130+ กิจกรรม ‘บางกอกวิทยา’ เปลี่ยน กทม. เป็นห้องเรียนวิทยาศาสตร์

เปิดพื้นที่เรียนรู้เทคโนโลยี นวัตกรรม สร้าง Citizen Science และกิจกรรมกระตุ้นการลงทุน เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจทั่วกรุงเทพฯ นักวิชาการ หนุน Hack BKK ต่อยอด ทราฟฟี ฟองดูว์ แก้ปัญหา กทม.

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สำหรับ 12 เทศกาลตลอดปีทั่วกรุงเทพฯ ที่ผ่านมา 2 เดือน มีเรื่องศิลปะ คือ ดนตรีในสวน และหนังกลางแปลง แต่วิสัยทัศน์หลักคือทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน จึงเล็งเห็นว่างานวิทยาศาสตร์ก็มีความสนุกได้ไม่แพ้งานศิลปะ รองผู้ว่าฯ ศานนท์ หวังสร้างบุญ จึงได้คิดโจทย์ออกมาเป็น “บางกอกวิทยา” ซึ่งเหมือนกับชื่อโรงเรียน เปรียบเสมือนห้องเรียนขนาดใหญ่

“กรุงเทพฯ ก็เหมือนกับห้องเรียนขนาดใหญ่ เราแปลงห้องเรียนวิทยาศาสตร์จากภายในห้องเรียนมาอยู่ทั้งกรุงเทพฯ จะมีการจัดงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ โดยให้ทั้งความรู้ ความสนุก และความบันเทิง ระยะเริ่มต้นนี้ เรามีภาคีเครือข่าย 4 ราย ได้แก่ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) บริษัท เทคซอส มีเดีย จำกัด (Techsauce) และสมาคมไทยสตาร์ทอัพ นอกจากนี้ เรายังเปิดรับหน่วยงานที่ต้องการเข้าร่วมเป็นเครือข่ายเพิ่มเติมด้วย”

ผู้อำนวยการ อพวช. กล่าวว่า อยากให้วิทยาศาสตร์เป็นเรื่องสนุก เป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าถึงได้ และเชื่อว่า “บางกอกวิทยา” ที่จัดร่วมกับ กทม. จะทำให้ทุกท่านได้พบกับความสนุกสนาน อยากให้ทุกท่านเปิดใจ เข้ามาลองดู เพราะวิทยาศาสตร์ไม่ได้น่ากลัว และวิทยาศาสตร์ใกล้ตัวเรากว่าที่คิด ทุกท่านที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมจะมีความรู้สึกที่ดีขึ้นกับวิทยาศาสตร์ สามารถนำวิทยาศาสตร์ไปใช้ประโยชน์ได้ในชีวิต ในการพัฒนาชุมชน และในการพัฒนาประเทศ แล้วเราเชื่อว่าเราจะร่วมมือกันทำวิทยาศาสตร์ให้สนุกสนานได้

“นอกจากนี้ ทาง อพวช. ยังมีพื้นที่ เดอะ สตรีท รัชดา เราเป็นจัตุรัสวิทยาศาสตร์ และเราพร้อมที่จะร่วมมือกับ กทม. ในการเริ่มบางกอกวิทยาให้เร็วขึ้น ซึ่งได้เรียนท่านผู้ว่าฯ ไปว่า ถ้าอาทิตย์หน้าพร้อม เราสามารถเริ่มได้เลย เรามีกิจกรรมที่อยู่ในมือแบบง่าย ๆ สนุกสนาน และให้คนกรุงเทพมีส่วนร่วมกับ ‘บางกอกวิทยา’ ได้เลย ยกตัวอย่างเช่น เรื่องของการถ่ายภาพ อาจจะกำหนดให้ถ่ายภาพอะไรก็ได้ที่เป็นวิทยาศาสตร์ ธรรมชาติรอบ ๆ ตัว ซึ่งเดี๋ยวทีมงานจะกำหนดธีมกัน แล้วก็ประกวดกันเลย มีติดแฮชแท็ก ให้รางวัล”

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า อีกสิ่งที่น่าสนใจ คือ Maker Space ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับงานเกี่ยวกับนวัตกรรม (innovation) เป็นเหมือนห้องปฏิบัติการที่คนสามารถมาสร้างหรือประดิษฐ์สิ่งของได้ เช่น มีโรงไม้ เลื่อย เครื่องพิมพ์ 3 มิติ (3D Printer) ที่สามารถพิมพ์ขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ออกมาได้ มีอุปกรณ์ตัด เป็นต้น ในต่างประเทศที่มีศูนย์นวัตกรรมจะต้องมี Maker Space เพื่อให้คนสามารถนำไอเดียมาผลิตเป็นสิ่งของได้ ในอนาคต กทม.อาจจะสร้าง Maker Space เพื่อให้เด็ก เยาวชน ประชาชน สามารถมาผลิตสิ่งของได้ เพราะคนทั่วไปไม่สามารถซื้อ 3D Printer ได้ แต่จะสามารถมาแชร์อุปกรณ์ส่วนกลางได้ เป็นการเปิดเวทีให้คนสามารถนำไอเดียมาพัฒนาเป็นสิ่งของที่จับต้องได้ ซึ่งเป็นแนวคิดที่จุดประกายความฝันที่กทม.ตั้งใจจะทำให้เกิดขึ้นต่อไป

