กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบสัดส่วนติดเชื้อ BA.4 BA.5 พุ่ง 45.7% ‘กรมอนามัย’ แนะประชาชนทั่วไปยังควรสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ร่วมผู้อื่น กก.ควบคุมโรคติดต่อ กทม. ประชุมด่วนวางมาตรการรับมือ
วันนี้ (24 มิ.ย. 2565) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 46 หนึ่งในนั้น เป็นการให้ผ่อนคลายข้อปฏิบัติในการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทั่วราชอาณาจักร โดยให้เป็นการปฏิบัติด้วยความสมัครใจของประชาชน หลังสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ปัจจุบันได้คลี่คลาย และมีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนพิจารณาประโยชน์ตามข้อมูลที่ฝ่ายสาธารณสุข รายงานว่าการสวมหน้ากากอย่างถูกวิธีเป็นประโยชน์ด้านสุขอนามัยในการป้องกันการแพร่เชื้อและการรับเชื้อ ทั้งเชื้อโรคโควิดและโรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ รวมทั้งยังสามารถลดความเสี่ยงอื่นที่อาจกระทบต่อสุขภาพ
ขณะที่ สถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 โดยศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี ระบุความน่ากังวลคือของโอมิครอนทั้ง 2 สายพันธุ์ย่อย คือ มีแนวโน้มติดง่าย และอาจรุนแรงกว่าสายพันธุ์เดิม ขณะนี้พบการแพร่ระบาดในโซนยุโรปค่อนข้างมาก
ส่วนในไทย นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แถลงข่าวการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด-19 และการกลายพันธุ์ ระบุว่าพบโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 BA.5 จำนวน 181 คนจากตัวอย่าง 396 คนคิดเป็น 45.7% โดยสายพันธุ์ย่อย BA.2 ยังคงครองสัดส่วนใหญ่อยู่ที่ 53.8% แต่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ สัดส่วนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ย่อย BA.4 BA.5 มีเพียง 5.7% เท่านั้น ขณะที่สัปดาห์นี้พุ่งขึ้นไปเกือบครึ่ง
“ต้องดูอีก 2-3 สัปดาห์ว่าแนวโน้มจะเป็นอย่างไร คนไข้ที่มีอาการหนักจะต้องถูกเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะโจทย์ของเราคือมันแรงจริงไหม”
นายแพทย์ ศุภกิจกล่าว
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ ยังบอกอีกว่าจะร่วมมือกับกรมการแพทย์โรงพยาบาลใหญ่ ๆ หากพบว่าผู้ป่วยหนักให้ส่งมาตรวจวิเคราะห์สายพันธุ์อีกครั้ง เนื่องจากสายพันธุ์ BA.4 BA.5 มีความสามารถในการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้นและหลับภูมิคุ้มกันได้มากขึ้น
ด้าน ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ระบุว่า ประเทศไทยพบโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 BA.5 มาสักพักแล้ว แต่คงไม่มีใครให้ความสำคัญกับสายพันธุ์ของไวรัสมากเหมือนเมื่อก่อน จึงอาจจะไม่ได้มีการเล่าสู่กันฟังมากนัก เริ่มแรกเราพบ BA.2 มาตั้งแต่เดือนเมษายน และ ช่วงเดือนมิถุนายน มีไวรัสจากไทยส่งเข้าไปที่ GISAID พบเป็น BA.4 BA.5 เกือบร้อยตัวอย่าง
“ไม่แน่ใจเหมือนกันครับว่าขาขึ้นหรือขาลงตอนนี้ ไวรัสตัวนี้หนีภูมิเก่งและแพร่กระจายไวกว่าตัวเดิม ยังไงคงต้องระวังกันหน่อย”
ดร.อนันต์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม กรมอนามัย มีข้อแนะนำว่า ประชาชนทั่วไปก็ควรสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่น ในสถานที่หรือในพื้นที่แออัด มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ไม่สามารถเว้นระยะห่างได้ หรืออากาศระบายถ่ายเทไม่ดี โดยบุคคลที่ควรสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ได้แก่
- ผู้เข้าข่ายที่เมื่อติดเชื้อโควิด-19 จะมีอาการรุนแรงหรือความเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิต (กลุ่ม 608)
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
- กรณีเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 หรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากเชื้อโควิด-19 จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีตลอดเวลาเมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่นเพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการแพร่โรค
นอกจากวันนี้เป็นวันแรกที่ผ่อนคลายการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าแล้ว ยังผ่อนคลายให้เคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวได้ทั่วประเทศ ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม เปิดให้บริการจำหน่ายและบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้
สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกันสามารถเปิดได้ ภายใต้กฎหมาย กฎหรือระเบียบที่กำหนดฯ และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค คำแนะนำของทางราชการ
กทม.ยังขอให้ใส่ในอาคาร ถอดได้เฉพาะที่โล่ง
ด้าน ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการ กทม. ให้ความเห็นต่อแนวปฎิบัติ ที่มีประกาศราชกิจจาฯ ออกข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 ประกาศผ่อนคลายมาตรการโควิด 19 ประชาชนถอดหน้ากากอนามัยได้ หรือสวมหน้ากากอนามัยโดยความสมัครใจ มีผลวันที่ 23 มิ.ย. 2565 นั้น
ในส่วนของกรุงเทพมหานคร ช่วงเย็นวันนี้ มีการนัดประชุมด่วนคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร เพื่อกำหนดมาตรการ โดยจะยังขอความร่วมมือประชาชนคนในกรุงเทพ แม้จะถอดหน้าได้ตามความสมัครใจแล้ว แต่ในส่วนของกรุงเทพอาจจะยังให้ถอดตามสถานที่โล่งแจ้งได้ รวมถึง มีระยะที่เว้นห่างกันก็ถอดได้ไม่มีผลอะไร
ส่วนของตัว ชัชชาติ ทีมงาน และข้าราชการในสังกัดกรุงเทพมหานคร หากประชุมในห้องอาคาร ก็จะยังให้ใส่หน้ากากไปก่อน แต่ถ้านอกอาคาร ก็ถอดได้ แต่ทั้งหมดนี้ ยังต้องรอการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครช่วงเย็นนี้ก่อน แล้วจะออกประกาศทางการของ กทม.อีกที
“ส่วนตัวผมก็เริ่มถอดหน้ากากมาบ้างแล้ว เวลาต้องวิ่งในสวน หรือ สถานที่โล่งแจ้ง แต่ถ้ายังประชุม ก็ยังต้องใส่ หรือ อยู่ในอาคารก็ยังต้องใส่กันอยู่”
ชัชชาติกล่าว