หลังถูกตั้ง 2 ข้อหาชุมนุมฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ชวนนักกิจกรรม ส่งจดหมายถึง รมว.ยุติธรรม ให้ยุติดำเนินคดี พร้อมระบุไม่สบายใจ “สิตานัน” ถูกขึ้นแบล็กลิสเป็นบุคคลเฝ้าระวังพิเศษ ระดับแดง
วันนี้ (7 ก.ค. 2565) สำนักเลขาธิการใหญ่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ออกปฏิบัติการด่วนเชิญชวนสมาชิก นักกิจกรรมและผู้สนับสนุนร่วมกันส่งจดหมายถึง สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเรียกร้องให้ยุติการดำเนินคดีและยกเลิกข้อกล่าวหาทั้งหมดต่อ สิตานันสัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักปกป้องสิทธิมนุษยชน ที่ถูกตั้งข้อหาร่วมกันชุมนุมโดย ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินรวม 2 คดี จากการออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม ค้นหาความจริงเกี่ยวกับชะตากรรมและที่อยู่ของน้องชาย วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ที่ถูกลักพาตัวหายไปในช่วงเย็นของวันที่ 4 มิถุนายน 2563 บริเวณหน้าคอนโดแห่งหนึ่งในประเทศกัมพูชา โดยการรณรงค์นี้จะมีไปถึงวันที่ 29 สิงหาคม 2565
ทั้งนี้ สิตานันถูกตั้งข้อหาร่วมกันชุมนุมโดยฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินรวม 2 คดี โดยคดีแรก จากการไปร่วมชุมนุม #ม็อบ5กันยา ที่ แยกอโศก เมื่อวันที่ 5 กันยายน2564 เพื่อถ่ายทอดความอยุติธรรมที่ตนเองได้รับจากเจ้าหน้าที่รัฐและเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่น้องชายและเหยื่อการบังคับสูญหาย และอีกคดีจากไปยื่นหนังสือเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่น้องชายและเรียกร้องประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ที่บริเวณหน้าสำนักงานองค์การสหประชาชาติ(UN) เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2564
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลระบุว่า รู้สึกเสียใจที่รัฐบาลไทยกำลังดำเนินคดีอาญาต่อ สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เพียงเพราะเธอใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบ และยังรู้สึกไม่สบายใจกับรายงานที่อาจบ่งชี้ว่าเธอเป็น “บุคคลเฝ้าระวังพิเศษ (ระดับแดง)” ของเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
ในเดือนเมษายน 2565 องค์กรภาคประชาสังคมแห่งหนึ่งรายงานว่า ชื่อและรายละเอียดส่วนบุคคลของเธอปรากฏอยู่ในรายการเฝ้าระวังของกองกำลังความมั่นคงของไทย และเป็นไปได้ว่าจะส่งต่อให้ตำรวจท้องที่ ซึ่งอาจหมายความว่าเธออยู่ภายใต้การสอดส่องโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
แอมเนสตี้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่ออกมารณรงค์ให้มีการสอบสวนการอุ้มหายน้องชายของเธอ โดยบุคคลไม่ทราบฝ่ายที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2563 ปัจจุบันยังไม่มีใครทราบชะตากรรมและที่อยู่ของเขา การดำเนินคดีกับสิตานันเป็นผลมาจากการใช้สิทธิในเสรีภาพการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบของเธอเท่านั้นและกำลังขัดขวางการณรงค์เพื่อตามหาความเป็นธรรมให้กับน้องชายและครอบครัวของเธอ รวมทั้งกำลังขัดขวางการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เข้มแข็งในประเทศไทยด้วย