ด้านการบูรณาการเรื่องวิทยาศาสตร์ให้เข้ากับหลักสูตรของโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร รองผู้ว่าฯ ศานนท์ กล่าวว่า กิจกรรมที่ สวทช. จะจัดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์เด็ก จะมีการสอนเรื่องของ coding ซึ่งเรามองว่าหลักสูตรต่าง ๆ ของกทม.ควรจะเพิ่มเรื่องของ coding และ AI เข้าไป เบื้องต้นคือลองดูผลตอบรับจากกิจกรรมที่จะจัดขึ้นก่อนว่าจะสามารถเข้าในหลักสูตรใดได้บ้าง ส่วนกิจกรรมที่ อพวช. จัดขึ้น เราจะให้เด็กในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครร่วมกิจกรรมที่สามย่านมิตรทาวน์ด้วย โดยเลือกนักเรียนห้องวิทยาศาสตร์หรือนักเรียนที่มีความสนใจไปร่วมกิจกรรมครั้งนี้

“สิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือ กทม.ไม่ได้เก่งวิทยาศาสตร์ แต่ กทม. มีพันธมิตรที่เก่ง การจะทำงาน ‘บางกอกวิทยา’ จึงต้องหาแนวร่วม เรามีสถานที่ เราเก่งเรื่องกฎระเบียบ เพราะฉะนั้น เราต้องหาคนที่เก่ง หาพันธมิตรที่สามารถให้เนื้อหาที่ตอบโจทย์ประชาชนได้ และระยะต่อไปเราจะต้องพัฒนาข้อมูลพิพิธภัณฑ์เด็กให้มีความอัปเดต และหาพันธมิตรเก่ง ๆ เข้ามาช่วย”

สำหรับกิจกรรม “บางกอกวิทยา” คือ เทศกาลวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็น 1 ใน 12 เทศกาลตลอดปีทั่วกรุงเทพฯ ที่จะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อเปลี่ยนกรุงเทพให้เป็นห้องเรียนวิทยาศาสตร์ขนาดใหญ่ สร้างกิจกรรมที่คนกรุงเทพฯ และนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดหรือต่างประเทศสามารถเข้าร่วม เป็นการกระตุ้นยอดขายจากงานเทศกาล เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ

เทศกาล บางกอกวิทยา

ตารางกิจกรรมโดยสังเขปมีดังนี้

• ต้นเดือนสิงหาคม (ยังไม่ระบุวัน) กิจกรรม Kick off บางกอกวิทยา ณ เดอะสตรีท รัชดา เขตดินแดง เปิดพื้นที่เรียนรู้สร้างสรรค์แห่งใหม่ใจกลางกรุง เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เสริมสร้างทักษะด้านการเป็นนักประดิษฐ์ นักวิทยาศาสตร์ สร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง

• วันที่ 17-21 ส.ค. 65 กิจกรรม Science Carnival Bangkok โดย อพวช. ณ สามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน เป็นกิจกรรมที่ผสมผสานระหว่างศิลปะ นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน โดยจัดทำเป็น Immersive Experince เช่น Showcase นวัตกรรมปลุกชีวิต Innovation of life, Science alive projection mapping เล่าเรื่องวิทยาศาสตร์ ผ่านกราฟิก, ระบบ Intractive ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ด้วยระบบเทคโนโลยี, เพราะพื้นที่พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ จากนวัตกรหลากหลายด้าน เพื่อสร้างนวัตกรรมที่ปลุกชีวิตและสังคมยั่งยืน พร้อมการเรียนรู้เรื่องอาหารแห่งอนาคต

• วันที่ 20-21 ส.ค. 65 กิจกรรม KIDBRIGHT โดย สวทช. ณ พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครแห่งที่ 1 (จตุจักร) เขตจตุจักร เปิดสนาม formula kid 2022, formula kid 2021 สนาม AIBot Tournament ส่งเสริมการแข่งขันการสร้างหุ่นยนต์ขับเคลื่อนและการประดิษฐ์บอร์ดรับคำสั่งระยะไกล

