“สลัมสี่ภาค” ย้ำ สร้างแฟลต แค่ย้ายปัญหา จี้รัฐทบทวน แก้ที่อยู่อาศัย “คนจนเมือง”

เครือข่ายสลัมสี่ภาค จ.เชียงใหม่ ยื่นหนังสือถึง รมว.คมนาคม – พม. ค้านแนวคิด ใช้ที่ดินการรถไฟฯ สร้างแฟลตให้ผู้มีรายได้น้อย ชี้ขาดการมีส่วนร่วม ไม่สอดคล้องวิถีชุมชน

วันนี้(25 ต.ค.64 ) เครือข่ายสลัมสี่ภาค จ.เชียงใหม่ 10 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนป่าแพ่งคลองเงิน, ชุมชนทิพเนตร, ชุมชนกำแพงงาม, ชุมชนหลังวัดโลกโมฬี, ชุมชนสามัคคีพัฒนา, ชุมชนรถไฟสามัคคี, ชุมชนทานตะวัน, ชุมชนป่าตัน, เครือข่ายที่อยู่อาศัยเมืองเชียงใหม่ และเครือข่ายคนไร้บ้าน เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อยื่นหนังสือถึง ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ จุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรรงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ คัดค้านแนวคิดการใช้ที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย สร้างแฟลตที่อยู่อาศัยให้ผู้มีรายได้น้อย โดยมี จิราพร เชาวน์ประยูร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.เชียงใหม่ รับหนังสือแทน

ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 8 ต.ค.64 ได้มีบันทึกความร่วมมือระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และการเคหะแห่งชาติ (กคช.) รวมถึงการแถลงข่าวของรัฐมนตรี พม.ในวันที่ 9 ต.ค.64 ที่จะนำที่ดินของการรถไฟฯ สร้างเป็นที่อยู่อาศัย สำหรับผู้มีรายได้น้อยกลุ่มต่าง ๆนั้น เครือข่ายสลัมสี่ภาค, เครือข่ายชุมชนคนเมืองที่ได้รับผลกระทบจากรถไฟ (ชมฟ.) และเครือข่ายริมรางเมืองย่าโม ซึ่งมีสมาชิกชุมชนส่วนใหญ่อยู่ในที่ดินของการรถไฟฯ มีความกังวล และไม่เห็นด้วยที่ พม. จะมีนโยบายทางเดียวเพื่อแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย

“กลุ่มผู้มีรายได้น้อยในไทยมีความหลากหลาย ทั้งวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ และรายได้ ที่แตกต่างกันแต่ทาง พม. กำลังจะใช้การแก้ปัญหารูปแบบเดียวกับกลุ่มคนที่หลากหลาย ซึ่งเป็นวิธีคิดที่อันตราย หากมีการย้ายกลุ่มคนเหล่านั้นขึ้นแฟลต แล้วไม่สามารถดำรงชีพได้ ทำมาหากินไม่เหมือนเดิม เรื่องเหล่านี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในครั้งเมื่อ กคช. ดำเนินการสร้างแฟลตแก้ปัญหาชุมชนแออัดมาตั้งแต่ปี 2516 แต่ปัจจุบันยังคงมีชุมชนแออัดคงอยู่นั้น เป็นรูปธรรมแสดงให้เห็นที่ชัดเจนแล้วว่าการสร้างแฟลตแล้วนำเอาคนที่มีความหลากหลายทางวิถีชีวิตไม่สามารถแก้ปัญหาได้”

หนังสือที่ยื่นต่อผู้ว่าฯ ยังระบุว่า เห็นด้วยที่กระทรวงคมนาคม มีแนวความคิดแบ่งปันที่ดินเพื่อนำมาเป็นที่อยู่อาศัย แต่ไม่เห็นด้วยที่รูปแบบการทำที่อยู่อาศัยที่จะจัดทำโดยไม่ถามความต้องการของประชาชน ว่าสามารถอยู่ได้หรือไม่ได้ มีเพียงความต้องการอพยพคนให้ขึ้นไปอยู่บนแฟลตเท่านั้น นั่นคือการย้ายปัญหา ไม่ใช่การแก้ปัญหา ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้กระทรวงคมมนาคม และ พม. 3 ข้อ 

  1. ต้องไม่ใช้แนวทางการสร้างแฟลตตามบันทึกข้อตกลง (8 ต.ค.64) ระหว่างการรถไฟฯ และการเคหะฯ  มาเป็นแนวทางเดียวในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยชุมชนแออัดบนที่ดินการรถไฟฯ

  2. ให้การรถไฟฯ นำมติคณะกรรมการรถไฟฯ วันที่ 13 ก.ย.43 ที่ใช้แก้ไขปัญหาชุมชนแออัดของเครือข่ายสลัมสี่ภาค มาเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยของชุมชนแออัดบนที่ดินการรถไฟทั่วประเทศ (39,848 หลังคาเรือน) 

