iLaw ตั้งแคมเปญ เรียกร้อง นายก-รมว.ยุติธรรม-อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ทำทันที 3 มาตรการ ฉีดวัคซีน-ลดแออัด-หยุดเข้าไปเพิ่ม
วันนี้ (17 พ.ค.2564) เวปไซต์ Change.org เปิดรณรงค์จากโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) เสนอข้อเรียกร้องเร่งด่วน ฉีดวัคซีน-ลดแออัด-หยุดเข้าไปเพิ่ม ป้องกันโควิด-19 ในเรือนจำ หลังพบผู้ต้องขังติดเชื้อในเรือนจำเฉียดหมื่นคน โดยเสนอ 3 มาตรการเร่งด่วนต่อนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมราชทัณฑ์
1. จัดสรรงบประมาณและวัคซีนให้เรือนจำ โดยทั้งงบประมาณที่จัดสรรไว้สำหรับการควบคุมโรคโควิด-19 งบประมาณที่ได้จากการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศ รวมทั้งงบประมาณสำหรับสวัสดิการประชาชน ทั้งกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กองทุนประกันสังคม และกองทุนสวัสดิการข้าราชการ ต้องถูกจัดสรรเป็นพิเศษสำหรับการบริการสุขภาพในเรือนจำ ในฐานะที่เป็น “กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง” เพราะสภาพความเป็นอยู่ที่แออัด ผู้ต้องขังและนักโทษ “ไม่มีทางเลือก” อื่นที่จะเข้าถึงบริการสุขภาพได้
รวมทั้งต้องเพิ่มอัตรากำลังบุคลกรทางการแพทย์เป็นพิเศษให้กับเรือนจำทุกแห่งโดยทันทีเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงภาวะวิกฤต และต้องจัดให้ผู้ต้องขัง นักโทษ และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับเรือนจำอยู่ใน “กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง” ที่จะได้รับการฉีดวัคซีนก่อน และได้รับโดยทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัวต้องได้รับวัคซีนก่อน
2. ลดจำนวนคน ลดความหนาแน่น โดยให้ศาลพิจารณาให้ประกันตัวผู้ต้องขังที่คดียังไม่ถึงที่สุด โดยใช้กำไลอิเล็กทรอนิกส์ (EM) ติดตามตัวและกำหนดเงื่อนไขการเดินทางสำหรับผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงจะหลบหนี และพิจารณาให้ประกันตัวโดยกำหนดหลักทรัพย์ต่ำ หรือไม่ต้องวางหลักทรัพย์สำหรับผู้ต้องขังที่มีฐานะยากจน
ให้กรมราชทัณฑ์ออกมาตรการ “พักโทษ” สำหรับผู้ต้องขังที่สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงจะได้รับอันตรายหากติดเชื้อโดยทันที โดยอาจใช้กำไลอิเล็กทรอนิกส์และกำหนดเงื่อนไขในการคุมประพฤติร่วมด้วย และให้เรือนจำทุกแห่งพิจารณาการส่งตัวผู้ติดเชื้อออกไปรักษาที่โรงพยาบาลภายนอกเรือนจำเป็นหลัก
3. หยุดเอาคนเข้าไปเพิ่มในเรือนจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรือนจำที่พบผู้ติดเชื้อแล้วต้องไม่เพิ่มจำนวนประชากรโดยเด็ดขาด เพราะการเอาคนเข้าไปเพิ่มเปรียบเสมือนกับส่งคนที่ยังมีสุขภาพดีไปติดเชื้อ หรือส่งคนที่มีความเสี่ยงจะติดเชื้อเข้าไปอยู่รวมกับคนที่มีสุขภาพดี ซึ่งจะทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นและระบบสาธารณสุขรองรับไม่ไหว หากมีคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลให้ควบคุมตัวบุคคลใดควรจัดหาสถานที่อื่นในการควบคุมตัวเพื่อคัดกรองและกักตัวเป็นการชั่วคราว เช่น ค่ายทหาร หรือสถานที่ฝึกอบรมของหน่วยงานราชการที่ภาวะปัจจุบันไม่ได้ใช้งาน