“ชลน่านพลีชีพ โดดเดี่ยว โดนกระทืบ
ผู้คนหนี เข้าซอกหลืบ หลบมุมไหน
พอผ่านพ้น ผู้คน ตะเกียกตะกาย
เหยียบย่ำ แย่งเป็นใหญ่ ไร้ยางอาย”
คงไม่ต้องถามไถ่กันว่ารู้สึกยังไง แต่ข้อความที่ได้อ่านข้างต้น ถูกโพสต์ไว้แรง ๆ ในเพจ หมอชลน่านFCไม่มีดราม่า ซึ่งแอดมินไม่ใช่ใครที่ไหน คือ หมอก้อย – พญ.นวลสกุล บำรุงพงษ์ ภรรยา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว
โพสต์ดังกล่าวบรรยายได้อย่างหมดจด ถึงความผิดหวังทันทีที่ หมอชลน่าน อกหักถูกเขี่ยพ้นเก้าอี้เจ้ากระทรวงสาธารณสุข จากการปรับครม. เศรษฐา 1/1 ซึ่งคนที่มานั่งเก้าอี้ตัวนี้แทน ก็คือ สมศักดิ์ เทพสุทิน
กระแสข่าวปรับหมอชลน่าน พ้น ครม. ส่งกลิ่นมาตลอดช่วงที่ผ่านมา ปฏิกิริยาและท่าทีต่าง ๆ ที่แสดงออกในช่วงสุดท้ายของการทำงานในตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินสายตรวจเยี่ยมหลายโรงพยาบาล จนแทบไม่ได้เข้ากระทรวง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คือ สิ่งที่หมอชลน่านใฝ่ฝัน เพราะเป็นตำแหน่งสูงสุดในวงการสาธารณสุข ที่หมอชลน่านเองก็เริ่มต้นจากการเป็น แพทย์ชนบท ใน อ.ปัว จ.น่าน
ไม่มีใครชี้ชัดได้ว่าอะไรคือสาเหตุทำให้ หมอชลน่าน หลุดเก้าอี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทย หมายมั่นปั้นมือให้หมอชลน่านคุมกระทรวงหมอมาก่อนแล้ว แต่ผ่านไปเพียง 8 เดือนทุกอย่างกลับพลิกผัน กลายเป็นคนที่ไม่มีบทบาทอะไรเลยในคณะรัฐมนตรี
กระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานา ข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ บ้างก็เชื่อว่าหมอชลน่าน คุมข้าราชการในกระทรวงฯ ไม่อยู่ แต่ประเด็นนี้ก็ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ เพราะเบื้องลึกภายในกระทรวงสาธารณสุข หมอชลน่าน ก็ถือว่าทำงานเข้ากับข้าราชการประจำได้ดี
นโยบายปลดล็อก ถือครองยาบ้าไม่เกิน 5 เม็ดเป็นผู้ป่วย จนได้รับฉายาว่า ‘รัฐมนตรียาบ้า 5 เม็ด’ เป็นอีกเหตุผลที่โลกโซเซียลเชื่อว่าทำให้หมอชลน่านหลุดเก้าอี้ เพราะกลับทำให้ยาบ้ากลับมาระบาดหนัก หลังจากปลดล็อก แม้พยายามสื่อสารถึงเหตุผล และความจำเป็นของการให้ผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัด แต่ดูเหมือนยังกลายเป็น หมู่บ้านกระสุนตก ให้ถูกคนด่าไม่น้อย
จากนี้บทบาทของหมอชลน่านจะเป็นยังไง ก็คงต้องตามกันต่อ… แต่ที่แน่ ๆ เมื่อพูดถึง สมศักดิ์ เทพสุทิน เจ้ากระทรวงสาธารณสุขป้ายแดง ก็มีอีกหลายเรื่องให้จับตาไม่แพ้กัน
ก่อนหน้านี้ สมศักดิ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี ที่คุมงานด้านสังคม ดูแลงานด้านสุขภาพ สสส. รวมถึงไปจนถึงงานด้านชาติพันธุ์ ที่ผ่านมาเคยมีนโยบายตั้ง กองทุนสุขภาพจิต หวังใจจะนำเงินที่มาจากการยึดทรัพย์คดียาเสพติด เรียกเก็บ ภาษีทุกข์ เอาเงินจากการพนัน บ่อนคาสิโนในอนาคตมาใช้ในกองทุนนี้
