ผลการโหวตจากกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั่วประเทศ ได้คะแนนท่วมท้น 471 คะแนน นักวิชาการสถาบันเอเชียศึกษา มองโลกมุสลิมในยุคสมัยการเปลี่ยนแปลง สิ่งท้าทายบทบาทจุฬาราชมนตรีคนใหม่
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2023/11/S__22462657_0-1024x768.jpg)
วันนี้ (22 พ.ย.66) ณ อาคารหอประชุม ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ กรมการปกครอง เขตหนองจอก กรุงเทพฯ ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมสรรหา และให้ความเห็นชอบผู้ที่จะดำรงตำแหน่งจุฬาราชมนตรีคนที่ 19 ของประเทศ โดยมีกรรมการอิสลามประจำจังหวัด 723 คน กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย สื่อมวลชน และผู้สังเกตการณ์ เข้าร่วมการประชุมสรรหาฯ ครั้งนี้
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก อาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรีถึงแก่อนิจกรรม เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2566 เป็นเหตุให้ตำแหน่งจุฬาราชมนตรีว่างลง ซึ่งกระทรวงมหาดไทย จะต้องดำเนินการสรรหาผู้ที่จะดำรงตำแหน่งจุฬาราชมนตรี ตามพระราชบัญญัติการบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม พ.ศ. 2540 และกฎกระทรวง พ.ศ. 2542 ออกตามความในพระราชบัญญัติการบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม พ.ศ. 2540
สมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองอธิบดีกรมการปกครอง ชี้แจงคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งจุฬาราชมนตรี รวมทั้งขั้นตอนการสรรหาจุฬาราชมนตรีให้ทุกคนในที่ประชุมทราบ ซึ่งที่ประชุมและองค์ประชุมต้องมีกรรมการอิสลามประจำจังหวัดมาประชุมไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั่วประเทศที่มีอยู่ ณ ขณะนั้น
ที่ประชุมเสนอ 3 ชื่อ และจับสลากหมายเลขประจำตัวผู้ถูกเสนอชื่อ ดังนี้
หมายเลข 1 ประสาน ศรีเจริญ
หมายเลข 2 อรุณ บุญชม
หมายเลข 3 วิสุทธิ์ บิลลาเต๊ะ
โดยการลงคะแนนสรรหาจุฬาราชมนตรี ที่ประชุมมีมติ เริ่มลงคะแนนเวลา 10.05 – 12.05 น. ด้วยวิธีการลงคะแนนลับ จากนั้นเมื่อเวลา 12.06 น. กรมการปกครอง ได้ดำเนินการเปิดหีบเพื่อนับคะแนนการสรรหาจุฬาราชมนตรี ต่อหน้าที่ประชุม โดยมีผู้ลงคะแนนสรรหาทั้งสิ้น 723 คน จำนวนบัตรเสีย 7 ใบ และบัตรผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน 1 ใบ
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2023/11/404456876_748027800698618_3562679455785883517_n-1024x637.jpg)
ผลการลงคะแนนปรากฏว่า
หมายเลข 2 อรุณ บุญชม ได้รับ 471 คะแนน
หมายเลข 1 ประสาน ศรีเจริญ ได้รับ 129 คะแนน
หมายเลข 3 วิสุทธิ์ บิลลาเต๊ะ ได้รับ 115 คะแนน
ทั้งนี้เมื่อกรรมการอิสลามประจําจังหวัดทั่วประเทศ ให้ความเห็นชอบผู้ที่จะดำรงตำแหน่งจุฬาราชมนตรีแล้ว กระทรวงมหาดไทย จะนำรายชื่อผู้ที่ได้รับความเห็นชอบจากกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั่วประเทศ กราบเรียนต่อนายกรัฐมนตรี นำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อม เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นจุฬาราชมนตรี ต่อไป
โลกมุสลิมในยุคการเปลี่ยนแปลง ความท้าทาย บทบาท “จุฬาราชมนตรี” คนใหม่
