กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ยืนยันจะกลับมาเคลื่อนไหวคัดค้านอีกครั้ง หลังครม.เห็นชอบเดินหน้าโครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี ตามนโยบายลดการนำเข้าแร่โปแตช เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาปุ๋ยที่มีราคาแพง
วันนี้ (29 มิ.ย. 2565) พิกุลทอง โทธุโย ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ยืนยันจะกลับมาเคลื่อนไหวคัดค้านอีกครั้ง หลังมีรายงานว่าเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2565 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบ ให้เดินหน้าโครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ จะไปเร่งออกประทานบัตรให้เอกชนดำเนินการหลังจากนี้ อย่างเร็วที่สุดภายใน 6 เดือน หรือ 1 ปี อาจเริ่มต้นดำเนินการได้ ตามนโยบายลดการนำเข้าแร่โปแตช เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาปุ๋ยที่มีราคาแพง
โดยก่อนหน้านี้ กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วย 2,586 รายชื่อ เพื่อคัดค้านการออกประทานบัตร ของบริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปแตช คอร์ปอเรชั่น เพราะเรื่องยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด
“สิ่งที่ชาวบ้านกังวลคือ หนึ่งดินทรุด สองน้ำเค็ม สาม อากาศเป็นพิษสามข้อนี้พวกคุณมีมาตรการอะไรที่จะมารองรับให้ชาวบ้านอุ่นใจ คำสั่งศาลเขาก็ออกมาแล้วเพราะฉะนั้นคุณก็ต้องทำตาม พ.ร.บ. ตามกฎหมายและคำสั่งศาลต้องพักไว้ก่อน”
สำหรับพื้นที่ที่ระบุว่าจะมีการทำเหมืองแร่โพแทช ซึ่งบริษัทเอกชนสำรวจแล้ว มีจำนวน 4 แปลง มีพื้นที่เหมืองใต้ดินประมาณ 26,000 ไร่ และพื้นที่บนดินประมาณ 1,600 ไร่ คาดว่าหากเหมืองแร่โปแตชเปิดดำเนินการได้ คาดการณ์ว่าจะสามารถสกัดโปแตชเซียมคลอไรด์ได้ประมาณ 2 ล้านตันต่อปี ขณะที่ก็มีเห็นประชาชนส่วนหนึ่ง เห็นด้วยกับโครงการ โดยกล่าวว่าคาดว่าจะทำให้เกิดการจ้างแรงงานในพื้นที่ และหวังว่าหากผลิตแร่ได้ ราคาปุ๋ยก็จะถูกลง