“กรณ์” เสนอโยกเงินกู้ 6 แสนล้าน

เยียวยาโควิด-19 ระลอกใหม่ เสนอนายกฯ ทำ 3 เรื่องด่วน เร่งช่วยเหลือประชาชน 4 กลุ่ม

นายกรณ์ จาติกวนิช หัวหน้าพรรคกล้า เสนอนายกรัฐมนตรีทบทวนแผนการใช้เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท เพื่อส่งสัญญานสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการและแรงงานที่กำลังเดือดร้อนได้รับรู้ว่า รัฐบาลมีเสถียรภาพทางการคลังเพียงพอ และมีศักยภาพที่พร้อมทำทุกทางในการลดความเดือดร้อนของประชาชน

นายกรณ์ระบุว่า จากข้อมูลทางการล่าสุด เงินกู้ก้อนที่ 1 ‘งบเยียวยา’ ยังเหลืออยู่เกือบ 200,000 ล้านบาทที่ยังไม่เบิกจ่าย

ส่วนงบก้อนที่ 2 ‘งบฟื้นฟู’ นั้นเพิ่งเบิกจ่ายไปได้แค่ 2,600 ล้านบาท (จากทั้งหมด 400,000 ล้านบาท) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไม่พร้อมของระบบราชการในการตอบโจทย์โควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ

นายกรณ์ เห็นว่านายกรัฐมนตรีควรโอนงบโดย ‘โยกเงินกู้’ ส่วนที่เหลือนี้ไว้ทั้งหมดกว่า 6 แสนล้าน กลับมาเร่งเยียวยาประชาชนโดยตรงอย่างเร่งด่วนก่อน เพราะจากการระบาดระลอกใหม่ มีคำสั่งที่กระทบต่อความเป็นอยู่ และรายได้ของประชาชน 4 กลุ่มเดือดร้อนสาหัส ได้แก่

1. พนักงานที่ถูกเลิกจ้าง เงินช่วยเหลือจากประกันสังคม 6 เดือนหมดไปแล้วแต่ยังไม่สามารถหางานใหม่ได้ รัฐบาลควรมีมาตรการในการรองรับความเดือดร้อนส่วนนี้

2. กลุ่มที่รับเงินเยียวยา 5 พันบาท 3 เดือน จากโครงการเราไม่ทิ้งกันก็ผ่านไปแล้ว

3. กลุ่มประชาชนและร้านค้าที่ได้ประโยชน์จากโครงการคนละครึ่งซึ่งส่งผลดีมาก ๆ ตอนนี้คนไม่สามารถออกไปจับจ่ายได้อย่างเคยเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ

4. กลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร สถานบริการ ร้านสปานวดแผนโบราณ ฯลฯ ที่กำลังจะต้องแบกภาระดอกเบี้ย ค่าเช่า ค่าแรง ในระหว่างนี้ที่มีมาตรการควบคุมโรค รัฐสามารถช่วยรับภาระดอกเบี้ย หรือค่าแรงบางส่วนได้ และควรสร้างแรงจูงใจให้เจ้าของที่หรือเจ้าของตึกลดค่าเช่าให้ผู้ประกอบการโดยใช้แรงจูงใจทางภาษีมาช่วย

โดยพรรคกล้าขอเสนอให้นายกรัฐมนตรี เร่งทำ 3 เรื่องด่วน

ข้อแรก คือส่งสัญญาณให้ชัดว่า “เราจะทำทุกอย่าง ใช้ทุกทรัพยากรที่มี เพื่อให้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด

ข้อสอง ทบทวนและประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการต่างๆ ในรอบที่แล้ว เพื่อออกแบบมาตรการให้ครอบคลุมคนทุกกลุ่มที่เดือดร้อน เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และช่วยให้ถึงมือประชาชนได้อย่างแท้จริง

ข้อที่สาม ออกคำสั่งรวบรวมงบเงินกู้ที่ยังไม่มีการเบิกจ่าย 600,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการดูแลประชาชน

ทั้งนี้เรื่องที่เราต้องไม่ลืม คือสาเหตุของการระบาดรอบนี้ ส่วนสำคัญมาจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกิดจากผลของระบบราชการที่ล้าหลัง ทำให้เกิดช่องโหว่ในเรื่องของการทุจริต ไม่ว่าจะเป็นการข้ามแดนของคนไทย การลักลอบเข้ามาของแรงงานต่างด้าว หรือการมีบ่อนเถื่อนทั่วบ้านทั่วเมือง ล้วนแต่เป็นผลของการบริหารราชการที่ไม่มีประสิทธิภาพ และกฏกติกาที่ไม่เอื้อต่อการทำถูกกฎหมาย

ดังนั้น การทำให้ระบบราชการมีความทันสมัย โปร่งใส และไม่เป็นภาระมากเกินไปต่อสังคมจึงเป็นภารกิจสำคัญของประเทศ – ลดการคอรัปชั่น ลดขนาดรัฐ ด้วยการใช้ gov tech หรือ e-Government มาพัฒนาระบบราชการไทย

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active