ยัน แจ้งรายละเอียดทุกอย่างไม่ปิดบัง เตรียมติดป้ายตัวเลขหน้าเรือนจำให้รู้ยอดคนติดเชื้อทุกวัน จี้ ขรก.ร่วมแรงทำงานอย่าทำเป็นทองไม่รู้ร้อน กรมราชทัณฑ์ ยอมรับ ผู้ต้องขังติดเชื้อแล้ว 9,783 คน
บ่ายวันนี้ (17 พ.ค.2564) สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงมาตรการแก้ปัญหาโควิด-19 บุกเรือนจำ ระบุ จะมีการแถลงจำนวนผู้ต้องขังที่ได้ตรวจเชิงรุกไปแล้วมีจำนวนเท่าไร การตรวจเชิงรุกจะดำเนินการให้ครบทุกเรือนจำ ทั้งผู้ต้องขัง เจ้าหน้าที่เรือนจำและเจ้าหน้าที่ส่วนกลางทุกคน รวมทั้งผู้บริหารระดับสูง ของกรมราชทัณฑ์ทุกคนจำนวน 55,000 คน ส่วนที่มาของเชื้อให้เร่งสืบข้อเท็จจริงและหาสาเหตุการติดเชื้อครั้งนี้ เมื่อได้ความแน่ชัดจะแจ้งให้ทราบโดยไม่ปิดบังใดๆ ทั้งสิ้น
ในส่วนการรักษาและการเฝ้าดูอาการคนไข้จะทำตลอดเวลาไม่มีวันหยุด ทุกคนจะต้องทำงานแข่งกับเวลา และจะมีการประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อหาวิธีการรักษาที่เร็วและได้ผลดีที่สุด โดยใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ รวมทั้งการใช้สมุนไพรไทย เช่น ฟ้าทะลายโจร เข้าช่วยรักษาในขณะที่รอดูอาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในระดับสีเขียวที่ติดเชื้อแต่ยังไม่มีอาการ และคนระดับสีเหลืองที่กำลังเริ่มมีอาการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวต่อว่า ผู้ต้องขังเป็นประชาชนคนไทยที่ต้องอยู่ในเรือนจำไปไหนไม่ได้ การอยู่ในที่ถูกล้อมเอาไว้ ขยับขยายไปไหนไม่ได้ จึงเป็นอุปสรรคอย่างมากในการแก้ไขปัญหา ประกอบกับในห้องนอนก็มีผู้ต้องขังอยู่กันอย่างแออัด จึงมีความจำเป็นที่ต้องแยกผู้ต้องขังและผู้คุมที่ไม่ติดเชื้อในทุกเรือนจำ ให้ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างเร่งด่วน
นอกจากนี้ จะมีการติดประกาศหน้าเรือนจำทุกแห่งในประเทศไทย เพื่อแจ้งให้ทราบว่ามีผู้ต้องขังติดเชื้อแล้วกี่คนและไม่ติดเชื้อกี่คน หายแล้วกี่คน จะมีการแจ้งเช่นนี้เป็นระยะๆ อย่างน้อยที่สุดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และจะปรับตัวเลขทุกวัน เพื่อให้ประชาชนในแต่ละชุมชนได้รับทราบ โดยผู้บัญชาการเรือนจำทุกคนจะทำรายชื่อผู้ติดเชื้อ และปรับปรุงเป็นรายวัน เพื่อให้ญาติผู้ต้องขังทุกคนสามารถเข้าตรวจสอบได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่ 8.00 น.-18.00 น.
