“พวกแกหวาดกลัวยุคสมัยใหม่ขนาดนั้นเลยรึไง”
เชื่อว่าในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา จนถึงการโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 รอบสอง เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม การลุกขึ้นอภิปรายเดือดของ ‘รังสิมันต์ โรม’ สส. พรรคก้าวไกล มันช่างคลับคล้ายคลับคลากับประโยคสำคัญที่เกิดขึ้นในโลกของ “วันพีซ” (One Piece) การ์ตูนที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งดำเนินเรื่องราวมากว่า 25 ปี เสียเหลือเกิน
ในฐานะแฟนการ์ตูนเรื่องนี้ ผู้เขียนก็มีมุมมองที่ไม่ต่างกัน วันนี้จึงถือโอกาสนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลาย ๆ ฉากที่ติดในความทรงจำของผู้เขียน กลับมาบอกเล่าให้ผู้อ่านได้ติดตามกันอีกครั้งว่า ยุคสมัยใหม่ในวันพีซมีอะไร และทำไม่รัฐบาลโลกจึงกลัว
[บทความนี้มีการวิเคราะห์เนื้อหาในมุมมองผู้เขียน และมีการเปิดเผยเรื่องราวบางส่วนในเรื่องวันพีซ]
พวกแกหวาดกลัวยุคสมัยใหม่ขนาดนั้นเลยรึไง
ฉากนี้ไม่พูดถึงคงจะไม่ได้ มาจากมังงะวันพีซตอนที่ 1055 “ยุคสมัยใหม่” เป็นเนื้อหาช่วงหลังจากกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ที่นำโดย “ลูฟี่” กัปตัน และกลุ่มโจรสลัดอื่น ๆ ซึ่งรัฐบาลโลกขนานนามว่าเป็น ยุคสมัยที่เลวร้ายที่สุด สามารถโค่นล้ม ไคโด และ บิ๊กมัม ซึ่งเป็น 2 ใน 4 จักรพรรดิลงได้ที่แคว้นวาโนะคุนิ แต่ก็ได้รับบาดเจ็บหนักไม่น้อยจากการต่อสู้ในครั้งนี้ จึงถือเป็นช่องโหว่สำคัญที่รัฐบาลโลกจะอาศัยช่วงเวลาหลังศึกตีกันเองของเหล่าโจรสลัด เข้าทำลายยุคสมัยใหม่ที่เลวร้ายที่สุดให้ราบคาบ โดยส่ง พลเรือเอก เรียวคุกิว มาจัดการด้วยตัวเอง ทำให้สถานการณ์บนแคว้นวาโนะฯ ที่กำลังจะดีขึ้นหลังถูกปลดปล่อยจากการปกครองของไคโด ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก
แต่ที่เซอร์ไพรส์แฟน ๆ วันพีซอย่างมาก คือ การปรากฏตัวของ แชงคูส หัวหน้ากลุ่มโจรสลัดผมแดง 1 ใน 4 จักรพรรดิ ที่กำลังแล่นเรืออยู่เหนือน่านน้ำนอกประเทศวาโนะฯ โดยแชงคูสได้ปล่อยฮาคิราชันขั้นสูง ขับไล่ พลเรือเอก เรียวคุกิว ที่กำลังปะทะกับกลุ่มโมโมโนะสุเกะ จนต้องถอยร่นออกจากพรมแดนแคว้นวาโนะฯ พร้อมคำพูดที่ว่า
“การซ้ำเติมเหล่าคลื่นรุ่นใหม่…มันไม่ดูไร้ยางอายไปหน่อยรึ พวกแกหวาดกลัว ‘ยุคสมัยใหม่’ ขนาดนั้นเลยรึไง”
แชงคูส
แม้ในตอนนี้เหมือนว่าแชงคูส กำลังตำหนิ พลเรือเอก เรียวคุกิว แต่ในความหมายคือฝากข้อความไปถึงกองทัพเรือ ที่ต้องการถอนต้นอ่อนของยุคสมัยใหม่โดยไม่สนวิธีการ ซึ่งถ้าติดตามวันพีซมาตั้งแต่ต้นจะรู้ว่าแชงคูสต้องการให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยมีโจรสลัดรุ่นใหม่เป็นคนหมุนกงล้อของเวลา ไม่ว่า “ลูฟี่” จะฝันเห็นโลกของวันพีซเป็นอย่างไร แต่เขาก็พร้อมเดิมพันกับยุคสมัยใหม่ ซึ่งเรากำลังจะได้เห็นในไม่ช้านี้
ในยุคสมัยใหม่มีอะไร
เรื่องราวในยุคสมัยใหม่ของการ์ตูนวันพีซ เริ่มต้นจากประโยคแรกที่กลายเป็นแก่นหลักสำคัญเรื่อง นั่นคือคำพูดสุดท้ายของโกลด์ ดี โรเจอร์ ราชาโจรสลัดผู้กล่าวเอาไว้ก่อนถูกประหาร ส่งสารไปถึงคนรุ่นใหม่ทั่วทุกมุมโลกให้เปิดยุคสมัยใหม่ ยุคสมัยของโจรสลัด
“สมบัติของข้ารึ? ถ้าอยากได้ข้าจะยกให้…
…ก็ลองหาดูซี่ ข้าได้เอาทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ไว้ ณ ที่แห่งนั้นแล้ว”
