‘สมศักดิ์’ หนุนชุมชนชาติพันธุ์เลี้ยงวัว เพิ่มรายได้ ไม่กระทบป่า

เผย ครม. ไฟเขียวโครงการ ‘โคแสนล้าน’ เชื่อสร้างทางเลือกให้ชุมชนชาติพันธุ์ ด้านชาวบ้าน ดักทาง ย้ำเลี้ยงวัวก็ทำไม่ได้ ถ้าป่าถูกอุทยานฯ ประกาศทับ เรียกร้องปลดล๊อกข้อจำกัด เร่งเดินหน้าโฉนดชุมชน

เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 67 ระหว่างลงพื้นที่ชุมชนปกาเกอะญอ บ้านแม่ปอคี (ขุนแม่เหว่ย) อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เพื่อสถาปนาพื้นที่คุ้มครองวิถีชึวิตกลุ่มชาติพันธุ์

อ่านเพิ่ม : สถาปนา ‘บ้านแม่ปอคี’ จ.ตาก เขตพื้นที่คุ้มครองวิถีชาติพันธุ์

สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการฟื้นฟูวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลและชาวกะเหรี่ยง บอกกับชาวบ้านในพื้นที่ ว่า คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาอนุมัติโครงการ ‘โคแสนล้าน’ แก้ปัญหาความยากจน เป็นที่เรียบร้อย ตนเห็นว่า เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากวิถีการทำไร่ที่ทำกันอยู่

รองนายกฯ ยังได้มอบสายวัดขนาดวัวให้กับตัวแทนชาวบ้านแม่ปอคี พร้อมกล่าวว่า ระหว่างที่นั่งรถเข้ามายังหมู่บ้าน เห็นวัวของชาวบ้านกำลังกินหญ้า ประเมินด้วยสายตาน่าจะประมาณ 300 กิโลกรัม จึงต้องเลี้ยงให้โตสมบูรณ์ขึ้น 400 กิโลกรัม จึงขอมอบสายวัดขนาดวัวให้ เพื่อจะได้วัดขนาดเทียบน้ำหนักวัวเต็มวัยได้เบื้องต้น ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ พร้อมย้ำว่าการเลี้ยงวัวในป่า ไม่ทำให้ป่าเสียหาย หรือกระทบต่อทรัพยากร

“ผมย้ำว่าการเลี้ยงวัวกับป่า ไม่ได้เสียหาย วัวไม่ได้ทำให้ต้นไม้ตาย การอยู่ร่วมกัน หรือการเลี้ยงวัวในพื้นที่ที่มีหญ้ามันไม่ได้เสียหายอะไร มันได้แต่ประโยชน์ อันนี้มันเกิดจากการเรียนรู้ การศึกษา ของหน่วยงานราชการ หน่วยงานราชการก็มีหน้าที่ ต้องช่วยพี่น้องประชาชนอยู่แล้ว สิ่งที่ไม่เสียหายคือการร่วมกันมันก็ดีกว่า“

สมศักดิ์ เทพสุทิน

ด้าน ประหยัด เสือชูชีพ เยาวชนบ้านแม่ปอคี บอกว่า บ้านแม่ปอคีเลี้ยงสัตว์ เช่น วัว ควาย อยู่แล้ว โดยปล่อยตามธรรมชาติ ทั้งในไร่เหล่า (ไร่หมุนเวียนที่มีการพักฟื้น) และในพื้นที่ป่าจิตวิญญาน แต่ในเวลานี้กำลังเผชิญกับความท้าทาย เจอกับปัญหาสำคัญ เนื่องจากพื้นที่ป่าจิตวิญญาน ที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์ และร่วมกันดูแลรักษา กว่า 2,000 ไร่ ถูกสำรวจ และกำหนดเป็นพื้นที่เตรียมการประกาศอุทยานแห่งชาติแม่เงา ซึ่งหากประกาศเขตอุทยานฯ จะทำให้ไม่สามารถเลี้ยงสัตว์ รวมถึงหาอาหารตามฤดูกาลไม่ได้

