สรรค์สร้างนวัตกรรม ค้นหานวัตกร กับ WEDO Young Talent Program 2023
ภารกิจค้นหาคนรุ่นใหม่ผ่านการคิดค้นนวัตกรรม ท่ามกลางความกดดันภายใน 24 ชั่วโมง ใต้โจทย์ EVEREST (N)EVEREST เป้าหมายสำคัญ คือ ดึงศักยภาพ ผ่านการทำงานจริง
EVEREST เปรียบเหมือนยอดเขาไม่ได้อยู่ที่ “เขา” แต่อยู่ที่ “เรา” หลายคนคิดว่าเป้าหมายที่ตัวเองตั้งไว้นั้นสูงเกินไป แต่ Hell Day อาจเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ได้พิสูจน์ตัวเองว่าถ้าเรามีความพยายามและความต้องการเพียงพอก็ไม่มีอะไรที่มนุษย์ทำไม่ได้
นี่คือความท้าทาย ที่เกิดขึ้นในงาน WEDO Young Talent Program 2023 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 โดยผู้ผ่านการคัดเลือกจะได้เข้ามาทำงานจริงแบบ Micro Enterprise เป็นเวลา 13 สัปดาห์ กับ WEDO
โจทย์ของ Hell Day คือ “ทีมผู้พิชิตได้เดินทางผ่าน Everest Basecamp เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ทีมอยู่ที่ The Gateway To Everest ซึ่งก็คือ Death Zone ทั้งนี้ ทีมจะต้องสร้างสรรค์อุปกรณ์และวิธีการที่สามารถนำทั้ง 3 คนร่วมเดินทางไปถึงยอดเขาได้อย่างปลอดภัย โดยอุปกรณ์และวิธีการเหล่านั้นจะต้องเหมาะสมกับการใช้งานระหว่างเดินทางผ่าน Death Zone”
ทั้ง 3 คน เป็นผู้ที่ต้องการพิชิตยอดเขา Everest พวกเขาแตกต่างกันในเรื่องอายุและสุขภาพ แต่สิ่งที่มีเหมือนกันคือความต้องการพิชิตยอดเขา คือ คุณศรัณย์ อายุ 78 ปี, Mr.Tomson อายุ 40 ปี และ น้องแพรวา อายุ 17 ปี ซึ่งผู้เข้าร่วมภารกิจต้องตีโจทย์เพื่อให้ได้มาซึ่งนวัตกรรมที่ช่วยทั้ง 3 คนได้สำเร็จ
การสร้างสรรค์นวัตกรรมของผู้เข้าร่วมภารกิจ จะช่วยดึงศักยภาพที่ซ่อนอยู่ออกมา และอาจช่วยให้ค้นพบว่าตัวเองชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร ในสภาวะการทำงานที่เร่งรีบ โหด และกดดัน
เป้าหมายของ WEDO ตามหา mindsets ที่นวัตกรต้องมี
‘อภิรัตน์ หวานชะเอม’ Chief Digital Officer แห่ง SCG Cement-Building Materials จำกัด ผู้อยู่เบื้องหลังโครงการสร้างนวัตกรรุ่นใหม่ ได้พูดถึงกิจกรรมใน Hell Day ว่าแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ การทำงานเป็นกลุ่ม เพื่อจะได้เห็นความสามารถในการทำงานร่วมกันแบบกลุ่ม ส่วนที่สอง เป็นการทดสอบเชิงเดี่ยว เพื่อทดสอบคุณสมบัติที่คิดว่าคนที่เป็นนวัตกรต้องมี โดยยเฉพาะการมี mindsets เหมาะสม
mindset 8 ด้าน ที่ทาง WEDO มองว่าหาในตัวผู้เข้าร่วมภารกิจ ได้แก่
- Outward Mindset เข้าใจผู้อื่น ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
- Collaborative Mindset ความร่วมมือกัน
- Leadership Mindset ความเป็นผู้นำ
- Inclusive Mindset
- Assertive กล้าแสดงออก
- Resilience ความยืดหยุ่น