ไม่มีใครรู้ว่าสมบัติของโกลด์ ดี โรเจอร์ คืออะไร อาจเป็นทรัพย์สมบัติ อย่าง เพชร ทองคำ หรือสิ่งที่เป็นนามธรรมที่สามารถสั่นสะเทือนโลกได้ แต่ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำนี้ ก็ทำให้ผู้คนที่มีความฝันมุ่งหน้าออกสู่ท้องทะเล และพร้อมที่จะเป็นศัตรูกับรัฐบาลโลก
แน่นอนว่าสิ่งนี้กลับสวนทางกับความตั้งใจของรัฐบาลโลก ว่าการประหารราชาโจรสลัดจะเป็นการเขียนเสือให้วัวกลัว แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม เพราะมันไม่สามารถปิดกั้นความอยากรู้อยากเห็นของโจรสลัดในยุคสมัยใหม่ได้อีกต่อไป ขณะที่คนที่ใฝ่ฝันจะสมัครเป็นทหารเรือลดน้อยลงเรื่อย ๆ ทำให้หลายครั้งก็ต้องยืมมือของ 1 ใน 3 ขั้วอำนาจใหม่ที่ตั้งขึ้น อย่าง เจ็ดเทพโจรสลัด ที่ได้รับสิทธิในยกเลิกค่าหัว และสิทธิในการปล้นสดมภ์จากโจรสลัดอื่นแบ่งผลกำไรแก่รัฐบาลโลก แลกกับใบสั่งในการให้ไปทำเรื่องสกปรกแทนรัฐบาลโลก
โดยบรรดาโจรสลัดที่สร้างความโกลาหลให้กับรัฐบาลโลกมากที่สุด คือ 11 Supernova หรือ กลุ่มโจรสลัดในยุคสมัยใหม่ ที่ถูกตั้งค่าหัวเกิน 100 ล้านเบรี และได้เดินทางตามเส้นทางต่าง ๆ จนมาถึงเกาะชาบอนดี้ซึ่งเป็นจุดครึ่งทางของแกรนด์ไลน์ รวมถึงท้าทายกับรัฐบาลโลก จนถึง เผ่ามังกรฟ้า ชนชั้นสูงที่ห้ามใครก้าวล่วงในโลกวันพีซ ซึ่ง 11 Supernova ประกอบด้วย มังกี้ ดี ลูฟี่, ยูสทัส คิด, ทราฟาลก้า ลอว์, บาซิล ฮอว์คินส์, เอ็กซ์ เดรค, สครัสแมน อพู, คิลเลอร์, จีเวลรี่ บอนนี่, คาโปเน่ เบจจ์, โรโรโนอา โซโล, อุรูจ ซึ่งส่วนใหญ่มีความฝันในการเป็นเจ้าของวันพีซ เป็นจักรพรรดิโจรสลัด ไปจนถึงโค่นล้มอำนาจเก่าเพื่อเปลี่ยนแปลงยุคสมัย ซึ่งการที่รัฐบาลโลกหมายหัวโจรสลัดรุ่นใหม่เหล่านี้เป็นพิเศษ เนื่องจากมองว่าเป็นกลุ่มคนที่รัฐบาลควบคุมได้ยาก
รัฐบาลโลกทำอะไรกับยุคสมัยใหม่
เพื่อรักษาเสถียรภาพของขั้วอำนาจเก่าเอาไว้ รัฐบาลโลกยอมทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้เหล่ากลุ่มโจรสลัดรุ่นใหม่ได้ครอบครองวันพีซ เช่น การสั่งถล่มเกาะโอฮาร่า ที่ประชาชนภายในเกาะสามารถอ่านอักษรโบราณที่สลักบน โพเนกลีฟ ศิลาจารึกขนาดใหญ่ที่ทำลายทิ้งไม่ได้ และถูกซ่อนไว้ตามที่ต่าง ๆ ทั่วโลก ที่จารึก“ช่วงเวลา 100 ปีแห่งความว่างเปล่า” และที่สำคัญยังชี้ทางไปเกาะสุดท้าย ลาฟเทล เพื่อแย่งชิงสมบัติวันพีซ หรือ การยอมจับมือกับโจรสลัดในการก่อตั้งขั้วอำนาจใหม่อย่างเจ็ดเทพโจรสลัด เพื่อแลกกับใบสั่งในการให้ไปทำเรื่องสกปรกแทน เช่น กำจัดเหล่าโจรสลัดรุ่นใหม่ที่เป็นปัญหา รวมถึงการบีบบังคับให้ มอร์แกน ประธานบริษัทวารสารเศรษฐกิจโลก ให้ทำข่าวตามที่รัฐบาลโลกต้องการ เช่น การปกปิดข่าวความเลวร้าย หรือสร้างข่าวปลอมเพื่อใส่ร้ายเหล่าโจรสลัดรุ่นใหม่
นี่เป็นเพียงบางส่วนที่ผู้เขียนได้รวบรวมเหตุการณ์เพียงส่วนหนึ่งในโลกของการ์ตูนวันพีซ เพื่ออธิบายปรากฏการณ์ทางการเมืองไทยที่เกิดขึ้นในเวลานี้ แล้วแต่ว่าผู้อ่านว่าจะตีความในแบบใด ซึ่งปัจจุบันเนื้อเรื่องของวันพีซ (One Piece) ได้เดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่ามันจะต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน และที่สำคัญคือ ‘วันพีช’ สมบัติล้ำค่าที่เจ้าแห่งโจรสลัดทิ้งเอาไว้ เมื่อเปิดออกมามันคืออะไรกันแน่ คงต้องฝากความหวังไว้กับเหล่าโจรสลัดยุคใหม่ ซึ่งคำตอบนั้นคงเกิดขึ้นเพียงอีกไม่กี่ปีก็จะได้บทสรุปของทุกการเดินทางแล้ว