รวมผู้ต้องขังติดเชื้อแล้ว 11,670 คน นายกฯ แถลง ดูแลรักษาผู้ติดเชื้ออย่างดีที่สุดด้วยความเท่าเทียม แต่ยังห้ามเยี่ยม จนกว่าสถานการณ์ดีขึ้น
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (18 พ.ค.2564) ถึงมาตรการควบคุมการระบาดในเรือนจำ ระบุว่า จะเร่งแก้ไขปัญหาการติดเชื้อในเรือนจำต่างๆ ทั่วประเทศ โดยจะดำเนินการตรวจเชิงรุกให้ได้มากและเร็วที่สุด และจัดตั้งโรงพยาบาลสนามภายในเรือนจำ เพื่อคัดแยกผู้ป่วยออกมารักษา
หากมีผู้ที่อาการรุนแรง ก็จะนำออกมาเข้ารักษาในโรงพยาบาลเฉพาะทางตามระบบต่อไป โดยจะให้การดูแลรักษาผู้ที่ติดเชื้ออย่างดีที่สุดด้วยความเท่าเทียม ซึ่งเรือนจำแต่ละแห่งเป็นระบบปิด จึงมีโอกาสที่จะแพร่กระจายเชื้อสู่ชุมชนได้น้อยมาก
“และผมได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องคอยดูแลเข้มงวดในเรื่องนี้ ในช่วงที่มีการระบาด โดยจะไม่ให้มีการเข้าเยี่ยมจากภายนอก จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น”
ขณะที่ กรมราชทัณฑ์ แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในเรือนจำวันนี้ (18 พ.ค.) มีผู้ต้องขังติดเชื้อเพิ่ม 1,408 คน แยกเป็นเรือนจำกลางเชียงใหม่ 50 คน ทัณฑสถานหญิงกลาง 245 คน เรือนจำกลางคลองเปรม 159 คน เรือนจำพิเศษธนบุรี 277 คน เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา 7 คน เรือนจำจังหวัดนนทบุรี 342 คน และเรือนจำกลางบางขวาง 328 คน รวมมีผู้ต้องขังที่ติดเชื้อที่อยู่ระหว่างรักษาตัว 11,670 คน กระจายในเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ 13 แห่ง ส่วนเจ้าหน้าที่ติดเชื้อรวม 35 คน ทั้งหมดยังอยู่ระหว่างการรักษาตัว
ส่วนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด กรมราชทัณฑ์ได้สั่งการให้ดำเนินการ SWAB ผู้ต้องขังทั้งเรือนจำและทัณฑสถานให้ครบ 100% รวมทั้ง X-RAY ปอดผู้ติดเชื้อจนครบทุกราย เพื่อแยกกลุ่มตามลักษณะอาการ และเร่งการรักษาอย่างทันท่วงที
และกรมราชทัณฑ์ได้เตรียมความพร้อมตั้งโรงพยาบาลสนามเรือนจำ การจัดหายาต้านไวรัส และในส่วนของผู้ต้องขังที่ตรวจไม่พบเชื้อในครั้งแรก จะต้องทำการตรวจหาเชื้อซ้ำทุกๆ 7 วัน จนกว่าสถานการณ์จะปกติ