11 ปีที่รอคอย! พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เพิกถอนใบอนุญาตให้เจ้าของเหมืองเข้าทำประโยชน์ป่าสงวนฯ ต.ดงมะไฟ จ.หนองบัวลำภู 175 ไร่ พร้อมวินิจฉัย รายงาน EIA เหมืองหินปูน ไม่สอดคล้องบริบทชุมชน สิ่งแวดล้อม
วันนี้(17 ก.พ.66) ศาลปกครองอุดรธานี นัดฟังคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณี กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได ฟ้องเพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้เอกชนเข้าทำเหมืองแร่หินปูน ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู
โดยศาลปกครองสูงสุด พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้เพิกถอนใบอนุญาตเอกชนเจ้าของเหมืองเข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนป่าเก่ากลอยและป่านากลาง ต.ดงมะไฟ ให้เพิกถอนใบอนุญาตต่ออายุประทานบัตร เพื่อทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน เนื้อที่ 175 ไร่เศษ และวินิจฉัยว่า รายงาน EIA เหมืองหินปี 2543 ไม่สอดคล้องกับบริบทของชุมชน และสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย
ชาวบ้านประกาศชัยชนะอีกครั้ง ชี้ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดการต่อสู้
ขณะที่ กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได ออกประกาศ ระบุว่า คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดในวันนี้ ถือเป็นการสิ้นสุดการรอคอยอันยาวนาน แสดงให้เห็นว่าพลังแห่งการรวมกลุ่มต่อสู้อย่างเข้มแข็ง และต่อเนื่องมาตลอด 29 ปี ผนวกกับการต่อสู้ทางกฎหมายทำให้ได้รับชัยชนะอีกครั้ง แต่ยืนยัน เส้นทางการต่อสู้ยังไม่สิ้นสุดลง เพราะพื้นที่ภูผาฮวก และผาอีดำยังคงถูกประกาศเป็นแหล่งหินอุตสาหกรรม
ดังนั้นในปีนี้ทางกลุ่มฯ จะเดินหน้าทวงคืนพื้นที่กลับคืนมาเป็นป่าชุมชน ฟื้นฟู และเดินหน้าเข้าสู่ทศวรรษแห่งการพัฒนาพื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยให้สิทธิชุมชนในการออกแบบและตัดสินใจ เพื่อทวงคืนธรรมชาติ ทวงคืนสิ่งแวดล้อม ทวงคืนคุณภาพชีวิตที่ดีกลับมาเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง
สำหรับคดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2555 ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได 78 คน ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และมีวิถีชีวิตที่ผูกพันอยู่กับป่าสงวนแห่งชาติป่าเก่ากลอยป่านากลาง มาตั้งแต่บรรพบุรุษ ยื่นฟ้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ 1, อธิบดีกรมป่าไม้ ที่ 2, ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ที่ 3, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ 4, กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ที่ 5 และ ธีรสิทธิ์ (หรือ ดุสิต) ตรีวัฒน์สุวรรณ ที่ 6 ต่อศาลปกครองอุดรธานี เพื่อขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเพิกถอนหนังสืออนุญาตเข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และเพิกถอนใบอนุญาตต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่หินปูน ของบริษัท ธ.ศิลาสิทธิ จำกัด ที่ประกอบกิจการเหมืองแร่หินชนิดหินปูน เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง ในท้องที่ตำบลดงมะไฟ (คดีหมายเลขดำที่ ส.9/2555)
โดยในวันที่ 14 มีนาคม 2561 ศาลปกครองอุดรธานี มีคำพิพากษาให้เพิกถอนหนังสืออนุญาตเข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเก่ากลอยและป่านากลาง เพื่อทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน และเพิกถอนคำสั่งต่ออายุประทานบัตรที่ออกให้ประกอบกิจการเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน โดยให้มีผลนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา แต่ผู้ถูกฟ้องคดีได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองอุดรธานีต่อศาลปกครองสูงสุด
ขณะที่ในช่วงปี 2563 ชาวบ้านยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวต่อศาลปกครองสูงสุด ขณะเดียวกัน พวกเขาก็รวมตัวกันปิดทางเข้าออกเหมือง จนสามารถประกาศชัยชนะ ปิดเหมืองได้สำเร็จ ซึ่งระยะเวลาการฟ้องคดีนี้กว่า 11 ปี จนสุดท้ายศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาออกมาในวันนี้ (17 ก.พ.66)