หลังพบว่าไทยมีหนี้ครัวเรือนระดับที่น่ากังวล ออมน้อย หนี้สูง หนี้นาน ใช้จ่ายเกินตัว มีความเข้าใจผิดทางการเงิน สู่บทสรุป “วิชาปลดหนี้ 101”
ไตรมาสที่ 3 ปี 2564 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ระดับหนี้ครัวเรือนของไทยอยู่ในระดับที่น่ากังวล ไม่ว่าจะเทียบกับในอดีตหรือเทียบกับต่างประเทศ ข้อมูลล้วนชี้ว่าระดับหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ของไทยเพิ่มขึ้นสูงถึง 89.3% และเมื่อเทียบกับต่างประเทศ ไทยมีระดับหนี้ครัวเรือนต่อ GDP สูงเป็นอันดับที่ 12 จาก 70 ประเทศทั่วโลก และสูงเป็นอันดับที่ 2 ในเอเชีย รองจากประเทศเกาหลีใต้
จากสถานการณ์ข้างต้น The Active จึงอาสาร่วมจัดและร่วมงาน เพื่อสรุปกิจกรรม “ปลดหนี้แก้จน: วิชาปลดหนี้ 101” มาปรับความเข้าใจเรื่อง “หนี้” เพื่อแก้ให้ตรงจุด หยุดให้ถูกที่ ค้นหาว่ามีวิธีคิดแบบไหนบ้างที่ช่วยแก้หนี้ได้จาก Work shop ครั้งนี้ โดยผู้เข้าร่วม มีทั้งกรณีที่มีหนี้ และไม่มีหนี้แต่ต้องการมีอิสรภาพทางการเงิน ได้มาร่วมกิจกรรม แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันอย่างหลากหลาย ประกอบด้วย มนุษย์เงินเดือน, เกษตรกร, ผู้ประกอบการ, ข้าราชการ และอาจารย์ ฯลฯ
ในช่วงเช้าเริ่มปูพื้นฐานทำความเข้าใจเรื่องการปลดหนี้ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดย โค้ชบี๊ – นุกูล เล่าถึงประสบการณ์-การทำงานด้านวิศวกร อดีตพนักงานที่มีมีบัตรเครดิต 23 ใบ และใช้เงินเกินตัวมีหนี้สิน มีเงินเดือนชนเดือน จนถึงจุดที่ตัวเองคิดว่า “เส้นทางชีวิตนี้ไม่เหมาะสมกับตัวเอง” จนเปลี่ยนวิธีคิดทางการเงิน และ ใช้เครื่องมือทางการเงินที่ถูกต้อง แก้ปัญหาหนี้สิน จนมี อิสรภาพทางการเงินในที่สุด
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2023/02/LINE_ALBUM_230226_8-2-1024x684.jpg)
“ถ้าเรามีการใช้จ่ายสูงกว่ารายได้
เงินเยอะไม่ใช่คำตอบ
แต่ต้องมีวิธีคิดที่ ถูกต้อง…”
ครูบี๊ นุกูล ลักขณานุกุล
ผู้ก่อตั้งบริษัทเก็ทบิซ (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัทที่ปรึกษาวางแผนธุรกิจ
และ ผู้เขียนหนังสือออกจากวังวนที่จนตลอดชาติ
ไม่รู้ว่า เงินไปไหน?
