กากแร่แคดเมียมสูญหายกว่าหมื่นตัน ล่าสุดพบแล้ว ซุกอยู่ จ.ชลบุรี เกือบ 5 พันตัน รมว.อุตสาหกรรมสั่ง เร่งขนกลับไปฝังต้นทางที่ จ.ตาก ด้าน สส.ก้าวไกล รุดสอบความรัดกุมในการขนส่งเคมี หลังพบพิรุธสารเคมีถูกขุดส่งไปที่อื่นแม้ฝังกลบดินแล้ว
![](http://media.thaigov.go.th/uploads/images/124/2024/04/jpeg/IMG_20240407100404000000.jpeg)
สืบเนื่องจากกรณีบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.ตาก ขายกากแร่สังกะสีและกากแร่แคดเมียม จำนวนกว่า 1.3 หมื่นตัน ให้กับบริษัทปลายทางที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ซอยกองพนันพล ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร แต่พบว่าอยู่ในพื้นที่โรงงานแห่งนี้ในตอนนี้เพียง 2,440 ตัน วันนี้ (7 เม.ย.) พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สั่งการให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ร่วมกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ตรวจสอบกระบวนการขนส่งโดยเร็ว เพื่อนำกากแคดเมียมกลับไปฝังกลบที่ต้นทางจังหวัดตาก
โดยก่อนหน้านั้น กระทรวงอุตสาหกรรม ยังได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ บก.ปทส. ว่า ตรวจพบถุงบิ๊กแบ็กจำนวนมาก กระจายอยู่ในพื้นที่โรงเรือน ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี คาดว่าจะเป็นกองกากแคดเมียมที่มาจากโรงงานที่สมุทรสาคร โดยขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบกองกากดังกล่าว เบื้องต้น นับได้ประมาณ 4,200 ถุง คาดว่าน่าจะมีน้ำหนักรวม ประมาณ 6,720 ตัน และได้ทำการยึดอายัดไว้เป็นที่เรียบร้อย
“ดิฉันจะเร่งสั่งการนำกากแคดเมียมทั้งหมด กลับไปฝังกลบยังแหล่งต้นทางให้เร็วและปลอดภัยที่สุด พร้อมทั้งต้องตรวจสอบว่ายังคงมีกากแคดเมียม หลงเหลือในพื้นที่อื่นอีกหรือไม่ เพื่อคลายความกังวลให้กับประชาชน ซึ่งในวันนี้ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์โรงงานที่สมุทรสาครไว้กับ บก.ปทส.เรียบร้อยแล้ว”
พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล
![title](https://media.thaigov.go.th/uploads/thumbnail/news/2024/04/IMG_81426_20240407100530000000.jpg)
ด้านพูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล สัดส่วนสิ่งแวดล้อม ได้เข้าพูดคุยกับณัฐพงษ์ สุมโนธรรม สส.เขต 1 สมุทรสาคร พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุว่า ตัวเถ้าจากการหลอมโลหะหนักที่บรรจุอยู่ในถุงบิ๊กแบ็กนั้น มีส่วนประกอบของโลหะหลายตัว ซึ่งอาจมีปริมาณแคดเมียมไม่มาก หลังจากเข้าพูดคุยกับพนักงานในโรงงานจึงพบว่า บริษัทขนย้ายกากแคดเมียมและสังกะสีมาไว้ในพื้นที่ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 ใช้เวลาขนย้าย 3 เดือน อ้างว่ายังไม่มีการนำกากแคดเมียมและสังกะสีเข้าสู่กระบวนการหลอมแต่อย่างใด แต่การที่วางถุงบิ๊กแบ็กในพื้นที่กลางแจ้งเป็นเวลาหลายเดือน ทำให้ถุงมีลักษณะเปื่อยยุ่ย และเคยผ่านฝนตกลงมา อาจมีการชะล้าง แต่เจ้าหน้าที่ก็ชี้แจงว่า ได้มีการผสมซีเมนต์ตั้งแต่ต้นทางกากแคดเมียมจึงถูกคลุมไว้อยู่แล้ว
กากแร่แคดเมียม 1.3 หมื่นตันส่งผลต่อคนสมุทรสาครแค่ไหน?
