กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ เตือน 7 จังหวัดภาคตะวันออกและภาคใต้ เสี่ยงน้ำหลากและอุทกภัย 2-4 ก.ค. 66 ขณะที่ภาคอื่น ๆ เสี่ยงฝนตกหนักสะสม หลังไทยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น
ในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ที่อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ มีฝนตกหนักสะสม จนทำให้น้ำป่าไหลเข้าท่วม บ้านเรือนประชาชน ร้านค้า สหกรณ์การเกษตร สูงตั้งแต่ 50 เซนติเมตร ถึง ประมาณ 1 เมตร ส่งผลให้ประชาชนในอำเภอปะคำขนของหนีน้ำไม่ทัน
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ในช่วงวันที่ 1 ก.ค.66 น้ำเริ่มท่วมตั้งแต่ เวลา 16.00 นและเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จนท่วมเต็มพื้นที่ และฝนตกสะสมซ้ำเติมพื้นที่เดิม เกือบทั้งคืน จนทำให้ได้รับผลกระทบน้ำท่วมหนัก และระบายไม่ทัน
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2023/07/357895925_1917609968615552_3533621832889663634_n-1024x546.jpg)
ส่วนที่ จังหวัดตรังได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 7 อำเภอ จาก 10 อำเภอหลังฝนตกหนัก มีประชาชนได้รับผลกระทบ กว่า 300 ครอบครัวจากเหตุการน้ำท่วมฉับพลัน ขณะที่เรือประมงจมไปแล้วกว่า 5 ลำ โดยในพื้นที่ หมู่ 3 บ้านห้วยเหรียง ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมือง จ.ตรัง น้ำจากลำคลองสว่าง ได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนไปแล้วจำนวน 60 กว่าหลังคาเรือน
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2023/07/356940437_247645054685200_2958845359481162540_n-1024x768.jpg)
ขณะที่ วันนี้ (2 ก.ค.66 ) ประมาณ 9.00 น. ที่อำเภอบ่อเกลือ เกิดเหตุดินสไลด์ บริเวณริมถนนทางหลวง 1081 (บ่อเกลือ-เฉลิมพระเกียรติ) ในพื้นที่บ้าน ห้วยขาบ หมู่ที่ 7 ต.บ่อเกลือเหนือ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ขณะนี้อำเภอบ่อเกลือได้ประสานไปยัง หมวดทางหลวงเฉลิมพระเกียรติ, อบต.บ่อเกลือเหนือ และภาคีเครือข่าย เคลียร์พื้นที่จุดเกิดเหตุ จนสามารถสัญจรผ่านได้ 1 ช่องจราจร
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2023/07/444-1024x682.jpg)
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ติดตามสภาพอากาศ พบว่าลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้
ทั้งนี้ กอนช. ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ด้วยฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและเสี่ยงดินถล่มบริเวณต้นน้ำจากกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรธรณี พบพื้นที่เสี่ยง เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม และพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังไม่สามารถระบายได้ทันในช่วงวันที่ 1 – 4 กรกฎาคม 2566 ดังนี้
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2023/07/357840303_1345034883093957_5306296479347757694_n-1-724x1024.jpg)
1. ภาคตะวันออก จังหวัดระยอง (อำเภอเขาชะเมา แกลง และบ้านค่าย) จังหวัดจันทบุรี (อำเภอขลุง เขาคิชฌกูฏ ท่าใหม่ มะขาม และแก่งหางแมว) จังหวัดตราด (อำเภอบ่อไร่ และเมืองตราด)
2. ภาคใต้ จังหวัดระนอง (อำเภอเมืองระนอง และกะเปอร์) จังหวัดตรัง (อำเภอหาดสำราญ กันตัง วังวิเศษ เมืองตรัง และห้วยยอด) จังหวัดสตูล (อำเภอทุ่งหว้า และควนกาหลง) จังหวัดพัทลุง (อำเภอป่าบอน)
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2023/07/357641911_265897482694880_4969076676055719498_n-1024x724.jpg)
นอกจากนี้ กอนช.ยังกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้
1. ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ หรือพื้นที่ชุมชนเมือง ที่เคยเกิดน้ำท่วมขังไม่สามารถระบายได้ทัน
2. เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ลอกท่อระบายน้ำ และบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือได้ทันที
ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ ส่วนในช่วงวันที่ 3 – 7 ก.ค. 66 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร