กทม. – ปริมณฑล ยังพบผู้ติดเชื้อมากที่สุด

ศบค.ระบุ แนวโน้มการระบาดยังทรงตัวและไม่ลดลง เฉพาะ 12 พ.ค. พบ 1,524 คน ขณะที่อีก 71 จังหวัดมีผู้ติดเชื้อเพียง 512 คน อนุมัติ สพฐ. ใช้อาคารสถานศึกษา จัดสอบ ป.1 ม.1 และ ม.4

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้ (13 พ.ค.2564) พบผู้ติดเชื้อ รายใหม่ 4,887 คน จำแนกเป็น ผู้ติดเชื้อใหม่ 2,052 คน ติดเชื้อในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 2,835 คน ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 93,794 คน เป็นผู้ป่วยระลอกใหม่ 64,891 คน หายป่วยเพิ่ม 1,572 คน รวมหายแล้ว 33,189 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 32 คน ยอดสะสม 518 คน

ส่วนภาพรวมสถานการณ์ผู้ติดเชื้อทั้งประเทศ พบว่า ยังคงกระจุกตัวอยู่ที่ กทม. และปริมณฑล โดยมีตัวเลขผู้ติดเชื้อรวมกันอยู่ที่ 1,524 คน ขณะที่จังหวัดอื่นๆ อีก 71 จังหวัดที่เหลือรวมกันมีผู้ติดเชื้อเพียง 512 คน หรือคิดเป็น 1 ใน 3 เฉพาะพื้นที่ กทม. มีแนวโน้มสถานการณ์การระบาดที่คงตัวและไม่ลดลง และยังพบผู้ป่วยอาการหนักและผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจเพิ่มขึ้น

สำนักอนามัย กทม. ได้แบ่งพื้นที่การระบาดเป็น 3 ระดับ ได้แก่ พื้นที่สีแดง คือพื้นที่ๆ มีการระบาดมากกว่า 600 คน สีเหลือง 301-600 คน และสีฟ้า น้อยกว่า 300 คน โดย ดินแดง และป้อมปราบศัตรูพ่าย เป็นลักษณะการระบาดในชุมชน ขณะที่การระบาดในตลาดจะเห็นที่ สัมพันธวงศ์  พระนคร  ดุสิต ป้อมปราบศัตรูพ่าย และดินแดง ส่วนเขตราชเทวี เป็นการระบาดในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการรับสายโทรศัพท์

ส่วนพื้นที่ที่มีรายงานการระบาดเข้มข้น ทั้งหมด 11 เขต ได้แก่ ดินแดง วัฒนา ลาดพร้าว พระนคร ราชเทวี สวนหลวง ดุสิต ป้อมปราบศัตรูพ่าย คลองเตย จตุจักร และหลักสี่ ที่ยังต้องเฝ้าระวังการติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง ส่วนอีก 4 เขต คือ ปทุมวัน สาทร ป้อมปราบศัตรูพ่าย และสัมพันธวงศ์ มีแนวโน้มควบคุมการระบาดได้

โดยการทำงานเมื่อพบกลุ่มเสี่ยงหรือกลุ่มที่ยังไม่ติดเชื้อ ก็จะแยกตัวพาไปอยู่ที่โรงแรมที่เป็น Local Quarantine เพื่อดูอาการ 14 วัน และหากโรงแรมไม่พอก็จะให้อยู่ที่บ้านหรือ Home Quarantine ซึ่งวันที่ 12 พ.ค. มีรายงานตัวเลขคนที่อยู่ใน Home Quarantine จำนวน 2,120 คน รวมตัวเลขสะสมคนที่อยู่ในระหว่างการกักตัวทั้งหมด 6,121 คน ส่วนใน Local Quarantine วันที่ 12 พ.ค. มีรายงานที่ 52 คน รวมสะสม 226 คน

นอกจากนี้ ในที่ประชุม ศบค. ยังได้มีการหารือเรื่องการสอบเข้าสถานศึกษาในช่วงนี้ โดยที่ประชุมมีมติตามที่ รองเลขา สพฐ. เสนอ คือ เห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการขออนุญาตใช้อาคารสถานที่ของสถานศึกษา ในการคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียน ใน 2 ระดับชั้น โดยชั้นประถมศึกษาที่ 1 ให้จับฉลากเข้าเรียนได้ ส่วนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้ใช้อาคารสถานที่เพื่อสอบเข้าหรือจับฉลากได้

รวมถึงการอนุญาตให้ใช้ในกิจกรรมต่อเนื่อง ตั้งแต่การจับฉลาก สอบคัดเลือก การรายงานตัว มอบตัว และยื่นความจำนงในกรณีเด็กไม่มีที่เรียน และที่ประชุมยังอนุญาตให้มีการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลมากกว่า 20 คน ในสถานศึกษาที่มีการจับฉลาก และการสอบคัดเลือกนักเรียน โดยให้ดำเนินการตามมาตรการที่กำหนด

ส่วนหน่วยงานอื่นที่มีรูปแบบเดียวกันนี้ เช่น สถานศึกษาในสังกัดของ กทม. หรือกระทรวงอื่นๆ ก็ให้ทำเรื่องขออนุมัติมาที่ ศบค.ได้เช่นกัน โดยตารางกำหนดการจับฉลาก/สอบคัดเลือก รวมทั้งการรายงานตัว/มอบตัว เริ่มตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค.นี้ ไปจนถึงสิ้นเดือน พ.ค.

Author

Alternative Text
AUTHOR

เพ็ญพรรณ อินทปันตี

อดีตนักกิจกรรม รักการอ่าน งานเขียน ว่ายน้ำ และเล่นกับแมว