กรณี บุกรุก ทำให้เสียหาย และเสื่อมค่า ของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ ด้าน ศรีสุวรรณ จ่อแจ้งความ นักการเมือง ร่วมชุมนุม เหตุ ร่วมกระทำความผิด
วันนี้ (21 ก.ย. 2563) เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม ในฐานะหน่วยงานที่เป็นผู้ดูแลโบราณสถาน โดยเดินทางเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กรณีกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใช้พื้นที่สนามหลวงนอกเวลาเปิดให้บริการ และกรณีขุดเจาะพื้นเพื่อปักหมุดทองเหลือง ที่กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกว่า “หมุดคณะราษฎร หมุดที่ 2” พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ถอนหมุดฯ ออก
สถาพร เที่ยงธรรม ผอ.กองโบราณคดี กรมศิลปากร เปิดเผยว่า จากกรณีกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ปักหลักหมุดคณะราษฎรฯ ที่สนามหลวง โดยได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความ ในการทำผิดเข้าข่ายมาตรา 10 ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงขุดค้นโบราณสถานโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 มีความผิดตามมาตรา 85 จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรับเรื่องไว้เป็นคดีแล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะดำเนินคดีกับผู้ใดบ้าง ต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ก่อนหน้านี้ ประทีป เผ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปกร เปิดเผยว่า การกระทำดังกล่าวมีความผิดตาม พ.ร.บ.โบราณสถานฯ นอกจากนี้ ยังมีการขุดพื้นที่เพื่อฝังหมุด ดังนั้น หลักการมี 2 เรื่อง คือ การบุกรุก ทำให้เสียหาย เสื่อมค่า ซึ่งเมื่อวันที่ 19 ก.ย. มีการบุกรุกไปในพื้นที่สนามหลวงซึ่งป็นโบราณสถานขึ้นทะเบียนโดยไม่ได้รับอนญาต
ส่วนกรณีฝังหมุดเมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา แม้เป็นส่วนที่ทำขึ้นเมื่อครั้งงานพระเมรุ แต่เป็นการทำโดยถูกต้อง ได้รับอนญาต เมื่อทำแล้วจึงถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของโบราณสถาน ดังนั้นการฝังหมุดจึงมีความผิดตามกฎหมาย คือ การทำลายและทำให้โบราณสถานเสื่อมค่า
ส่วนฐานความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 700,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากเป็นการกระทำต่อโบราณสถาน ที่ได้ขึ้นทะเบียนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้าน สุรเดช อำนวยสาร ผู้อำนวยการเขตพระนคร ระบุว่า จากการสำรวจความเสียหายพื้นที่สนามหลวง เบื้องต้นพบว่า มีกุญแจได้รับความเสียหาย 90 ดอก ซึ่งให้เจ้าหน้าที่ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลชนะสงครามแล้วเมื่อเย็นวานนี้ และให้สำรวจความเสียหายเพิ่มเติม
ขณะที่ พลตำรวจตรี ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุถึงกรณีปักหมุดว่า พื้นที่สนามหลวงเป็นโบราณสถาน มี 2 หน่วยงานดูแล คือ กรุงเทพมหานคร และกระทรวงวัฒนธรรม ตำรวจได้ประสานไปยังหน่วยงานดังกล่าวแล้ว ว่าการกระทำดังกล่าวเข้าองค์ประกอบความผิดใด แต่หากดูจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นก็น่าจะเป็นความผิดตามกฎหมาย
ส่วนเหตุการณ์การชุุมนุมทั้ง 2 วัน มีความผิดต่างกรรมต่างวาระกัน ช่วงแรก คือ กรณีออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้าสู่สนามหลวง การชุมนุมโดยไม่แจ้งให้ตำรวจทราบ ถือว่าเป็นการชุมนุมโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนที่สอง เมื่อเข้าไปในสนามหลวงแล้ว แต่อยู่จนกระทั่งล่วงเลยการเปิดให้บริการ และความผิดส่วนที่สาม การปักหมุด ถือเป็นส่วนเกิน และไม่ใช่สิ่งที่พึงมีในท้องสนามหลวง การกระทำผิดทั้งหมดตำรวจได้บันทึกภาพและเสียงไว้พิจารณาดำเนินการตามขั้นตอน
ส่วนกรณีแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมขึ้นเวทีปราศรัย โดยมีถ้อยคำและเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม พนักงานสอบสวน ได้บันทึกภาพหลักฐานและเสียง ตั้งแต่เริ่มการชุมนุม และการปราศรัย ตลอดจนการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อต่าง ๆ เพื่อนำข้อมูลมาพิจารณาร่วมกับฝ่ายกฎหมาย ว่าเข้าข่ายความผิดใดต่อไป
ศรีสุวรรณ ขอกรมศิลปากรเอาผิดม็อบ พร้อมเตรียมแจ้งความ นักการเมืองร่วมชุมนุม
ด้าน ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “เมื่อม็อบแนวร่วม มธ.ฯ ทำผิดกฎหมาย นักการเมืองทั้งหลายที่ปรากฏตัวอยู่ในม็อบย่อมผิดไปด้วย โดยอ้างอิงมาตรา 83 ในกรณีความผิดใดเกิดขึ้นโดยการกระทำของบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป ผู้ที่ได้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันนั้นเป็นตัวการ ต้องระวางโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น กฎหมายนี้อยู่ภายใต้ภาค 1 (บทบัญญัติทั่วไป) ลักษณะ 1 หมวด 6 (ตัวการและผู้สนับสนุน)” โดยนายศรีสุวรรณไม่ได้ระบุว่าจะดำเนินการร้องด้วยวิธีการใด
แต่วันนี้ นายศรีสุวรรณยื่นคำร้องต่อกรมศิลปากรแล้ว โดยเรียกร้องให้เอาผิดกับกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่บุกรุกใช้พื้นที่สนามหลวงโดยไม่ได้ขออนุญาต และมีการตัดทำลายรั้วซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการ รวมทั้งเจาะพื้นสนามหลวงให้เสียหาย และทำพิธิฝังหมุดทองเหลืองลงในพื้นที่สนามหลวง ซึ่งผิด พ.ร.บ.โบราณสถานฯ
ด้าน นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินสายที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ถึงเรื่องที่แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ประกาศชัยชนะ พร้อมยุติการชุมนุมเมื่อวานนี้ ว่าแปลกใจว่าชัยชนะคืออะไร เนื่องจากก่อนหน้านี้กลุ่มผู้ชุมนุมเคยประกาศว่าจะมีอะไรที่ยิ่งใหญ่มากกว่านี้ พร้อมตั้งข้อสังเกตเรื่องพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ชุมนุมที่เข้าข่ายขบถ โดยการนำหมุดไปปักที่สถานที่สำคัญ และเป็นโบราณสถาน ถือว่ามีความผิดอยู่แล้ว
ดูเพิ่ม
กรมศิลปากร จ่อแจ้งความ “ฝังหมุด – บุกรุกสนามหลวง”
