“รองเง็งแม่จิ้ว คณะพรสวรรค์” คณะดนตรีชาติพันธุ์อุรักลาโวยจ รุ่นที่ 3 แห่งภูเก็ต
คณะพรสวรรค์ คือ คณะดนตรี แห่งเกาะสิเหร่ จ.ภูเก็ต มีอายุเก่าแก่กว่า 50 ปี สืบทอดโดยลูกหลานเจเนอเรชันใหม่ ที่ทันสมัย แต่ยังคงอัตลักษณ์วิถีดนตรีพื้นบ้านแบบจังหวัดชายแดนใต้ได้อย่างครบถ้วน
เมื่อรองเง็งถูกนำมาร้องรำคู่กับวงออร์เคสราแบบฝรั่ง ผสานเกิดเป็นขนบดนตรีวิถีใหม่ ที่งดงาม กลมกล่อม และลงตัว
คณะพรสวรรค์ คือ คณะดนตรี แห่งเกาะสิเหร่ จ.ภูเก็ต มีอายุเก่าแก่กว่า 50 ปี สืบทอดโดยลูกหลานเจเนอเรชันใหม่ ที่ทันสมัย แต่ยังคงอัตลักษณ์วิถีดนตรีพื้นบ้านแบบจังหวัดชายแดนใต้ได้อย่างครบถ้วน
เมื่อรองเง็งถูกนำมาร้องรำคู่กับวงออร์เคสราแบบฝรั่ง ผสานเกิดเป็นขนบดนตรีวิถีใหม่ ที่งดงาม กลมกล่อม และลงตัว
![“รองเง็งแม่จิ้ว คณะพรสวรรค์” กำลังฝึกซ้อมร่วมกับวงดนตรี “นิมมาน สตรีท ออร์เคสตรา” ก่อนการขึ้นแสดงจริงในงาน “เสียงชาติพันธุ์ ลือลั่นทั่วสยาม” ที่จัดขึ้นกลางสยามสแควร์ กรุงเทพฯ](https://theactive.net/wp-content/uploads/2024/03/33.jpg)
![โชค - นักร้องนำของวง กำลังซ้อมขับร้องบทเพลง “ลาฆูดูวา” ซึ่งเป็นภาษามาลายู เนื้อหาสำหรับการไหว้ครูบอกเจ้าที่เจ้าทางให้การแสดงราบรื่นไม่ติดขัด](https://theactive.net/wp-content/uploads/2024/03/4_2.jpg)
![ระหว่างการซักซ้อมคิวนักดนตรีในวง กลองหน้าเดียว หรือ “กลองรำมะนา” เครื่องดนตรีหลักที่ทำหน้าสร้างจังหวะพื้นฐานหลักในการร้องรำ ถือเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของดนตรีรองเง็ง](https://theactive.net/wp-content/uploads/2024/03/51.jpg)
![เสียงบรรเลงจากดนตรีเพลงพื้นบ้าน สอดประสานกับเครื่องดนตรีฝรั่งจนดังกึกก้องไปทั่วทั้งห้องซ้อม](https://theactive.net/wp-content/uploads/2024/03/6_2.jpg)
![“โชค - สมโชค ประโมงกิจ” วัย 24 ปี ผู้สืบทอดการแสดงรองเง็ง แห่งคณะพรสวรรค์ โชคมีแม่เป็นนางรำรองเง็ง และเป็นหลานของ ‘ย่าจิ้ว’ เจ้าของคณะดนตรี โชค คลุกคลีอยู่ในคณะรองเง็งตั้งแต่เกิดจนปฏิเสธไม่ได้ว่า “รองเง็ง” อยู่ในสายเลือดของเขา](https://theactive.net/wp-content/uploads/2024/03/7_2-1.jpg)
![โชคเริ่มรับหน้าที่เป็นผู้จัดการวงเต็มตัวในวัย 21 ปี เขาเลือกปรับท่วงทำนองและภาษาร้องของรองเง็งจากภาษามาลายูเป็นไทย และปรับเนื้อหาให้ทันสมัยเข้าถึงง่ายมากขึ้น แต่ยังคงท่วงทำนองและการร่ายรำไว้ตามวิถีชาวอุรักลาโวยจโดยไม่สูญเสียอัตลักษณ์เดิม](https://theactive.net/wp-content/uploads/2024/03/8_2-1.jpg)
![กว่า 6 บทเพลง ที่ขับขานบนเวที มีทั้งการขับร้องด้วยภาษามาลายูและภาษาไทยถิ่นใต้ (ตันหยง) ไม่ว่าจะเป็น “ลาฆูดูวา” “ลาฆูเจะมินังซายัง” (เพลงไว้ครู) “ลาฆูตาเบ๊ะงีเจะ” (เพลงลาครู) “ลาฆูบุหรงตีมัง” “ลาฆูซีนาโน้ง” และบทเพลงที่สนุกสนานปิดท้ายอย่าง “ลาฆูทะลักทัก” ที่บอกเล่าเรื่องราวช่วงเกิดภัยพิบัติสึนามิ เมื่อปี 2547](https://theactive.net/wp-content/uploads/2024/03/9_1-1.jpg)
![รำรองเง็งเป็นที่นิยมของกลุ่มชาวมุสลิมให้ร้องเล่นในงานมงคล ทั้งงานบุญ งานแต่งงาน หรือรำแก้บน แม้จะไม่นิยมเล่นในงานอัปมงคล แต่อาจเห็นได้บ่อยครั้งในงานศพของผู้เฒ่าผู้แก่ที่ชื่นชอบและผูกพันธ์กับการแสดงรองเง็งเป็นชีวิตจิตใจ](https://theactive.net/wp-content/uploads/2024/03/10_2.jpg)
![“เวลาคนได้ยินคำว่าชาวเล อาจคิดว่ามีแต่คนที่อยู่ริมทะเลแบบเดียวเท่านั้น แต่จริง ๆ ยังมีชนกลุ่มน้อยอุรักลาโวยจอย่างพวกเราอยู่ด้วย สำหรับพวกเราแล้ว การที่เพลงรองเง็งของเราถูกส่งเสียงขึ้นมาใจกลางกรุงเช่นนี้ มันทำให้เราดีใจมาก ว่าอย่างน้อย ทุกคนก็ได้รู้ว่าพวกเรายังมีตัวตนอยู่” - โชคทิ้งท้าย](https://theactive.net/wp-content/uploads/2024/03/112.jpg)