The Active ประมวลข้อมูล การคาดการณ์ และข้อเสนอแนะ จาก Virtual Policy Forum: เตรียมพร้อมอย่างไรกับการระบาดรอบที่สอง ของโควิด-19 ในรูปแบบ Visual note taking
หากต้องอยู่กับ COVID-19 ยาว ๆ อะไรคือความหวังและโอกาส?
คำตอบอย่างแรก คือ การพัฒนาอุตสาหกรรมยา ปัจจุบันประเทศไทยต้องนำเข้า ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ซึ่งเป็นยาที่ใช้รักษาปอดอักเสบที่นำมาใช้รักษา COVID-19 สต็อกไว้กว่า 5 แสนเม็ด จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งรองรับผู้ป่วยได้ 8,400 คน
เพื่อสร้างความมั่นคงในอุตสาหกรรมยาภายในประเทศ ซึ่งนับเป็นปัจจัย 4 ที่มีความจำเป็น จึงต้องเร่งพัฒนาสูตรยา องค์กรเภสัชกรรมเตรียมขยายการผลิตต้นปี 2564 ขณะที่ตั้งเป้าว่าจะสามารถผลิตสารตั้งต้นในการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ได้เองในปี 2565
ขณะที่การพัฒนาวัคซีนทั้งรูปแบบซื้อยาเข้ามาบรรจุ กำลังอยู่ระหว่างเจรจา ในขณะที่วัคซีนที่ฉีดเชื้อเข้าไปฟักในไข่ให้กลายเป็นเชื้อตาย ตอนนี้อยู่ระหว่างทดลองในหนู คาดว่าจะรู้ผลในช่วงเดือนสิงหาคม และวัคซีนที่คัดเลือกจากสายพันธุกรรม ก็กำลังอยู่ระหว่างการวิจัย มีการเตรียมงบประมาณ 1,500 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโรงงานวัคซีน เพิ่มกำลังการผลิต
เมื่อลงรายละเอียด เรื่องความมั่นคงทางยา รัฐบาลจำเป็นต้องส่งเสริมอุตสาหกรรมยาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงเพื่อการรับมือจาก COVID-19 เท่านั้น แต่ยังต้องขยายความสามารถผลิตยารักษาโรคใหม่ ๆ อื่น ๆ ด้วยเพราะปัจจุบันประเทศไทยผลิตยาสามัญใช้กับโรคแบบเดิม ยังไม่สามารถผลิตยาสำหรับโรคใหม่ได้ ทั้งนี้เห็นโอกาสของเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในระบบเชื่อมโยงการจ่ายยาแบบออนไลน์ แต่ก็มีข้อควรระวัง คือ ต้องกระทำโดยเภสัชกรอย่างถูกต้อง
อีกส่วนสิ่งหนึ่งที่เป็นโอกาสในวิกฤต คือชุด PPE เดิมประเทศไทยต้องนำเข้ามาจากประเทศเวียดนาม แต่หลังจากเกิดวิกฤต ชุด PPE ขาดแคลน กลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอและสถาบันการศึกษา ได้พูดคุยกันถึงการออกแบบและตัดชุด PPE ซึ่งตอนนี้คนไทยสามารถผลิตได้เอง และมีจำนวนมากพอที่จะขยายตลาดส่งออก
ส่วนหน้ากากอนามัยปัจจุบันมีกำลังการผลิตวันละ 4.2 ล้านชิ้น แบ่งให้กับโรงพยาบาล 1.8 ล้านชิ้น กระทรวงพาณิชย์นำไปกระจายลงตลาดอีก 1 ล้านชิ้น ส่วนอีก 1.4 ล้านชิ้น ยังไม่พบว่าหายไปไหน
หลังวิกฤต COVID-19 หรือหากต้องเปิดประเทศ การเปิดรับนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพก็จะต้องพึ่งพาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแบบ Wellness tourism ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและทำกิจกรรมเพื่อสังคม หอการค้าไทยวางรูปแบบ “Happy model” คือ กินดี มีความสะอาดและปลอดภัย อยู่ดี คือ สะดวก บริการดี มี สาธารณูปโภคต่าง ๆ รองรับ พร้อมแบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้ทั้งความรู้และการเรียนรู้ในกิจกรรมที่เป็นภูมิปัญญาพื้นบ้าน และ ออกกำลังกายดี คือ ได้ประโยชน์และมีมาตรฐาน ทำสุขภาพให้แข็งแรง
จากผลพวงการควบคุม COVID-19 ของประเทศไทย ทำได้ดีเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเชื่อมั่นในระบบสุขภาพและต้องการเข้ามาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมากขึ้น
ข้อเสนอ
- อย่างไรก็ต้องเปิดเมือง เปิดประเทศ ไม่ต้องกังวลกับตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ต้องเป็น 0 เสมอไป และต้องเปิดเมืองแบบเป็นขั้นเป็นตอน เข้มงวด หากมีการระบาดวงแคบ ให้ควบคุมหรือล็อกดาวน์เฉพาะพื้นที่
- อย่ารอวัคซีนและยา เพราะจะมาเมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ให้สร้างความเข้มแข็งของ “วัคซีนสังคม” พัฒนาระบบของบริษัทเรื่องของการ work from home กระตุ้นให้ชุมชนรักษา และป้องกันโรคอย่างต่อเนื่อง ทำให้คนไทยทุกคนเป็นตำรวจ COVID-19
- พัฒนาระบบการเยียวยาเศรษฐกิจ ต้องลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เยียวยาให้นานพอ 1-2 ปี เป็นอย่างน้อย การเยียวยาต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้
Virtual Policy Forum | วัคซีน – ยา: ความหวัง – วิกฤต – โอกาส (22 ก.ค. 2563)