โค้ชบี๊ ระบุ การไม่รู้ว่าเงินออกจากกระเป๋าแล้วไปไหนบ้าง คือ ภาษาคนจน มีนิสัยของการตีเลข ตีตัวเงิน กลม ๆ แบบคร่าว ๆ และไม่รู้ว่าเงินไปไหน “เงินไปไหนหมด” คำพูดของเศรษฐี คือ ถ้าคุณไม่รู้ว่าเพื่อนของคุณหายไปไหน เราก็จะไปตามเขากลับมายาก เช่นเดียวกับเงิน ถ้าเราไม่รู้ว่าเงินหายไปไหนจะไปตามได้อย่างไร
ตั้งเป้าหมายอย่างชาญฉลาด
การตั้งเป้าหมายทางการเงิน หรือ “SMART GOAL” เพื่อกำหนดอนาคตของตัวเองที่ชัดเจนมากขึ้น โดยแบ่งเป็น 5 ประเด็น คือ
- ชัดเจน — SPECIFIC
- วัดได้ — MEASURABLE
- เป็นไปได้ — ACHIEVABLE
- สอดคล้อง — RELEVANT
- กำหนดเวลา — TIME
ครูบี๊ ยังได้ตัวอย่างประโยค ที่มี SMART GOAL เช่น “ฉันจะต้องมีเงิน 1 แสนบาท ให้ได้ภายในเดือนมีนาคม 2566” โดยการกำหนดเป้าหมายในอนาคต จำเป็นต้องรู้สถานการณ์ปัจจุบันของตัวเอง
“เวลาเป็นของมีค่า แต่ทุกวันนี้ เรา ฆ่า เวลา…
ครูบี๊ นุกูล ลักขณานุกุล
เราให้เวลากับการเอนเทอร์เทนตัวเอง
แต่ไม่ได้จัดการกับเรื่องสำคัญ”
โดยสรุป คือ ต้องรู้ว่าตัวเองจะ ตั้งเป้าไปไหน ตอนนี้เราอยู่ตรงไหน (ปัจจุบัน) และจะไปได้อย่างไร โดยทั้งหมดนี้ต้องวางอยู่บนวิธีคิด ความเชื่อว่า “เป็นไปได้…” และต้องหา เครื่องมือ ที่จะช่วยปลดหนี้ได้จริง
ใช้เครื่องมือ-บันทึกเรื่องการเงิน
เส้นทางการปลดหนี้ของหลายคนมักจะอ้อมไป อ้อมมา เดินไม่ถูกทาง และสุดท้ายก็ท้อหมดไฟ และแก้ปัญหาหนี้ไม่ได้ การบันทึกเรื่องราวของการเงิน จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยคนปลดหนี้ได้จริง ทั้งการบันทึกตัวเลขรายรับ-รายจ่าย, หนี้สิน และทรัพย์สิน
เทคนิค เงิน 6 กระปุก เพื่อความมั่นคงทางการเงิน
เครื่องมือที่ถูกติดอาวุธให้กับ ผู้เข้าอบรมทำ Work shop หนึ่งในนั้น คือ เทคนิคการจัดการเงิน 6 กระปุก แบ่งเป็น
FFA : เพื่ออิสรภาพทางการเงิน (FINANCIAL FREEDOM) เป็นเงินก้อนที่เก็บไว้เพื่อป้องกันความเสี่ยง โดยหัวใจสำคัญคือ ทำให้เราสามารถทำสิ่งที่ต้องการได้ด้วยกำลัง และแรงใจที่มีอยู่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องใด
LTSS : เพื่อจ่าย (LONG TERM SAVING for SPENDING) เก็บไว้สำหรับใช้จ่ายประจำ โดยเริ่มต้นเก็บ 10% และกำหนดสิ่งที่ต้องการจ่ายไว้ไม่ให้เกิน 10% ของรายรับ
EDU : พัฒนาตัวเอง (EDUCATION) เป็นเงินส่วนที่ใช้เพื่อเติม และพัฒนาทักษะของตัวเองให้ดีขึ้น โดยเริ่มจากสายงานของตัวเอง จะได้ง่ายต่อการพัฒนา ต่อยอดในงานที่สนใจ
GIVE :ให้บริจาค (GIVE) เป็นเงินที่ใช้สำหรับบริจาค หรือ เรียกอีกอย่างว่าเงินอุปถัมภ์ ซึ่งเป็นเงินส่วนใหญ่ที่ทำให้คนไทยเป็นหนี้ เพราะไม่ประมาณการให้ หรือให้มากจนเกินไป
PLAY บันเทิง (PALY) ควรเก็บไว้เพื่อใช้จ่ายเพื่อความสุขในชีวิต 10%
NEC ความจำเป็น (NECESSITY) เงินที่ใช้จ่ายเพื่อในยามจำเป็น ส่วนนี้ควรเก็บไว้ให้ได้ถึง 50% และอาจจะลดลงได้เมื่อมีเงินเพิ่มในกระปุกอื่นมากขึ้น
โดยโค้ชบี้ แนะนำให้จัดการเงิน 6 กระปุกนี้ ล่วงหน้า 12 เดือน ก็จะยิ่งทำให้ประสิทธิภาพทางการเงินดีขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ
โดยเบื้องต้นแนะนำให้ เก็บเงินกระปุกละ 10% ของรายรับ มีเพียงแค่กระปุกที่ 6 คือ เงินที่เก็บไว้ใช้เพื่อความจำเป็น (NECESSARY) ที่ควรเก็บให้ถึง 50% และเมื่อมีความมั่นคงทางการเงินมากขึ้น ค่อยลดส่วนนี้ และเพิ่มที่กระปุกการลงทุนแทน
เสียงตอบรับผู้เข้าร่วม Work shop