- Optimist การมองโลกในแง่ดี และมองเห็นโอกาส
- Go the Extra Mile มีความพยายาม
และส่วนที่สาม คือ การสร้างความสับสน ความเหนื่อยล้า ความสงสัย เพื่อให้สองส่วนแรกดูยากขึ้น เพราะการทำงานจริง ๆ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นแน่นอน ดังนั้น ภายใน 24 ชั่วโมง ทั้ง 3 ส่วนนี้จะเกิดขึ้นพร้อมกันเพื่อให้ผู้คิดค้นนวัตกรรมทดสอบความอดทน และเป็นสิ่งที่ทาง WEDO จำลองออกมาเสมือนสถานการณ์การทำงานจริง ๆ
“อาจจะถ่ายทอดออกมา เป็นในมุมของความสนุกบ้าง คือบางครั้งน้อง ๆ อาจจะคิดว่าเป็นฐานเล่นเกม แต่จริง ๆ มันอาจกำลังวัดคุณสมบัติบางอย่างที่เราเชื่อว่าสำคัญกับการทำนวัตกรรมอยู่”
อภิรัตน์ หวานชะเอม
สิ่งสำคัญคือต้องพยายามให้ผู้เข้าร่วมมีความลังเล ในระหว่าง 24 ชั่วโมง อยากให้ทุกคนตั้งคำถามกับตัวเองตลอดเวลาว่า “หยุดดีไหม พอเถอะ ทำไปทำไม เราจะทำได้ไหม” เพราะสิ่งที่ท้าทายที่สุดของการเป็นนวัตกร คือ การที่เราไม่มั่นใจในตัวเอง การที่ถามตัวเองตลอดว่าจะทำได้ไหม มันเสี่ยงเกินไปไหม การตั้งคำถามแบบนี้ส่งผลให้ไม่เกิดนวัตกรรม
“เราอยากจะรู้ว่าน้อง ๆ เหล่านี้ เขาสามารถเอาชนะความกังวลเหล่านี้ได้ไหม ความไม่แน่ใจเหล่านี้ได้ไหม ความลังเลเหล่านี้ได้ไหม โดยที่เราเอากิจกรรมทั้ง 3 แทร็กมารวมกัน จุดประสงค์เพื่อจะสร้างความลังเลในจิตใจน้อง ๆ ให้ได้มากที่สุด”
อภิรัตน์ หวานชะเอม
แม้ผู้เข้าร่วม Hell Day ครั้งนี้บางคนจะไม่ได้ไปต่อใน Hell Week แต่ประสบการณ์ที่ได้ในกิจกรรมต่าง ๆ ก็สามารถช่วยให้หลายคนเกิดความเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์กับกิจกรรมที่ทาง WEDO ต้องการ ถ้าผู้เข้าร่วมได้นำประสบการณ์จากกิจกรรมนี้ไปต่อยอดได้ก็อาจเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาได้เช่นกัน
สร้างประสบการณ์ ก้าวสู่การเป็นนวัตกรรุ่นใหม่
WEDO Young Talent Program ได้สร้างประสบการณ์ในการทดลองทำงานเสมือนจริงให้กับเยาวชนมาแล้ว 2 รุ่น ซึ่งที่ผ่านมาก็มีรุ่นพี่ที่ได้นำประสบการณ์ไปต่อยอดกับการทำงานและธุรกิจของตัวเอง อีกทั้งนวัตกรรมที่พวกเขาได้คิดค้นขึ้นในโครงการยังได้มีการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น
นี่จึงไม่ใช่เพียงการเข้าค่ายหรือการร่วมกิจกรรมแล้วจบลง แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้เติบโตไปกับองค์กร การสร้างพื้นที่การทำงานให้กับคนรุ่นใหม่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสังคมและตัวผู้เข้าร่วม ที่จะได้ก้าวมาส่วนหนึ่งและกำลังสำคัญในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ซึ่ง WEDO ได้มองหาคนที่มีคุณสมบัติรอบด้าน ทั้งทักษะและความคิดที่ดี มีองค์ความรู้แบบ T-Shape ทั้งในด้าน Design, Business และ Technology