นี่ทำให้ยิ่งต้องจับตา ว่า เมื่อมาเป็น รัฐมนตรีสาธารณสุขเอง นโยบายยาเสพติดของรัฐบาลนี้ การเมืองเรื่องยาบ้า 5 เม็ด, ใบมะละกอ , กัญชง กัญชาทั้งหมด จะไปต่ออย่างไร ? เพราะก่อนที่หมอชลน่านจะไป ก็ปล่อยผี ตำรับยาที่มีส่วนผสมยาเสพติด ออกจากการควบคุม จนแพทย์ทั่วประเทศปวดหัว
ขณะเดียวกันในช่วงที่เป็นรองนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็ไฟเขียวให้ศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้การ ขยายเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไปแล้วเช่นกัน แน่นอนประเด็นนี้มีแรงต้าน เสียงคัดค้านอย่างหนักจากกลุ่มแพทย์ และภาคประชาสังคม สุดท้ายแล้วเรื่องนี้จะเดินไปทางไหน นี่จึงเป็นอีกเผือกร้อนที่ต้องรอดูว่าเจ้ากระทรวงสาธารณสุขคนใหม่จะเอายังไงต่อ
อีกเรื่องใหญ่อย่าง บุหรี่ไฟฟ้า ที่เวลานี้เยาวชนติดกันงอมแงม นำเข้าวางขายอย่างไร้การควบคุม จุดยืนของรัฐมนตรีสาธารณสุขที่ชื่อ สมศักดิ์ จะอยู่ตรงไหนในเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า เพราะก็แทบไม่เคยแสดงจุดยืนเรื่องนี้ออกมาอย่างชัดเจน
ส่วนโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ที่ยกให้เป็นการปฏิรูปวงการสุขภาพอีกรอบนั้นคงไม่ต้องกังวล เพราะคนทำงานจริง คือ ซุปเปอร์บอร์ด ที่คุมตระกูล ส. ไว้ทั้งหมด คือ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี
แต่จะว่าชิว ๆ ก็คงพูดได้ไม่เต็มปาก เพราะยังมีอีกหลายปัญหาที่รอให้แก้ อย่างปัญหายิบย่อยในระบบสุขภาพ กทม. ปัญหาใบส่งตัวผู้ป่วย ภายในสิทธิบัตรทอง ซึ่งหมอชลน่านเองก็ยังแก้ปัญหานี้ไม่ได้ ปล่อยผ่านมา 2 เดือนแล้ว ผู้ป่วยจิตเวชซึมเศร้า รอนานจนคิดสั้น รมต.สมศักดิ์ จะให้น้ำหนัก และเร่งปัญหาเหล่านี้ได้หรือไม่ ในบทบาทของ ประธานบอร์ด สปสช.
แต่ถึงยังไงในสายตาของ ชมรมแพทย์ชนบท ก็ออกมาย้ำว่า นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่นั้นหมอชลน่านได้วางรากฐานเอาไว้แล้ว ดังนั้น สมศักดิ์ เทพสุทิน ต้องมารับไม้ต่อ เพราะถือเป็นนโยบายที่สำคัญต่อประชาชน และสำคัญต่ออนาคตของพรรคเพื่อไทยด้วย แม้ยอมรับว่า ไม่ง่าย จากหลายปัจจัย โดยเฉพาะข้าราชการบางส่วนที่ยังเกียร์ว่าง แต่อย่างน้อย ชมรมแพทย์ชนบท ก็ได้ให้กำลังใจในภารกิจสถาปนาหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ดีที่สุดให้กับคนไทย
ถึงตรงนี้ สมศักดิ์ เทพสุทิน ไม่ใช่คนหน้าใหม่ในแวดวงสาธารณสุข เพราะเคยนั่งตำแหน่ง รัฐมนตรี ครั้งแรกบนเส้นทางการเมือง ก็ที่กระทรวงสาธารณสุข ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย รัฐบาลของ พล.อ.สุจินดา คราประยูร เมื่อปี 2535 แต่อยู่เพียง 54 วันเท่านั้น ถือว่าติดอันดับรัฐมนตรีอายุสั้น
การกลับมากระทรวงสาธารณสุขเที่ยวนี้ ในฐานะเจ้ากระทรวง จึงเป็นความท้าทายที่ สมศักดิ์ เทพสุทิน ยังต้องพิสูจน์ฝีมือ