ภายหลังจากการได้เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ มีผู้เข้าร่วมบางส่วนยินดีให้สัมภาษณ์ กับ The Active และพร้อมที่จะร่วมแบ่งปันประสบการณ์การเป็นหนี้ เช่น
คุณปัญญา เยี่ยมวณิชนันท์ บอกกับทีมข่าวว่าเขามีความหวังที่จะมาฟังความรู้เพื่อนำไปช่วยพนักงานบริษัทปลดหนี้ แต่หลังจากฟังตลอดครึ่งวันก็ค้นพบว่า สิ่งที่จะปลดหนี้ได้อย่างแท้จริง คือความเข้าใจตัวเอง และคนเป็นหนี้จำเป็นต้องลงมือทำอย่างจริงจัง เพื่อปลดหนี้ของตัวเองให้ได้ สิ่งที่จะต่อยอดคือการนำความรู้ครั้งนี้ไปแบ่งปันต่อให้พนักงานของเขา
อรอนงค์ งามเปรี่ยม หญิงสาววัยกลางคน ที่มีภาระเรื่องลูก แต่ไม่รู้วิธีการจัดการทางการเงิน แต่หลังจากเข้าอบรมเกี่ยวกับการเงินไป 2 ครั้ง ทำให้เธอเข้าใจ และนำวิธีการเก็บออมเงินมาปรับใช้กับลูกของเธอ รวมถึงการบริหารจัดการเงินที่มีให้สามารถใช้ได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น โดยเธอย้ำว่า สิ่งสำคัญที่สุดของการจัดการเงิน คือ ความรู้ทางการเงิน
นภัสกร เอิบอิ่ม วัย 28 ปี เป็นหนี้หลักหมื่น จากการลงทุนผิดที่ ทำให้เงินจมหายไปแบบไม่ทันตั้งตัว และวันนี้ตั้งใจมาเรียนวิชาการเงินเพื่อนำไปปรับใช้กับการลงทุนของตัวเอง ด้วยตั้งใจจะใช้ความรู้ทางการเงินเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารจัดการเงิน
สมจิต คงทน มูลนิธิชีวิตไท ดูแลเกษตรกรที่เป็นหนี้มาหลายคน และพบว่าเกษตรกรที่สูงวัย เป็นกลุ่มที่มีความเสียงและความทุกข์กับการเป็นหนี้ เพราะเป็นคนสูงวัยที่ไร้เงินออม การฝังวิธีคิดทางการเงินลงไปด้วยจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยทำให้เกษตรกรมีความสุขยามบั้นปลาย
ครูนัท ไพบูลย์ ทองยอด เป็นครูที่มาจาก จังหวัดภาคอีสาน บอกว่า ครูเป็นเคสคลาสิก ที่ต้องเจอกับปัญหาหนี้ เพราะสวัสดิการเยอะและเอื้อต่อการกู้ ปัจจุบันมีหนี้สิน 1 ล้านบาท แต่หลังรู้เรื่องการเงินจึงมีความหวังและตั้งเป้าจะปลดหนี้ให้ทันก่อนวัยเกษียณ
โดยภาพรวมแล้ว “หนี้” ไม่ใช่ปัญหาส่วนตัวและไม่อาจแก้ได้ด้วยเพียงพฤติกรรมการใช้จ่ายส่วนบุคคลเท่านั้น แต่หนี้เป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ปัญหาจากทุกภาคส่วนในระดับนโยบาย ก่อนหน้านี้ The Active จึงประสานความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ร่วมกันหาทางออก ทั้งในระดับบุคคลและระดับนโยบายของประเทศ เช่น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) , สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ,หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) และเครือข่ายภาคประชาสังคม
ติดตามกันต่อทั้งการปลดหนี้เฉพาะเคสบุคคล และการแก้ปัญหาในเชิงกับระบบ
https://theactive.net/data/poverty-and-household-debt/
สำหรับกิจกรรม “ปลดหนี้แก้จน: วิชาปลดหนี้ 101” The Active Thai PBS ร่วมมือกับ ภาคีเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ, Geniuses School Thailand (SMEs) และมหาวิทยาลัยราชภัฎราชนครินทร์ จัด Workshop “ปลดหนี้” ให้ความรู้ ปูทางสุขภาพทางการเงิน เพื่อให้ประชาชนกำความหวังกลับไปแก้หนี้ สู่ อิสรภาพทางการเงิน โดยวิทยากรคนสำคัญ คือ ครูบี๊ นุกูล ลักขณานุกุล ผู้ก่อตั้งบริษัทเก็ทบิซ (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัทที่ปรึกษาวางแผนธุรกิจและผู้เขียนหนังสือออกจากวังวนที่จนตลอดชาติ และ ครูพัช พัสชนันท์ คงวณิชกิจเจริญ -Founder Genius School Thailand (SMEs) เน้นการสอนเป้าหมายชีวิต มีประสบการณ์สอบคนปลดหนี้ให้กับครู เกษตรกร มนุษย์เงินเดือน