คนเก็บของเก่าหวั่น ต่ออายุนำเข้าขยะพลาสติก ทำราคาตกต่ำ กระทบปากท้อง โอดมีรายได้ต่อวันแค่ไม่กี่ร้อย

ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี อธิบดีกรมศุลกากร คัดค้านหวั่นกระทบราคาพลาสติกทั่วไปตกต่ำ-มลพิษด้านสิ่งแวดล้อม  เสนอให้ตรวจสอบคุณสมบัติผู้นำเข้าและเส้นทางพลาสติกตกค้างในประเทศ

สมาคมซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่ายื่นหนังสือถึง พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2564 เพื่อคัดค้านการนำเข้าเศษพลาสติกและตรวจสอบช่องโหว่ทางกฎหมายเกี่ยวกับเขตปลอดอากร ณ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และในวันเดียวกันได้ยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมศุลกากร ณ กรมศุลกากรอีกด้วย

ชัยยุทธิ์ พลเสน นายกสมาคมซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่า กล่าวว่าการพิจารณาต่ออายุการนำเข้าเศษพลาสติกขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นคณะอนุกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่มีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธาน ซึ่งกำลังจะเข้าสู่กระบวนการวาระสุดท้ายในเร็วนี้ๆ หากในอนาคตมีการอนุญาตให้นำเข้าเศษพลาสติกได้คาดว่าจะเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และกระทบอาชีพของคนเก็บของเก่า

“เดิมทีคนเก็บขวดพลาสติกใส ๆ พวกนี้ราคาก็ไม่ได้ดีอยู่แล้วหากมีการนำเข้าจะกระทบกับราคาเข้าไปอีก หากราคาต่ำมากเกินไปก็จะไม่มีคนเก็บของเหล่านี้แล้ว สุดท้ายกลายเป็นขยะตกค้าง”

ธนะชัย ชินปัญจพล เลขาธิการสมาคมซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่า กล่าวเพิ่มเติมว่า หากจะมีการอนุญาตให้นำเข้าเศษพลาสติกก็ต้องระบุให้ชัดเจนว่าเป็นพลาสติกประเภทไหน มีความจำเป็นและไม่มีอยู่แล้วในประเทศ เพราะคนเก็บของเก่า จะมีการเก็บขยะพลาสติกบางชนิดได้เท่านั้น จึงอยากให้แยกแยะชัดเจน 

“โครงสร้างการนำเข้าเศษพลาสติกมีทั้งแบบพลาสติกวิศวกรรมและพลาสติกทั่วไป เช่น ขวดน้ำดื่ม กล่อมนม แชมพู ซึ่งเป็นพลาสติกที่พี่น้องซาเล้งเก็บเพื่อยังชีพ แต่หากมีการอนุญาตให้นำเข้าพลาสติกพวกนี้จะกระทบกับเขาราคาตกทันที เหลือกิโลกรัมละไม่กี่บาท ไม่ถึงค่าแรงขั้นต่ำด้วยซ้ำ ส่วนพลาสติกวิศวกรรมที่อนุญาตให้นำเข้าต้องตรวจสอบว่าผู้ที่นำเข้ามีคุณสมบัติหรือไม่และเศษพลาสติกที่เหลือจากกระบวนการผลิตไปที่ไหน เพราะที่ผ่านมาเราพบข้อมูลย้อนหลังสามปีว่ามีขยะพลาสติกตกค้างอยู่ในประเทศ”

ดาวัลย์ จันทรหัสดี เจ้าหน้าที่อาวุโส มูลนิธิบูรณะนิเวศ บอกว่าขณะนี้การพิจารณาการนำเข้าเศษพลาสติกคาดว่าจะมี 3 แนวทาง คือ การยกเลิกการนำเข้าตามมติเดิมที่เคยกำหนดไว้แล้วคือยกเลิกภายในปี 63 หรืออนุญาตให้นำเข้าได้อีกหนึ่งปี และสุดท้ายคือต่ออายุไปอีก 5 ปี แต่ค่อย ๆ ลดปริมาณลงจนไม่มีการนำเข้าเพิ่มอีก

“ตอนนี้ก็ยังไม่ระบุวันแน่ชัดว่าจะเคาะเรื่องนี้ได้เมื่อไหร่ แต่กรมควบคุมมลพิษในฐานะประธานอนุกรรมการชุดเล็กในการพิจารณาเรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการหารือกับทุกฝ่ายอยู่รวมถึงได้เชิญภาคประชาชนและสมาคมซาเล้งร่วมให้ข้อมูลด้วย”

ข้อมูลจากกรมศุลกากรระบุสถิติการนำเข้าส่งออกเศษพลาสติกปี 2555-2563 พบว่า ปริมาณการนำเข้า 1,026,886 ตัน ปริมาณส่งออก 412,256 ตัน  คงเหลือในประเทศ 614,630 ตัน

Author

Alternative Text
AUTHOR

อรวรรณ สุขโข

นักข่าวที่ราบสูง ชอบเดินทางภายใน ตั้งคำถามกับทุกเรื่อง เชื่อในศักยภาพมนุษย์ ขอเพียงมีโอกาส