เครือข่ายชุมชนเมืองฮักเชียงใหม่ ชี้ ประเพณีจุดผางประทีป ช่วยสร้างบรรยากาศให้เมืองกลับมามีชีวิต คลายความหดหู่และเงียบเหงาลง ขณะที่ รพ.สนามเชียงใหม่ วอนประชาชนเข้มมาตรการส่วนบุคคล
ทุกครั้งที่มีการจัดงานเทศกาล และสืบสานประเพณีวัฒนธรรม ไม่ใช่เพียงแค่สร้างสีสันและบรรยากาศของเมืองเท่านั้น แต่ยังนำมาซึ่งรายได้ ของชาวบ้านที่มีอาชีพเชื่อมดยงกับประเพณีนั้น เช่น ผู้ทำโคม หรือ กระทง และพ่อค้าแม่ค้า ทว่าการจัดงานตามประเพณีที่อาจส่งผลให้มีคนมารวมตัวกันมากขึ้น ก็อาจเป็นความเสี่ยงของการระบาด แต่ทุกฝ่ายเห็นร่วมกันว่าจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับโรคระบาด และกลับมาใช้ชีวิตตามปกติให้มากที่สุด
เป็นเวลา 2 ปีแล้ว ที่งานผางประทีปรักษาเมือง ถูกจัดขึ้น โดยปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 เพราะประเพณีและวัฒนธรรมดั้งเดิม ก็ยังคงต้องสืบทอดรักษาต่อไป
เสาวคนธ์ ศรีบุญเรือง เครือข่ายชุมชนเมืองฮักเชียงใหม่บอกว่า หากก่อนหน้านี้มีการระดมฉีดวัคซีนในจำนวนที่มากพอ สถานการณ์ระบาดอาจไม่รุนแรงมากนัก แต่ก็เป็นเรื่องดีที่เวลานี้ กำลังมีความพยายามเร่งระดมฉีดวัคซีนกัน ซึ่งก็ทำควบคู่ไปกับการจัดงานประเพณี ผางประทีปรักษาเมือง
“แม้จะลดขนาดงานลงมา แต่ก็ยังคงช่วยสร้างบรรยากาศให้เมืองกลับมามีชีวิต คลายความหดหู่และเงียบเหงาลงได้บ้าง พร้อมกับหล่อเลี้ยง สล่า หรือ ช่างทำโคมผางประทีปให้ยังหาเลี้ยงชีพต่อไปได้”
สำหรับ การจุดผางประทีปเป็นประเพณีดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปีของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่ยุคที่ยังเป็น เมืองหลวงของอาณาจักรล้านนา ขณะที่คนในยุคปัจจุบันเข้าใจผิดว่าการลอยโคมเป็นประเพณีดั้งเดิมของที่นี่ ซึ่งเคยเกิดปัญหาโคมลอยตกลงมาทำให้เกิดไฟไหม้ เครือข่ายชุมชนเมืองฮักเชียงใหม่ จึงรื้อฟื้นและให้ความรู้ว่าการจุดผางประทีปเป็นพุทธบูชา ที่คนเมือง มักทำกันในช่วงเทศกาลยี่เป็ง ซึ่งตรงกับเทศกาลลอยกระทงของภาคกลาง
สำรวจ ICU สนามเชียงใหม่ วอนประชาชนการ์ดอย่าตก
ขณะเดียวกัน บรรยากาศที่โรงพยาบาลสนามของจังหวัดเชียงใหม่ The Active เข้าไปสำรวจที่ ICU สนาม ที่เพิ่งเปิดเพิ่มมาอีก 50 เตียง ขณะที่เครื่องช่วยหายใจ ของโรงพยาบาลสนามบุษราคัมนับ 10 เครื่อง ที่เคยถูกใช้รักษาผู้ป่วย covid-19 ในกรุงเทพฯ ถูกขนย้ายมาที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากผู้ติดเชื้อ รายใหม่ยังคงเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 300 คน และแพทย์มีข้อสังเกตว่าการระบาดรอบนี้มีอัตราผู้ป่วยอาการหนักมากกว่าทุกรอบที่ผ่านมา
นอกจากเครื่องมือที่ระดมมาแล้ว บุคลากรสังกัดกรมการแพทย์ ก็ถูกส่งมาช่วยตามคำร้องขอ ทั้งจากโรงพยาบาลศูนย์มะเร็งชลบุรีและกรุงเทพฯ โรงพยาบาลเด็ก โรงพยาบาลวัดไร่ขิง ซึ่งสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันสัปดาห์ละ 10 คน
เยาวภา จันทร์มา หัวหน้าพยาบาลหอผู้ป่วย ICU โรงพยาบาลสนามจังหวัดเชียงใหม่บอกว่า ความร่วมมือของประชาชนที่จะป้องกันตัวเอง เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่บุคลากรทางการแพทย์ต้องการร้องขอ มากกว่าการเพิ่มศักยภาพของระบบสาธารณสุข
ด้าน ศ.นพ.ขวัญชัย ศุภรัตน์ภิญโญ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยอยู่ที่วันละ 300 คน ยังเป็นจำนวนที่มากเกินระบบสาธารณสุขที่จะรองรับได้ แม้จำนวนผู้ติดเชื้อ ของจังหวัดเชียงใหม่ จะถึงจุดสูงสุดแล้วตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา แต่วิเคราะว่า สถานการณ์ติดเชื้อในเชียงใหม่จะเข้าสู่ขาลงอย่างช้าๆ เนื่องจากมี ทั้งมาตรการเชิงรุก การระดมฉีดวัคซีน และการเดินหน้าเปิดเมืองไปพร้อมกัน
แม้ก่อนหน้านี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จะตั้งเป้า ล้อมกรอบและลดจำนวนผู้ป่วย covid- 19 ให้จบ ภายในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ แต่ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ คาดว่าเราอาจยังคงได้เห็นผู้ติดเชื้อรายใหม่วันละ 150 คน ซึ่งอยู่ในจุดที่ระบบสาธารณสุขจะรับได้ในช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้