สำรวจเมรุ 189 วัด กทม.ปริมณฑลได้มาตรฐาน สธ.ยันควันเผาศพไม่แพร่เชื้อ

คาดการณ์ยอดตายเพิ่ม วัดต้องรองรับเผาศพโควิด 2 เท่า “กรมอนามัย” แจงญาติเก็บกระดูกผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลได้เพราะเชื้อถูกทำลายจากการเผาแล้ว  

จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นหลักร้อยคนต่อวัน ทำให้วัด กทม.และปริมณฑล เผาศพต่อเนื่องจนเตาเผาศพมีลักษณะร้าวจากการใช้งานหนักเกินศักยภาพ บางวัดต้องเผาศพ 2-4 ศพต่อวัน ขณะที่ความสามารถและเวลาในการเผาขึ้นอยู่กับชนิดของเตา อายุการใช้งาน และร่างของผู้เสียชีวิต 

ด้าน “กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ” และ “กรมอนามัย” ได้ส่งทีมวิศวกรทางการแพทย์และวิศวกรอาสา ลงพื้นที่สำรวจเตาเผาศพในวัดที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และปทุมธานี ซึ่งมีทั้งหมด 189 วัด ขณะนี้ตรวจสอบไปแล้ว 31 วัด พบว่าเตาเผาศพยังมีมาตรฐาน

ข้อมูล ณ วันที่ 6 ส.ค. 2564 จาก “สำนักงานพระพุทธศาสนา” วัดในกรุงเทพมหานครมี 92 แห่ง เผาศพไปแล้ว 3,067 ศพ วัดในจังหวัดนนทบุรี จำนวน 42 แห่ง เผาศพไปแล้ว 1,067 ศพ และวัดจังหวัดปทุมธานี 55 แห่ง เผาศพไปแล้ว 222 ศพ และคาดว่าต้องรองรับการจัดการศพในสภาวะวิกฤตนี้ให้ได้ถึง 2 เท่า  

“นพ.ดนัย ธีวันดา” รองอธิบดีกรมอนามัย ย้ำว่าระหว่างการเผาศพไม่ควรเปิดประตูเตาเผาศพ หลีกเลี่ยงการเขี่ยหรือพลิกศพ และไม่ควรนำสิ่งของอื่นๆ เข้าเตาเผาเนื่องจากส่งผลกระทบต่อการทำงานของเตาเผา และอาจเกิดสารตกค้างอื่นๆ 

และจากกรณี สัปเหร่อหลายวัดแจ้งว่าญาติผู้เสียชีวิตหลายศพทิ้งกระดูกไว้ ไม่นำกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อเพราะกลัวว่ายังมีเชื้อโควิด-19 เหลืออยู่ “รองอธิบดีกรมอนามัย” ชี้แจงว่าเมื่อเผาศพเสร็จเรียบร้อยแล้วถือได้ว่าเชื้อโรคถูกเผาทำลายไปหมดแล้ว สามารถเก็บกระดูกเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลได้ 

ส่วนพระสงฆ์ที่ประกอบพิธี และผู้ปฏิบัติงานที่ไม่ได้สัมผัสกับศพโดยตรง ไม่จำเป็นต้องใส่ชุด PPE  และผู้ร่วมพิธีต้องสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง เพิ่มความระมัดระวัง เนื่องจากอาจสัมผัสเชื้อจากบุคคลอื่นหรือจุดสัมผัสร่วมได้ ภายหลังเสร็จพิธีเผาศพเมื่อกลับถึงบ้านให้อาบน้ำ สระผม และเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที

“รองอธิบดีกรมอนามัย” กล่าวอีกว่า การเผาศพหรือฝังศพทั้งถุง ขอให้ดำเนินการในพื้นที่ที่จัดเตรียมเฉพาะ ห้ามเปิดถุงบรรจุศพอย่างเด็ดขาด ควรดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 24 ชั่วโมง หรือ 1 วัน และขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยให้ใช้เตาเผาศพเท่านั้น หลีกเลี่ยงการเผากลางแจ้ง

“ควรใช้เตาเผาศพปลอดมลพิษแบบสองห้องเผา ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิในห้องเผาศพไม่น้อยกว่า 760 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิในห้องควันไม่น้อยกว่า1,000 องศาเซลเซียสตลอดระยะเวลาการเผาศพ ซึ่งควันที่ลอยจากปล่องจะไม่สามารถแพร่เชื้อได้”

เปิดขั้นตอนการจัดการศพผู้ติดเชื้อโควิด-19

การจัดการศพผู้ที่เสียชีวิตจากโรคโควิด19 เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ กรมอนามัยได้จัดทำ 3 แนวทาง ดังนี้ 

1) ยืนยันสาเหตุการตาย โดยแยกเป็น 2 กรณี คือ กรณีที่ 1 เสียชีวิตในโรงพยาบาล จะดำเนินการโดยทีมจัดการศพ โดยศพผู้เสียชีวิตจะถูกบรรจุใส่ถุงบรรจุศพ 2 ชั้น และทำความสะอาดฆ่าเชื้อภายนอกถุงบรรจุศพตามมาตรฐานส่วนกรณีที่ 2 เสียชีวิตนอกโรงพยาบาล ทีมจัดการศพจะนำศพใส่ถุงบรรจุศพ 2 ชั้นตามมาตรฐาน และแจ้งพนักงานสาธารณสุขใกล้บ้าน หรือพนักงานควบคุมโรคติดต่อของโรงพยาบาล 

2) แจ้งตายตามขั้นตอน และออกใบมรณบัตรภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อนำไปฌาปนกิจ 

3) การขนศพผู้เสียชีวิตและการประกอบพิธีทางศาสนา กรณีญาติมีความพร้อมหลังจากที่ญาติรับทราบแนวปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และมีใบมรณบัตรสามารถประสานวัดและอาสาสมัคร หรือกู้ภัย หรือมูลนิธิ เพื่อขนศพ แต่หากญาติไม่มีความพร้อมหรือติดโควิดทั้งครอบครัว และศพไม่มีญาติ ให้แจ้งโรงพยาบาลเพื่อประสานกับทางวัดเพื่อดำเนินการขนศพ

หาวัดเผาศพผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างไร?

“กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ” ได้ร่วมกับ “สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ” จัดทำระบบ GIS รวบรวมข้อมูลรายชื่อวัดที่รับฌาปนกิจผู้ติดเชื้อโควิด19 ฟรีสำหรับประชาชน สถานพยาบาล หน่วยกู้ภัย และการแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อให้สามารถค้นหาวัดที่อยู่ใกล้ และสถานที่ตั้ง เพื่อการกระจายไปฌาปนกิจยังวัดต่างๆ ลดโหลดการใช้งานเตาเผาให้มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น ดาวน์โหลดระบบ GIS ได้ที่เว็บไซต์กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และกรมอนามัย สำหรับวัดที่มีปัญหาเกี่ยวกับเตาเผาศพ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพได้รวบรวมข้อมูลบริษัทผลิตและจำหน่ายเตาเผาศพไว้เพื่อสะดวกในการติดต่อสอบถาม

Author

Alternative Text
AUTHOR

วชิร​วิทย์​ เลิศบำรุงชัย

ผู้สื่อข่าวสาธารณสุข ThaiPBS