สปสช. เตรียมเพิ่มผู้รับสาย หลังโควิด-19 ระบาดหนัก มีคนโทรเข้าวันละกว่า 2.4 หมื่นสาย เลขาฯ ขอรัฐเร่งจัดระบบเชื่อมฐานข้อมูลทั้ง 1330 1668 1669 ให้เป็น Data ชุดเดียว
25 ก.ค. 2564 – นพ.จเด็จ ธรรมรัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ขณะนี้ปริมาณสายที่โทรเข้ามา 1330 มากขึ้นหลายเท่าตัว เพราะก่อนสถานการณ์โควิด-19 ระบาด จะมีคนโทรเข้ามา ประมาณ 3,000-4,000 สายต่อวัน โดยจะมีผู้รับสาย 60-70 คน แต่ในเวลานี้แนวโน้มโควิด-19 ระบาดเพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีคนโทรเข้ามาราว 24,000 สายต่อวัน ซึ่งไม่ทันกับความต้องการของประชาชน โดยกว่าครึ่งเป็นเรื่องการหาเตียง การรักษาโควิด-19 ที่บ้าน (Home isolation) การกลับไปรักษาที่ภูมิลำเนา นอกจากนี้ยังมีการสอบถามข้อมูลอื่น ๆ โดยแต่ละสายจะใช้เวลาเฉลี่ย 9 นาที/คน แต่ขณะนี้ได้ปรับให้สั้น ประมาณ 5 นาที/คน คือ การซักถามประวัติผู้ป่วยเพื่อส่งต่อไปรักษาประมาณ 3 นาที อีก 2 นาที บันทึกประวัติ
นพ.จเด็จ บอกอีกว่า แต่หากผู้ป่วยหรือประชาชนสามารถเข้าไปกรอกข้อมูลในเว็บไซต์ สปสช. ไลน์แอปพลิเคชัน และอีกหลายช่องทางก่อน จะช่วยลดขั้นตอนการกรอกข้อมูลลงระบบบนฐานข้อมูล ซึ่งเป็นฐานข้อมูลเดียวกันกับสายด่วน ก็อาจเร็วกว่าเจ้าหน้าที่
ช่วงพีคสูงสุดของสถานการณ์โควิด-19 ระลอกนี้ ช่วงประมาณ 10.00-14.00 นาฬิกา จะพบว่า ใน 1 วินาที เคยมีคนโทรศัพท์เข้ามาพร้อมกัน 600 คู่สาย แต่เจ้าหน้าที่รับสายมีเพียง 300 คู่สายรองรับ เราไม่ทันแล้ว เพราะถ้าจะรับแบบสายไม่หลุด จะได้เพียงประมาณ 1,600 สาย เราจึงพยายามแก้ปัญหาตอนนี้ด้วยการจะเพิ่มให้เป็น 800 คู่สาย 800 คนรับสาย เพื่อรองรับประชาชนที่โทรเข้ามากว่า 24,000 สายต่อวัน เพื่อจะได้รับสายทันทีไม่มีสายหลุด หรือโทรติดยาก รอนาน
สำหรับเจ้าหน้าที่ที่จะรับสายเพิ่มจะไม่ได้แออัดในจุดเดียว แต่เป็นการทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) และกระจายการทำงานให้ผู้ที่รับสายจากต่างจังหวัดทำงานไปพร้อมกันด้วย คาดว่าจะพยายามให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 วัน เพื่อลดปัญหาและประชาชนจะเข้าถึงหมอให้เร็วที่สุด
เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ยังกล่าวอีกว่า ความจริงแล้วบทบาทของ สปสช. นอกจากทำหน้าที่จัดบริการสาธารณสุขให้แก่บุคคลที่ไม่มีสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลจากกฎหมายประกันสังคม หรือสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ภายใต้การควบคุมดูแลของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่เรียกว่า “สิทธิหลักประกันสุขภาพ” แต่การให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาให้รวดเร็วด้วยการรับเรื่องร้องเรียน การรับสายในช่วงโควิด-19 ถือเป็นด่านหน้า ที่ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล คลินิก ศูนย์บริการสาธารณสุข อื่น ๆ ที่แพทย์พยาบาลก็ต้องรับช่วงต่อไปให้รวดเร็วพร้อมกัน เพราะจะได้ลดจำนวนประชาชนที่โทรเข้ามา ไม่ให้โทรซ้ำซ้อนและนำไปสู่การรักษาโดยเร็ว ขณะที่โรงพยาบาลต้องรับช่วงต่ออย่างทันท่วงที เพื่อลดความแออัดคอขวดตั้งแต่ต้นน้ำ เพื่อผู้ป่วยจะได้รับการรักษาให้เร็วที่สุด
แม้ขณะนี้ระบบเบอร์สายด่วนที่ใช้ ไม่ว่า 1668, 1669 และ 1330 จะมีวัตถุประสงค์ช่วยประชาชนในเรื่องต่าง ๆ ในช่วงโควิด-19 แต่จะดีมากหากทุกฝ่ายร่วมกัน มีข้อมูล (data) บนพื้นฐานข้อมูลคนไทยชุดเดียวกัน ซึ่งขณะนี้บางส่วนของข้อมูลยังไม่เชื่อมโยงดีนัก หากรัฐบาลเร่งสนับสนุนอุดช่องโหว่ ฐานข้อมูล ก็จะยิ่งทำให้จัดการระบบรับมือกับประชาชนที่ขอความช่วยเหลือจากสถานการ์โควิด-19ให้ทันท่วงทีมากยิ่งขึ้น
สำหรับ สปสช. ปัจจุบันมีในเครือข่ายในโรงพยาบาลมากกว่า 1,000 แห่ง แบ่งเป็น โรงพยาบาลเอกชน 380 แห่ง โรงพยาบาลของรัฐกว่า 1,000 แห่ง นอกจากนี้ยังมี โรงพยาบาลในอำเภอกว่า 700 แห่ง