รมว.ยุติธรรม กล่าวอีกว่า กระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ จะเร่งวางแผนเตรียมตัวรับการระบาดครั้งนี้ และครั้งหน้าที่จะมีมาได้ทุกเมื่อ โดยจะเร่งจัดการประชุมพิจารณาในเรื่องของบุคลากรที่ต้องเพิ่ม เช่น พยาบาลที่ปัจจุบันขาดแคลนเป็นจำนวนมาก รวมทั้งแพทย์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ตลอดจนพื้นที่ในการรองรับ การดูและรักษาผู้ต้องขัง
รวมทั้งจะพิจารณานโยบายการพักโทษในรูปแบบพิเศษ เช่น การติดกำไล EM ให้ละเอียดรอบคอบ โดยพิจารณาสิ่งแวดล้อมและข้อเท็จจริง ตลอดจนสภาวะของผู้ต้องขัง ตลอดจนสิทธิขั้นพื้นฐานผู้ต้องขัง เพื่อกำหนดเป็นนโยบายการพักโทษขึ้นมา ในส่วนของวัคซีนที่จะฉีดให้แก่ผู้ต้องขัง ก็จะเสนอเรื่องไปยังกระทรวงสาธารณสุขให้เร่งดำเนินการ
“ถ้าเราใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ รักษา 10,000 คน หัวหนึ่ง 5,000 บาท จะใช้เงินถึง 50 ล้านบาท แต่หากใช้วัคซีนกับผู้ต้องขัง 300,000 คนหัวละ 1,000 บาทจะใช้ 300 ล้านบาท จะหยุดเชื้อในเรือนจำได้ทั้งหมด ผมจะเสนอไปยังรัฐมนตรีว่าการสาธารณสุขดำเนินการให้เรียบร้อย ซึ่งหวังว่าทางนายอนุทินจะเข้าใจและเร่งดำเนินการให้”
ส่วนสถานการณ์ที่ จ.เชียงใหม่ ได้ใช้มาตรการบับเบิ้ล แอนด์ซีล ควบคุมในเรือนจำ โดยมีการร่วมมือกันส่วนราชการต่างๆ ในจังหวัด ส่วนในเรื่องตัวเลขต้องแจกแจงให้ชัด และยืนยันไม่ได้ปิดบังหรือปกปิด แต่หากไม่สามารถทำให้ถูกต้อง ก็ต้องมีคนรับผิดชอบ จะทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนไม่ได้
“กรมราชทัณฑ์” ยอมรับผู้ต้องขังติดโควิด 9,783 คน
อายุตม์ สินธพพันธุุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ แถลงว่า จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกกลุ่มผู้ต้องขังในเรือนจำ และทัณฑสถานในพื้นที่เสี่ยง พบว่าข้อมูลวันนี้ (17 พ.ค.2564) มีผู้ติดเชื้อวันเดียวจำนวน 6,853 คน โดยกรมราชทัณฑ์ ได้สั่งใช้มาตรการให้มีการเติมคลอรีนลงในอ่างอาบน้ำเรือนจำทั่วประเทศ
และให้ผู้บัญชาการเรือนจำทั่วประเทศ ดูกลุ่มผู้ต้องขังกลุ่มมีความเสี่ยงสูงก่อน เช่น อายุ 60 ขึ้นไปมีโรคประจำตัวให้แยกออกมาก่อนทันที ให้เจ้าหน้าที่เรือนจำสวอปตรวจเชื้อ 100% ทุกๆ 7 วัน
ทั้งนี้จากข้อมูลที่รายงาน ระหว่างวันที่ 12-16 พ.ค.นี้ มีผู้ต้องขังติดเชื้อรวมทั้งหมด 9,783 คนจาก 8 เรือนจำ ประกอบด้วย
- เรือนจำกลางเชียงใหม่ ติดเชื้อ 3,929 คน จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 6,469 คน
- ทัณฑสถานหญิงกลาง ติดเชื้อ 1,039 คน จากจำนวนต้องขังทั้งหมด 4,488 คน
- เรือนจำพิเศษกรุงเทพ พบติดเชื้อ 1,960 คน จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 3,023 คน
- เรือนจำกลางคลองเปรม ติดเชื้อ 1,016 คน จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 8,088 คน
- เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา ติดเชื้อ 43 คน จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 2,671 คน,
- เรือนจำพิเศษธนบุรี พบติดเชื้อ 1,725 คน จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 4,015 คน
- ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ติดเชื้อ 12 คน จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 5,876 คน
- เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ติดเชื้อ 59 คน จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 2,661 คน