  3. ให้ใช้แนวทางการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยที่หลากหลาย โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับวิถีอาชีพ การดำรงชีวิตของชุมชนผู้มีรายได้น้อย โดยรูปแบบการอยู่อาศัยอาจเป็นรูปแบบบ้านมั่นคงแนวราบ บ้านแถวอาคารสูง หรืออาคารสูงผสมอาคารแนวราบ ทั้งนี้ต้องให้ชุมชนแออัดเจ้าของปัญหามีส่วนกำหนดแนวทางการแก้ปัญหาและรูปแบบที่อาศัยด้วย โดยผ่านกลไกคณะกรรมการการแก้ไขปัญหาทั้งในระดับการรถไฟฯกระทรวงคมนาคม  รวมถึงกระทรวง พม. ในอนาคตด้วย

น้ำทิพย์ เปาป้อ ผู้แทนชุมชนกำแพงงาม จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า วันนี้เราส่งตัวแทนมาขอให้แก้ไขปัญหาเบื้องต้นอย่างน้อยเป็นเรื่องที่ชาวบ้านควรจะได้มีส่วนร่วมในการพิจารณาทุกอย่าง เรื่องที่ดิน เรื่องอาชีพ ชาวบ้านจะต้องมีส่วน เพราะว่าชาวบ้านเสียภาษี แต่รัฐจะใช้ภาษีแบบไหน ฉะนั้นข้อเสนอวันนี้เป็นไปเพื่อความยั่งยืนและความเป็นมนุษย์ของชุมชน 

“เราต้องการการแก้ไขปัญหาให้มนุษย์มีอาชีพและมีบ้านที่ดี พวกเราเป็นส่วนหนึ่งของเมือง พวกเราพัฒนาเมือง เพราะว่ามีพวกเราเหล่านี้เมืองถึงพัฒนา พวกเราหาเช้ากินค่ำ หารายวัน วันนี้เราไม่มีรายได้ แต่ภาษีนั้นต้องเสียให้รัฐทุกวัน ไฟฟ้า น้ำประปา ท่านช่วยใคร ท่านไม่ได้ช่วยเรานะ แต่เราช่วยท่าน อยากจะถามกับคุณว่าที่ดินเป็นที่ที่เราต้องอาศัยอยู่ในประเทศไทย ทุกวันนี้เราร้องเพลงชาติให้ใครฟัง ก็ร้องให้พวกเราฟัง แต่เราจะรักชาติแบบไหน ชาติให้เราแบบไหน คุณจะให้เราแบบไหน แล้วลูกหลานเราจะอยู่อย่างไร จะต้องอยู่ในที่บุกรุกไปตลอดชีวิตหรือ ถ้าให้เราไปอยู่แฟลตเราจะอยู่ได้อย่างไร แล้วพ่อแม่เราล่ะ ผู้สูงอายุจะเป็นอย่างไร ทุกอย่างมันเป็นเงินเป็นทองหมด”

 จิราพร เชาวน์ประยูร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.เชียงใหม่

ด้าน จิราพร เชาวน์ประยูร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.เชียงใหม่ ในนามผู้แทนผู้ว่าราชการจ.เชียงใหม่ ได้รับหนังสือไว้ และกล่าวว่า ความทุกข์ร้อนของประชาชนโดยการรวมกลุ่มกันทั่วประเทศ 36 จังหวัด 3 หมื่นกว่าครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากภาครัฐ ไม่ว่าจะกระทรวงการคมนาคมหรือกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วันนี้เป็นการรวมกันของเครือข่ายสลัมสี่ภาคที่จะยื่นกันทั่วประเทศ 

“อยากจะให้ฟังความคิดเห็นของประชาชนโดยทำร่วมกันในทุกๆ จังหวัดที่มีทางรถไฟ ไม่อยากให้เป็นการที่ประชาชนที่อยู่อาศัยไม่ได้มีส่วนร่วม ดิฉันในนามของจังหวัดเชียงใหม่จะรับหนังสือที่ท่านยื่นมาเพื่อส่งต่อไปยังท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งไปยังกระทรวงที่เกี่ยวข้อง” 

จากการสำรวจชุมชนในที่ดินของการรถไฟฯ พบว่า มี 36 จังหวัด 397 ชุมชน 39,484 หลังคาเรือน (เฉพาะชุมชนแออัดผู้มีรายได้น้อย) ซึ่งการเคลื่อนไหวของเครือข่ายสลัมสี่ภาคในวันนี้ จัดขึ้นทั้งหมด 8 จังหวัดได้แก่ เชียงใหม่, ลำปาง, กรุงเทพฯ, ขอนแก่น, นครราชสีมา, สุราษฎร์ธานี, ตรัง และสงขลา

Author

AUTHOR