• วันที่ 19-25 ส.ค. 65 กิจกรรม Inoovation Week ได้แก่
– 19 ส.ค. 65 กิจกรรม Techbite 4.0 Summer 2022 Demo Day ณ KX ศูนย์บริการทางการศึกษาในเมือง กรุงธนบุรี เขตคลองสาน สำหรับผู้มีไอเดียทางนวัตกรรม มุ่งพัฒนาศักยภาพต่อยอดธุรกิจ โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วทุกมุมโลกให้คำแนะนำ
– 23 ส.ค. 65 กิจกรรม Fight to Web 3.0 (รอประกาศสถานที่) พื้นที่ทำความรู้จักกับ 3 เว็บไซต์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อวิเคราะห์มูลรอบตัวได้ใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด
– 24 ส.ค. 65 กิจกรรม Envisioning the Future ณ Gaysorn เขตปทุมวัน โดย Techsauce พบกันนักธุรกิจ unicorn startup ของประเทศไทย และการสร้าง rooftop networking
– 23-25 ส.ค. 65 กิจกรรม Hack BKK โดย TSTA ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เพื่อหาแนวทางการพัฒนากรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน โดยใช้เทคโนโลยีและวิธีคิดแบบสตาร์ทอัพ สร้างพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้ริหาร กทม. และสตาร์ทอัพ ขับเคลื่อนงานของกรุงเทพมหานคร และส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมระหว่างรัฐและภาคประชาชน

ขวัญข้าว คงเดชา นักวิชาการ สำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า กิจกรรม Hack BKK อาจใช้แนวทางประยุกต์จาก hackathon กระบวนการประลองความคิดการแก้ปัญหาในเรื่องต่าง ๆ อย่างสร้างสรรค์ เป็นการสร้างพื้นที่ประชาธิปไตยให้เกิดการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาของเมือง ปัญหาสังคม แต่ปัญหาของเมืองที่อยู่ในฐานข้อมูลอาจมีจำนวนมากต้องสังเคราะห์เลือกสรรว่าจะนำเรื่องใดมาเป็นโจทย์ และจะนำคำตอบที่ได้ไปแก้ปัญหาได้อย่างไร นับเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ ต่อยอดได้กับ แอปพลิเคชัน ทราฟฟี่ ฟองดูว์ ที่เกิดขึ้นเพื่อให้คนแจ้งเรื่องร้องเรียนแล้วก่อนหน้านี้ แต่โจทย์ที่ตั้งใจ Hack BKK ต้องทำให้เห็นว่า กทม. มีปัญหาเรื่องไหนเป็นสำคัญ เร่งด่วน ก็นำมาหาโจทย์แก้ปัญหา

“เป็นกระบวนการที่ท้าทายไอเดีย เปิดการแข่งขันได้ทุกวัย ทั้งเด็ก เยาวชน ผู้ใหญ่ ทำให้เห็นมุมมองที่แตกต่างมากกว่าองค์กรหรือหน่วยงาน นอกจากผู้จัดจะได้ข้อมูล ยังเป็นการกระตุ้นความสนใจของผู้คน ให้ประชาชนเป็น active citizen หรือพลเมืองตื่นรู้ ซึ่งโจทย์ต้องเป็นหัวข้อที่น่าสนใจ หากประชาสัมพันธ์ดี ๆ จะดึงคนจากหลากหลายกลุ่มมาเจอกัน”

ขวัญข้าว ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า วิธีการหาไอเดียในรูปแบบของ hackathon หรือ Hack BKK ผู้ที่เข้าร่วมยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับเรื่องอื่น ๆ ได้ด้วย เป็นวิธีการระดมความคิดอย่างเปิดกว้างและสร้างสรรค์

เทศกาล บางกอกวิทยา

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเวิร์กช็อปอีกกว่า 130 กิจกรรม ที่พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร แห่งที่ 1 (จตุจักร) และแห่งที่ 2 (ทุ่งครุ) รวมถึงศูนย์เยาวชน/ศูนย์สร้างสุขทุกวัยทั้ง 3 แห่ง และห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ และห้องสมุดเคลื่อนที่อีก 27 แห่ง

และกิจกรรมอื่นๆ ที่ยังคงเดินหน้าตามนโยบาย 12 เทศกาล ตลอดปี ทั่วกรุงเทพฯ คือ ‘บางกอกกำลังดี’

วันที่ 7 ส.ค. 65 ณ สวนเสรีไทย (สวนน้ำบึงกุ่ม)
วันที่ 14 ส.ค. 65 ณ สวนสันติภาพ (อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ)
วันที่ 21 ส.ค. 65 ณ สวนหลวง ร.9 (ลานวงศ์ชบา)
วันที่ 28 ส.ค. 65 ณ สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าน พระบรมราชินีนาถ (สวน 60 พรรษา เคหะร่มเกล้า)

แนะในเดือนกันยายนนี้จะเป็นเทศกาลเด็ดและเยาวชน Youth Festival เดือนตุลาคม เทศกาลกีฬากรุงเทพฯ Sports Festival เดือนพฤจิกายน เทศกาลศิลปะสร้างสรรค์ Creative Arts Festivl เดือนธันวาคม เทศกาลแสงสี Illumination Festival

Author

Alternative Text
AUTHOR

พิชญาพร โพธิ์สง่า

นักข่าวเล่าเรื่อง ที่เชื่อว่าการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์จะช่วยจรรโลงสังคมได้