“ฝึกงานที่ไม่ใช่ฝึกงาน แต่ทำงานจริง เจ็บจริง” คือประโยคที่ทำให้หลายคนเลือกที่จะมาเข้าร่วมกับโครงการนี้ เช่นเดียวกับ ‘ชามิล มันยา’ และ ‘มะปราง – ศุภรดา จริงจิตร’ WEDO Young Talent Program รุ่นที่ 2 ตัวอย่างรุ่นพี่ที่เคยได้ทดลองทำงานกับโครงการนี้ ซึ่งทั้งสองคนก็ได้นำทักษะที่ได้ไปต่อยอดกับการทำงานของตัวเอง
ชามิล เป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้อยากทำงานประจำ และอยากเป็นผู้ประกอบการในธุรกิจของตัวเอง และเลือกเดินในสายผู้ประกอบการ
“คือเวลาเราจะทำธุรกิจ มันไม่เหมือนกับการทำงานประจำ คือต้องออกไปเจอคน ออกไปหาโอกาส”
ชามิล มันยา – WEDO Young Talent Program รุ่นที่ 2
ในโครงการฯ ชามิลและเพื่อนร่วมทีมได้คิดค้นนวัตกรรมภายใน 3 เดือน กับ Hell Week หัวข้อ Smart Energy Anywhere คิดค้นจุดส่งไฟให้กับสายชาร์จรถ EV ในคอนโดมิเนียม เจอจุดที่ว่ารถไฟฟ้ามีสายชาร์จที่แถมมากับรถ แต่ในพื้นที่คอนโดมิเนียมก็ไม่ยอมให้เสียบชาร์จ หรือถ้ายอมให้เสียบก็ไม่แน่ใจว่าจะปลอดภัยหรือไม่ ซึ่งทางทีมเห็นช่องโหว่ตรงนี้เลยคิดค้นนวัตกรรมนี้ขึ้นมา
จากการคิดค้นนวัตกรรมนี้ ยังต่อยอดให้ชามิลได้ร่วมงานกับ SCG และเป็น Internal Startup อีกด้วย ชามิล บอกว่า สิ่งที่ได้จาก WEDO Young Talent Program คือได้ประโยชน์ ความรู้ในการทำนวัตกรรม รู้ว่าการเริ่มต้นทำนวัตกรรมจะต้องทำอย่างไร สิ่งแรก คือ ต้องออกแบบตัวสินค้าและบริการออกมาให้ตอบโจทย์ลูกค้า สิ่งที่สอง คือ การทำให้ออกมาได้จริง และสิ่งที่สาม คือ ทำอย่างให้ทำเงินได้
มะปราง – ศุภรดา จากผู้เข้าร่วมโครงการ WEDO Young Talent Program ก้าวสู่การเป็นส่วนหนึ่งของ WEDO โดยปัจจุบันอยู่ในตำแหน่ง Associate Digital Content and Campaign Specialist ตอนที่เข้าร่วมโครงการ มะปรางและทีมได้คิดค้นนวัตกรรม VR Go สำหรับทำกายภาพ เพื่อตอบโจทย์การทำกายภาพในกิจวัตรประจำวัน ซึ่งอาจมีความน่าเบื่อสำหรับผู้ป่วย และอยากให้ผู้ป่วยทำกายภาพที่สนุกขึ้น โดยในแว่น VR ก็จะใส่ภาพพิพิธภัณฑ์ สวนสาธารณะหรือทะเล ให้ผู้ใช้งานรู้สึกว่าการทำกายภาพจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป เหมือนได้ไปเที่ยวด้วยทำกายภาพไปด้วย
ปัจจุบันมะปรางได้นำองค์ความรู้มาปรับใช้ในการทำงาน คือ การเขียนเนื้อหา Content ว่าจะนำเสนออย่างไรให้เนื้อหามีความน่าสนใจ จุดดึงดูดอยู่ตรงไหน ต้องเล่าอย่างไร ซึ่งเป็นทักษะที่จะติดตัวต่อไปในอนาคต ไม่เพียงแต่การคิดค้นนวัตกรรม แต่เป็นการทำงานในสายอื่นด้วย
“ตอนนี้ก็ได้นำความรู้ส่วนนั้น มาใช้ในการเขียน Content ตั้งแต่เริ่มเลย ว่าเราจะ present อย่างไรให้น่าสนใจ จุดดึงดูดตรงไหน ต้องเล่าอย่างไร”
ศุภรดา จริงจิต – WEDO Young Talent Program รุ่นที่ 2
