จ่อนัดถกแก้ปัญหา ปมคลินิกไม่ออกใบส่งตัว

สภาผู้บริโภค หารือสปสชจัดเวทีเชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเข้าร่วมแลกเปลี่ยนเพื่อหาทางออกร่วมกันอย่างเป็นระบบ

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 67 สภาผู้บริโภคประชุมร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อหารือเรื่องการทำงานร่วมกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาการเข้ารับบริการตามนโยบายของ สปสช. และร่วมกันกำหนดแนวทางในการสนับสนุนการดำเนินงานคุ้มครองสิทธิ รวมถึงการขยายกลไกในพื้นที่ เพื่อการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคด้านบริการสุขภาพ 

สำหรับประเด็นหลักในการหารือ เป็นเรื่องกรณีคลินิกชุมชนอบอุ่นปฏิเสธการออกใบส่งตัวผู้ป่วย นอกจากนี้ ยังมีการหารือในประเด็นการขยายและพัฒนาศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง และกลไกคุ้มครองสิทธิระดับจังหวัด โดยการดึงองค์กรสมาชิกสภาผู้บริโภค และหน่วยงานประจำจังหวัด ให้ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อขับเคลื่อนงานด้านนโยบายใน 8 ประเด็นขององค์กรผู้บริโภค ซึ่งจะประสานและดำเนินการร่วมกันต่อไป

สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค กล่าวว่า ที่ผ่านมาสภาผู้บริโภคได้รับเรื่องร้องเรียนกรณี คลินิกชุมชนอบอุ่นปฏิเสธการออกใบส่งตัวผู้ป่วย ซึ่งยังคงเป็นปัญหาที่ผู้บริโภคพบเจออย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขอย่างเป็นระบบ

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการหาทางออกร่วมกันอย่างเป็นระบบ สภาผู้บริโภคเสนอให้จัดเวทีและเชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในปัญหาดังกล่าว ทั้งหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบ ผู้ประกอบการคลินิก เครือข่ายสภาผู้บริโภคเขต กทม. และเครือข่ายภาคประชาชน เข้าร่วมเพื่อแลกเปลี่ยนปัญหาและหาทางออกร่วมกัน

ด้านผู้แทนจาก สปสช.ชี้แจงถึงสาเหตุของปัญหาที่คลินิกไม่ยอมออกใบส่งตัว และทั้งนี้อยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับระบบเบิกจ่ายที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย และสำหรับผู้บริโภคที่ได้รับความไม่สะดวกในการใช้บริการสุขภาพ เช่น คลินิกไม่ออกใบส่งตัว ถูกเรียกเก็บเงินค่าออกใบส่งตัวเอง โดนปฏิเสธการรักษา สามารถร้องเรียนกับ สปสช. ได้ที่เบอร์สายด่วน 1330 โดยเจ้าหน้าที่จะช่วยแก้ปัญหา และสื่อสารให้เกิดการเข้าใจร่วมกัน เพื่อลดปัญหาจากการใช้บริการสุขภาพ หรือร้องเรียนที่สภาผู้บริโภค สายด่วน1502 (วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 17.00 น.)

ทั้งนี้ กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีการส่งตัวบัตรทอง เคยรวมตัวยื่นหนังสือติดตามการแก้ปัญหาหลัง สปสช. เปลี่ยนโยบายใหม่ เมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งจนถึงตอนนี้ผ่านไปเกือบ 2 เดือน ยังมีประชาชน ผู้ป่วย ในเขตพื้นที่ กทม. ได้รับผลกระทบ และเดือดร้อน เป็นจำนวนมาก ต้องทนทุกข์กับความเจ็บป่วย ไม่ได้รับการรักษาอย่างที่เคยเป็นมา 

ก่อนหน้านี้ สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กทม. จะเป็นพื้นที่สุดท้ายของการดำเนินโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ เนื่องจากมีคลินิก และ โรงพยาบาลของเอกชนเป็นจำนวนมาก ต้องทำความเข้าใจหลากหลาย แต่เขตต่างจังหวัดคนไม่ได้เยอะเหมือน กทม. จึงได้นำร่องไปก่อน ยอมรับว่ามีของที่ต้องปรับ เป็นข้อมูลไว้สำหรับเมืองใหญ่ แต่สำหรับ กทม. ที่ประชุมก็มีมติแล้วว่าจะเริ่มในเดือนกันยายน แต่จะดูว่าปรับ จะเพิ่ม จะลด อย่างไรหรือไม่ 

โดยปัญหาที่ประชาชนจำนวนมากได้ร้องเรียนการเข้ารับบริการสาธารณสุขในพื้นที่ กทม. ผ่านสายด่วน สปสช. 1330 รวมถึงมีการยื่นหนังสือร้องเรียนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยตรงเพื่อให้แก้ไข ปัญหาที่พบส่วนใหญ่ เช่น 

  • คลินิกปฏิเสธไม่ออกใบส่งตัวให้ทุกกรณี
  • คลินิกให้คนไข้ย้ายสิทธิไปคลินิกอื่น
  • คลินิกเรียกผู้ป่วยที่มีใบส่งตัวแล้วกลับมาตั้งต้นรับใบสั่งตัวใหม่
  • คลินิกออกใบส่งตัวครั้งต่อครั้งหรือเป็นรายโรค การกำหนดวันและเวลาในการออกใบส่งตัวเพื่อให้คนไข้ยุ่งยาก
  • ผู้ป่วยเกินศักยภาพแต่คลินิกไม่ส่งตัว
  • ไม่ส่งตัวผู้ป่วยไปโรงพยาบาลรับส่งต่อ แต่ส่งไปหน่วยบริการในเครือข่ายของตนแทน
  • ถูกคลินิกเรียกเก็บเงินหรือตั้งกล่องรับบริจาคโดยอ้างว่า สปสช. ไม่มีเงินจ่ายให้ 

ทั้งนี้ ผู้บริโภคสามารถติดตามรายละเอียดของเวทีแก้ไขปัญหาคลินิกไม่ออกใบส่งตัวได้ที่หน้าเพจสภาองค์กรของผู้บริโภค

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active