นายกฯ ฉีดวัคซีนเข็ม 2 ยืนยัน วัคซีนไทยมีพอ – รับมือได้ทุกสายพันธุ์


ย้ำขอให้มั่นใจรัฐบาลบริหารได้ หวังให้เกิดความเข้าใจ ไม่ต้องการให้ใครเอาไปบิดเบือน ระบุ สถานการณ์เปลี่ยนทุกวัน ถ้าวัคซีนมาพอ ก็เป็นไปตามแผน ถ้าวัคซีนมาน้อยกว่า ก็ต้องปรับแผน

วันนี้ (24 พ.ค.64) ที่สถาบันบำราศนราดูร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้ารับการฉีดวัคซีน AstraZeneca เข็มที่ 2  หลังจากฉีดเข็มแรกไปตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ฉีดให้ นอกจากนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็เข้ารับการฉีดวัคซีน AstraZeneca เข็มที่ 2 หลังจากฉีดเข็มแรกพร้อมกับนายกรัฐมนตรี

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 (ภาพ : FB ไทยคู่ฟ้า)


พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ ขอให้เชื่อมั่นในประสิทธิภาพของวัคซีนที่ไทยมีทั้ง 2 ยี่ห้อ รวมทั้งยี่ห้อที่กำลังจัดหาเพิ่มเติม เพราะได้ตรวจสอบอย่างรัดกุม รอบคอบ เป็นไปตามมาตรฐานด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะในด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัย ส่วนในเรื่องการกระจายสถานที่ฉีดวัคซีน ซึ่งจะเห็นว่ามีทั้งของรัฐและภาคเอกชน คนที่มาฉีดให้ก็เป็นบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งบางแห่งก็มีมาก บางแห่งก็มีน้อย ก็จะจัดหาเพิ่มเติมให้เท่าที่สามารถทำได้  


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวขอบคุณประชาชนที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีนผ่าน “หมอพร้อม” จำนวนมากพอสมควร พร้อมบอกว่า จำเป็นต้องพิจารณาสถานการณ์การแพร่ระบาดใหม่ เพราะมีทั้งพื้นที่อันตรายมาก ปานกลาง และน้อย จึงจำเป็นต้องมีการปรับเรื่องวัคซีน แต่ยืนยันว่าทุกคนได้ฉีดแน่นอน

“พื้นที่ไหนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือได้ฉีดวัคซีนน้อย ก็ขอให้เข้มงวดกับตัวเองทั้งในเรื่องการใส่หน้ากากและการเว้นระยะห่าง การเข้าไปในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง”



นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความจำเป็นของการปรับปริมาณวัคซีน ต้องขึ้นอยู่กับวัคซีนที่เข้ามา ทั้งที่เข้ามาแล้ว กำลังจะเข้ามา หรือยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจา แต่คิดว่ากระทรวงสาธารณสุขมีขีดความสามารถดำเนินการในเรื่องนี้ได้ วันนี้สถานการณ์ที่สำคัญของวัคซีนมี 3 เรื่อง คือ ปริมาณวัคซีนที่มีอยู่, ขีดความสามารถในการให้บริการของเจ้าหน้าที่ และ สถานการณ์การแพร่ระบาด โดยมีหลายจังหวัดที่เป็นสีแดง รวมทั้งกลุ่มแรงงานก่อสร้าง และแรงงานในอุตสาหกรรม อีกกลุ่มที่ต้องให้ความสำคัญคือ ครู ที่กำลังจะเปิดโรงเรียน รวมทั้งกลุ่มที่กำลังแพร่ระบาดในกรุงเทพฯ ด้วย

(ภาพ : FB ไทยคู่ฟ้า)


นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า แม้ผู้ที่ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อมจะมีปัญหาอยู่บ้าง จากการที่ต้องถูกเลื่อนออกไป เพราะวัคซีนยังมาไม่ถึง แต่ยืนยันว่าได้ฉีดทุกคน ขอให้เข้าใจ ไม่บิดเบือน ฟังหมอในระบบชี้แจง


“แต่ก็ขอให้มั่นใจว่าเราสามารถบริหารได้ ต้องการความเข้าใจ ไม่ต้องการให้ใครเอาไปบิดเบือน การทำงานมันต้องมีปัญหา เมื่อมีปัญหา เราก็ต้องแก้ไข ไม่มีสูตรเดียวที่ทำได้ เพราะสถานการณ์เปลี่ยนไปทุกวัน ถ้าวัคซีนมาพอ ก็เป็นไปตามแผน ถ้าวัคซีนมาน้อยกว่า ก็ต้องปรับแผน ถ้าวัคซีนมามากกว่านั้น ก็ปรับแผนอีก”


ส่วนการระบาดของเชื้อสายพันธุ์ใหม่ ที่กำลังเข้ามานั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รับการยืนยันจากทางสาธารณสุข ว่า วัคซีนที่มีอยู่สามารถดูแลได้ แต่ก็ต้องขึ้นกับพฤติกรรมของคนด้วย ถ้าไปอยู่ในพื้นที่ ๆ มีการแพร่ระบาด และปล่อยตัวเองจนสถานการณ์แรงขึ้น เมื่อมาหาหมอก็ไม่ทันแล้ว

“ไม่อยากให้ทุกคนประมาท และก็ไม่อยากให้ตื่นตระหนก ให้ฟังแพทย์ วันนี้เราต้องคำนึงถึงตัวเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติไปด้วยกัน เราจะได้รู้ว่า เราได้เดินหน้ามาถูกวิธีหรือยัง รัฐบาลมีหน้าที่ต้องดูแลคนทั้งประเทศ แต่เราปริมาณวัคซีนแค่นี้ ทำยังไงจะให้พอกับคนส่วนใหญ่ได้ พื้นที่ไหนรุนแรงก็มากหน่อย”

(ภาพ : FB ไทยคู่ฟ้า)

ภายหลังการฉีดวัคซีน นายกรัฐมนตรียังได้รับมอบวัคซีนพาสปอร์ตจากผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข โดยสามารถใช้เป็นหลักฐานในการเดินไปต่างประเทศ

Author

Alternative Text
AUTHOR

เพ็ญพรรณ อินทปันตี

อดีตนักกิจกรรม รักการอ่าน งานเขียน ว่ายน้ำ และเล่นกับแมว