ขณะที่ วิศรุต ศรีจันทร์ กองเลขานุการสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) และกองเลขานุการขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ย้ำว่า ปัญหาสำคัญคือ แม้พื้นที่ตรงนี้ยังไม่เข้าเงื่อนไข ตามมาตรา 64 ที่ให้มีการสำรวจพื้นที่ทำกิน และมาตรา 65 ในการสำรวจพื้นที่ป่า เพราะยังไม่ประกาศอุทยานแห่งชาติแม่เงา(เตรียมการ) ภายใต้ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ ปี 2562  จึงหมายความว่าตอนนี้เรื่องสถานะพื้นที่ ถึงแม้จะถูกประกาศ หรือไม่ถูกประกาศ ก็ยังไม่รู้เลยว่า สถานะในการรับรองชาวบ้านจะอยู่ในพื้นที่หรือใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้ไหม หรือว่า จะนำสู่การรับรองสิทธิไหม หรือว่าจะอนุญาตในรูปแบบไหน ตรงนี้ยังไม่มีสถานะแน่ชัด เพราะต้องรอเรื่องของการออกกฎหมายลำดับรองก่อน

“ยังไม่แน่ใจว่าการเลี้ยงวัว ทำได้ไหม เพราะแม้ว่าวิถีชีวิตของชุมชน คือเขาเลี้ยงวัว เลี้ยงกันอยู่แล้ว และการเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ คือการปล่อยเข้าไปในป่า ซึ่งเป็นป่าที่ชาวบ้านช่วยกันดูแลรักษามา เกือบ 8,000 กว่าไร่ เป็นพื้นที่ที่วัว ควายเดินหากินหมด แต่ที่กังวลคือยังไม่มีเงื่อนไข มาตรการที่ชัดเจนว่า เลี้ยงได้ไหมในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ซึ่งพื้นที่ก็อยู่ในการเตรียมการประกาศอุทยานแห่งชาติแม่เงาอีก คิดว่าจะส่งผลกระทบแน่ ๆ“

วิศรุต ศรีจันทร์
วิศรุต ศรีจันทร์

ดังนั้น ข้อเสนอสำคัญของชุมชนบ้านแม่ปอคี ที่ได้ยื่นหนังสือต่อรองนายกฯ สมศักดิ์ ไปแล้ว คือ ย้ำในเจตนารมณ์ขอให้กันพื้นที่ทั้งหมด 8,000 กว่าไร่ ออกจากการเตรียมประกาศอุทยานแห่งชาติแม่เงา ชุมชนยืนยันไม่รับเงื่อนไขในการประกาศเขตอุทยาน หรือเงื่อนไข พ.ร.บ.อุทยานปี 2562 เพราะจะกระทบสิทธิของชุมชน ซึ่งอันนี้เป็นข้อเสนอที่ชุมชนยืนยันมาตลอด และก็อยู่ในข้อเสนอที่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาร่วมกับรัฐบาล คืออนุกรรมการแก้ปัญหาที่ดินทั้งระบบที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นประธาน

ส่วนที่ 2 คือคณะทำงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนและตาก เพิ่งได้เวิร์คชอปไปเมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา และถือว่ามีความคืบหน้า โดยทางอุทยานฯ บอกว่าได้มีการสำรวจพื้นที่ร่วมกัน และจะนำไปสู่หาทางออก แต่ที่ยังไม่มั่นใจเพราะต้องให้นโยบายตัดสินใจอีกที จึงกลับไปที่ข้อเสนอสำคัญ คือให้กันพื้นที่ทั้งหมดออกจากการประกาศอุทยานฯ

“ชาวบ้านยังชัดเจนในการปฏิเสธการเข้าสู่เงื่อนไขมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 เรื่อง กรอบมาตรการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่าไม้ (ทุกประเภท) ตามนโยบาย คทช.โดยชาวบ้านที่นี่ยืนยันจะดำเนินการตามรูปแบบโฉนดชุมชน และตามมติ ครม. 3 สิงหาคม 2553 เรื่องแนวนโยบายในการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง“

วิศรุต ศรีจันทร์

โดยการเดินหน้าโฉนดชุมชน อยู่ระหว่างยกระดับกับทางรัฐบาล ซึ่งมี ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาของกลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ซึ่งจะประชุมกันในวันที่ 30 เม.ย.นี้ เพื่อให้เดินหน้าต่อเรื่องโฉนดชุมชน จึงอยากให้สังคมร่วมจับตาความคืบหน้าความชัดเจนในการแก้ไขปัญหานี้ของรัฐบาล ที่ไม่ใช่แค่พื้นที่บ้านแม่ปอคี แต่หมายรวมถึงพื้นที่ชุมชนในเขตป่าทั่วประเทศด้วย

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active