นวัตกรรมที่จะช่วยพิชิตยอดเขา Everest
“Everest เป็นเทือกเขาที่ยากจะพิชิต แต่ก็มีความหวังอยู่เสมอ ถ้าเรามุ่งมั่นพอ”
หลังจาก 24 ชั่วโมงใน Hell Day การค้นหากลุ่มนวัตกรรุ่นใหม่กับนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การพิชิตยอดเขา Everest ก็เสร็จสิ้น มีทีมผู้เข้าร่วมหลายทีมที่มีนวัตกรรมที่โดดเด่น แต่รางวัลชนะเลิศก็ตกเป็นของกลุ่ม 10 ทีมที่คิดค้นนวัตกรรม “VR SIMULATION ROOM & AR ON PROGRAM” ซึ่งเป็นเหมือนห้องฝึกซ้อมก่อนขึ้นเขาจริง บรรยากาศของห้องจะมีอุณหภูมิที่เย็นยะเยือก มีอุณหภูมิ ความกดดันอากาศ เหมือนกับสภาพแวดล้อมจริงบนเขา Everest
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ AR Trakking Glass ที่ช่วยเชื่อมต่อกับร่างกายเพื่อวัดค่าต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น การเต้นของหัวใจ อัตราการหายใจ เป็นต้น การได้จำลองสภาพแวดล้อมเสมือนนี้จะช่วยให้ร่างกายคุ้นชินเพื่อเตรียมความพร้อมกับการขึ้นเขาจริง และ AR ก็เป็นเทคโนโลยีที่มาช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยในระหว่างการปีนเขา
โดยการตีโจทย์ของทีมเกี่ยวกับความต้องการของผู้อยากพิชิตยอดเขา Everest ทั้ง 3 คน คือ เรื่องสุขภาพ คุณศรัณย์ มีปัญหาเรื่องข้อเข่า Mr.Tomson มีปัญหา Long Covid และน้องแพรวา สุขภาพไม่แข็งแรงพอ เพราะยังไม่ได้ฝึกซ้อมร่างกาย แม้ทุกคนต่างมีร่างกายที่ยังไม่พร้อม แต่จุดที่สำคัญคือพวกเขาไม่ได้ต้องการแค่ไปถึงยอดเขา แต่ต้องการพิชิตยอดเขาด้วยตนเอง
“เราตีโจทย์ใหม่ตรงที่ยอดเขา Everest อาจจะไม่ใช่เขา Everest จริง ๆ อาจจะเป็นเขา Everest ของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน เราก็จะสร้างเทคโนโลยีที่มาตอบโจทย์ตรงนี้ นั่นคือ AR กับ VR”
ทีมที่ชนะยังบอกว่าประสบการณ์ในการเข้าร่วมโครงการครั้งนี่เป็นเหมือนความรู้นอกมหาวิทยาลัย ที่เหมือนได้ทำงานจริง ๆ ถ้าทำงานผ่านจุดนี้ไปได้โดยเวลาที่จำกัด ภายใน 24 ชั่วโมง คิดว่าสิ่งนี้เป็นประโยชน์อย่างมากในการเพิ่มการรับรู้ และได้รู้จักว่าตัวเองถนัดอะไร
“ยอดเขาที่สูงสุด ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นยอดเขา Everest แต่ถ้าเป็นยอดเขาอื่นที่สามารถเติมเต็มความอยากที่จะปีนเขาได้ ก็เหมือนได้พิชิตยอดเขา Everest แล้ว”
แม้ Hell Day จะสิ้นสุดลงไปแล้ว แต่ Hell Week กำลังรอผู้เข้ารอบทั้ง 50 คนอยู่ การค้นหานวัตกรคนรุ่นใหม่ยังคงดำเนินต่อไป และความเข้มข้นที่เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน หลังการพิชิตยอดเขา Everest ภารกิจในครั้งต่อไปจะเป็นอย่างไร และเหล่านวัตกรคนรุ่นใหม่จะได้เรียนรู้อะไรอีกบ้างต้องคอยติดตามกันต่อไปใน Hell Week