พูนศักดิ์ ระบุว่า แคดเมียมเป็นวัตถุอันตราย ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย ซึ่งมีสารก่อมะเร็ง (Carcinogen) ที่พอได้ยินแล้วหลายคนคงเกิดความกลัว แต่ใช่ว่าการสูดดมหรือสัมผัสแคดเมียมเข้าสู่ร่างกายแล้วจะเสียชีวิตทันที เพราะต้องใช้เวลาในการสะสมจนกว่าร่างกายเราจะไม่สามารถรับได้ โดยแคดเมียมสามารถเข้าสู่ร่างกายเราได้เพียง 2 วิธี คือ 1. ผ่านการสูดดม และ 2. ผ่านการกิน แต่แคดเมียมไม่สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ เพราะฉะนั้น ตราบใดที่เราไม่ได้หายใจโดยตรง หรือกินเข้าไป ก็ยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- การรับสารแคดเมียมผ่านการหายใจ: ต้องหายใจผ่านลมที่กรรโชกแรงมาก ๆ จนเถ้าโลหะกลายเป็นละอองฝุ่น อย่างแคดเมียมที่ปรากฎในภาพข่าวที่เป็นของแข็งนั้นต้องอยู่ในสภาพหลอมเหลวจนกลายเป็นไอ ซึ่งระดับความร้อนที่ทำให้แคดเมียมหลอมเหลวนั้นอยู่ที่ 300 กว่าองศาเซลเซียส และกลายเป็นไอที่อุณหภูมิประมาณ 700 กว่าองศาเซลเซียส ดังนั้นโอกาสที่ประชาชนทั่วไปจะสูดดมเข้าไปจึงเหลือน้อยมาก ๆ เช่นกัน
- การรับสารแคดเมียมผ่านการกิน: ‘ถ้า’ มีการไหลชะมากับน้ำฝนลงสู่ลำรางสาธารณะ ลงสู่ดิน ไปสู่พืชซึ่งส่วนใหญ่เป็นพืชโตเร็ว เช่น พวกผักบุ้ง มะละกอ สารแคดเมียมก็กระจายไปตามผล ตามใบ ซึ่งถ้ากินเข้าไปก็จะเข้าไปสู่ร่างกาย หรือถ้าไหลไปสู่แหล่งน้ำ ปลาคงจะตายก่อน ดังนั้นโอกาสที่คนจะกินเข้าไปก็คงมีน้อยเช่นกัน แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นก็ต้องมีการตรวจสอบพื้นที่บริเวณโดยรอบ ว่านอกจากในโรงงาน มีสารแคดเมียมในบริเวณโดยรอบด้วยหรือไม่ และควรเลี่ยงการเก็บผัก หาปลาในบริเวณนั้นจะดีที่สุด
พูนศักดิ์ ย้ำว่า กรณีนี้สะท้อนให้เห็นว่า ประเทศเราอาจยังจัดการกับปัญหาของเสียที่เป็นมลพิษอันตรายได้ไม่ดีพอ หน่วยงานภาครัฐควรระมัดระวังกระบวนการขออนุญาตและการขนส่งขนย้ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งในอนาคต กฎหมายการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับมลพิษที่เป็น Big Data ที่พรรคก้าวไกลนำเสนอให้หน่วยงานและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงงานได้ชี้แจงว่า ของเสียหรือวัตถุอันตรายที่เกิดขึ้นมีอะไรบ้าง ทั้งนี้ เพื่อทำให้ประชาชนโดยรอบและหน่วยงานท้องถิ่นได้รับทราบข้อมูล เตรียมตัวรับมือและมาตรการป้องกันอันตรายเพื่อความปลอดภัย ซึ่งกฎหมายนี้ได้ผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นเรียบร้อยแล้ว
“เถ้าโลหะหนักเหล่านี้หลุดรอดมาได้อย่างไร ใครเป็นคนอนุญาต ทั้งที่จริง ๆ แล้วต้องไปผ่านกระบวนการ stabilization ผสมเถ้าโลหะกับซีเมนต์เพื่อให้รู้สัดส่วนที่เหมาะสมในการฝังในหลุมฝังกลบอย่างปลอดภัย …ซึ่งบ้านเรามีหลุมฝังกลบอย่างปลอดภัยอยู่แค่สองที่คือ ที่จังหวัดราชบุรีกับสระบุรี ซึ่งถือว่าน้อยมาก และกรณีนี้พบว่า ได้มีการฝังในหลุมฝังกลบแล้ว แต่ยังมีการอนุญาตให้ขุดออกมาอีก แล้วส่งมาที่ จ.สมุทรสาคร คำถามคือ อนุญาตถูกต้องหรือไม่ และอนุญาตด้วยเหตุผลอะไร คงต้องตรวจสอบไปยังต้นทาง“
พูนศักดิ์ จันทร์จำปี
ประเด็นเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ ได้ดําเนินการเก็บตัวอย่างสิ่งแวดล้อมเพื่อตรวจสอบผลกระทบต่อชุมชนแล้ว โดยพื้นดินบริเวณชุมชนเหนือลมและท้ายลมในระยะ 10 เมตร ไม่พบปริมาณสารแคดเมียม และตรวจไม่พบไอ ระเหยสารเคมีในบรรยากาศ และสําหรับการฝังกลบกากแคดเมียมให้ดําเนินการฝังกลบกากแคดเมียม ในพื้นที่เดิมให้ถูกต้องตาม EIA ให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน