แกร็บไบค์ แกร็บวิน เรียกร้องขอกฎหมายรับรองอาชีพ

ทวงคืนแกร็บไบค์ แกร็บวิน เรียกร้องให้ภาครัฐชะลอ หรือมีกฎหมายใหม่ เข้ามารองรับอาชีพ หลังกรมการขนส่งทางบก สั่งถอนรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลห้ามรับจ้างโดยสารผ่านแอปพลิเคชันแกร็บ

วันนี้(23 มิ.ย. 65) ผู้ขับขี่แกร็บไบค์หรือแกร็บวิน รับส่งผู้โดยสารโดยรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลผ่านแอปพลิเคชัน เดินทางไปยื่นหนังสือถึงตัวแทนคณะกรรมาธิการการคมนาคม และกระทรวงคมนาคม เรียกร้องให้ภาครัฐจะชะลอการยกเลิกแกร็บไบค์แกร็บวินป้ายขาว หรือมีกฎหมายใหม่ๆ เข้ามารองรับอาชีพรับจ้างโดยสารผ่านแอปพลิเคชัน


หลังมีประกาศจาก บ.แกร็บ ประเทศไทย ถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบบริการแกร็บไบค์ หรือแกร็บวิน โดยยกเลิกการให้บริการสำหรับรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลรับส่งผู้โดยสาร ภายใน 30 วัน หรือภายในวันที่ 15 กรกฏาคม และมีรูปแบบการให้บริการใหม่ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมายของกรมการขนส่งทางบก 3 เงื่อนไขหลัก คือ ผู้จดทะเบียนจะต้องเป็นคนขับป้ายเหลือง มีใบขับขี่และจดทะเบียนรถจักรยานยนต์สาธารณะ รับงานได้เฉพาะเขตที่ลงทะเบียนกับกรมขนส่งฯ แบบเดียวกับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ห้ามรับข้ามเขต และ ปรับอัตราโดยสารให้เป็นอัตราเดียวกับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ด้วยเงื่อนไขนี้ ผู้ใช้บริการในฐานะพาร์ทเนอร์ หรือแกร็บวิน มองว่าไม่เป็นธรรมสำหรับพวกเขา และอาจต้องเผชิญภาวะตกงานกะทันหัน จึงเรียกร้องให้เลื่อนกำหนดเวลาออกไปจนกว่าจะมีแนวทางในการแก้ปัญหาที่เป็นธรรม

ด้านกรมการขนส่งทางบก ได้ประกาศว่า การให้บริการเรียกรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล (ป้ายดำหรือป้ายขาว) มาใช้รับจ้างบรรทุกคนโดยสาร นอกจากจะเป็นความผิดตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ฐานใช้รถไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียนแล้ว ยังมีการคิดอัตราค่าโดยสารและค่าบริการไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดกรมการขนส่งทางบกจึงไม่สามารถรับรองระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการให้บริการในลักษณะที่นำไปสู่การฝ่าฝืนกฎหมายดังกล่าวได้

ดังนั้น รถจักรยานยนต์ที่นำมาให้บริการรับส่งผู้โดยสารต้องจดทะเบียนเป็นรถจักรยานยนต์สาธารณะ เพื่อให้ภาครัฐสามารถควบคุมกำกับดูแลการให้บริการที่ปลอดภัยและเกิดการแข่งขันในการพัฒนาการให้บริการภายใต้กติกาเดียวกัน กับวินมอเตอร์ไซค์ หรือในอีกกรณี หากไม่ประสงค์จดทะเบียนขับขี่สาธารณะ ก็ยังสามารถนำรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลรับส่งอาหารและสิ่งของซึ่งยังให้บริการต่อได้ตามเดิม ก็คือย้ายจากการเป็นแกร็บวิน แกร็บไบค์ ไปเป็นแกร็บฟู้ด

อรรคณัฐ วันทนะสมบัติ นักวิชาการศูนย์แม่โขงศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มองว่า การแก้ปัญหาของแกร็บไบค์ แกร็บวิน ต้องหารือกับหลายฝ่าย ที่เกี่ยวข้อง และกำกับควบคุมดูแล โดยต้องไกล่เกลี่ยผลประโยชน์ให้ลงตัวกับผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมด

“ทุกวันนี้แกร็บฟู้ดก็แย่งงานกันอยู่แล้ว ถ้าแกร็บไบค์ย้ายไปลงแกร็บฟู้ดหมด คงเหลืองานกันวันละ1-2 งานเท่านั้น อาจได้รับค่าตอบแทนน้อยลง ไม่เพียงพอต่อการยังชีพ”

Author

Alternative Text
AUTHOR

พิชญาพร โพธิ์สง่า

นักข่าวเล่าเรื่อง ที่เชื่อว่าการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์จะช่วยจรรโลงสังคมได้