าใช้จ่ายการเดินทาง แต่เป็นเรื่องคิวที่โรงพยาบาลจังหวัด หรือ คิวพบแพทย์เฉพาะทางเต็ม ถึงจะเดินไปโรงพยาบาลใหญ่ แต่ก็จะไม่ได้คิว จะต้องมาจัดระบบอย่างไร
สมมติว่าคนไข้ปวดเข่า จะเดินตรงไปหาหมอกระดูกได้หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นหมอกระดูกก็จะงานยุ่งมาก และเสียโอกาสดูแลคนไข้ ที่หมอกระดูกควรได้ดู แต่ถ้าไปแล้วเจอแพทย์ทั่วไปตรวจคัดกรองก่อน ก็จะไม่ถูกใจผู้ป่วย เพราะผู้ป่วยอยากเจอแพทย์เฉพาะทาง
“ถ้าทุกคนมุ่งสู่แพทย์เฉพาะทาง ก็จะเป็นเรื่องที่วุ่นวายพอสมควร คิวก็จะยุ่งยากมาก นี่ก็อาจเป็นอุปสรรค์สำคัญที่ต้องแก้ครับ”
นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