อับดุรเราะฮหมาน มูเก็ม นักวิจัย สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยกับ The Active ถึงกรณีการเลือกจุฬาราชมนตรี คนที่ 19 แห่งราชอาณาจักรไทย โดยมองว่า อรุณ บุญชุม มีความเหมาะสมที่สุดในจำนวนผู้ได้รับการเสนอชื่อ ทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ และความอาวุโส ซึ่งบทบาทหน้าที่สำคัญของการเข้ามาเป็นผู้นำของชาวมุสลิมในช่วงเวลาของความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย และสังคม ต้องอาศัยวิสัยทัศน์ การเป็นผู้นำหลักคำสอนทางศาสนามาปรับใช้ให้เข้ากับยุคสมัย และยอมรับ เข้าใจกลุ่มคนที่เห็นต่าง
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2023/11/Screenshot-2023-11-22-180827.png)
ที่สำคัญยังมีเรื่องท้าทายชาวมุสลิมในไทย และทั่วโลก ที่กำลังรอการผลักดัน และทำให้เกิดความชัดเจน เช่น ประเด็นการกระชับความสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ จากนี้บทบาทของจุฬาราชมนตรีคนใหม่ และคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย จะสร้างความเชื่อมั่น สร้างความเข้าใจทั้งต่อเวทีมุสลิมไทย และเวทีมุสลิมโลกได้อย่างไร ต้องอาศัยการวางตัวภายใต้สถานการณ์ที่ละเอียดอ่อน อย่างกรณีสงครามอิสลาเอล-ปาเลสไตน์ กระทบต่อสังคมมุสลิมทั่วโลก บทบาทของจุฬาราชมนตรีคนใหม่ จะต้องสามารถวางตัว และเข้าไปสร้างความเข้าใจให้กับพี่น้องชาวมุสลิม
ประเด็นต่อมา คือการให้ความสำคัญกับการคัดเลือกคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดชุดใหม่ ที่กำลังจะเกิดขึ้นทั่วประเทศ โดยจุฬาราชมนตรีคนใหม่ต้องวางบทบาทให้เหมาะสม สร้างความกระจ่างให้แก่สังคมมุสลิม ไม่มีระบบเส้นสาย ระบบทุนเข้ามาเกี่ยวข้อง
นอกจากนั้นยังเห็นว่า จุฬาราชมนตรีอาจต้องทบทวน และแก้ไข “พระราชบัญญัติการบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม พ.ศ. 2540” ที่เปิดโอกาสให้ “ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” สามารถเข้ามาทำงานในตำแหน่ง “คณะกรรมกลางอิสลามแห่งประเทศไทย”ตามมาตรา 17 “คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด”ตามมาตรา 24 รวมทั้ง “คณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิด”ตามมาตรา 31 ทั้งที่ตำแหน่ง จุฬาราชมนตรี นั้นถูกปฏิเสธในมาตรา 7(10) ระบุว่าต้อง “ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง”
“การอนุญาตให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเข้ามาทำงาน จึงอาจส่งผลให้การบริหารกิจการอิสลามเข้าสู่วิถีการเมืองอย่างง่ายดาย อีกทั้งก่อให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างมาก และอาจทำลายความศักดิ์สิทธิ์ และจิตวิญญาณขององค์กรศาสนา ด้วยเหตุนี้ท่านจุฬาราชมนตรีคนใหม่ อาจต้องทบทวน”
อับดุรเราะฮหมาน มูเก็ม
ประเด็นสุดท้าย คือ การขับเคลื่อนตลาดอาหารฮาลาลของไทย ที่ต้องได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจัง เพื่อทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางเรื่องนี้ และจะส่งผลให้ประชาชนกินดีอยู่ดีขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2023/11/S__22462620-1024x768.jpg)
เส้นทางการทำงาน “อรุณ บุญชม”
ข้อมูลจาก Thai PBS NEWs ระบุว่า อรุณ บุญชม เรียนจบ ปริญญาตรี สาขาอัลฮะดีษและอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยอิสลาม นครมาดีนะห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย และ ปริญญาตรี สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
เคยรับหน้าที่อาจารย์สอนอิสลามศึกษาและภาษาอาหรับระดับ “ซานะวีย์” โรงเรียนมิฟตาฮุ้ลอุลูมิดดีนียะห์ (บ้านดอน) และเป็นวิทยากรบรรยายศาสนธรรมให้แก่สถาบันและองค์กรต่างๆ นอกจากนั้นยังเป็นอิหม่ามประจำมัสยิดดารุลมุห์ซีนีน (สุเหร่าบ้านดอน) กรุงเทพมหานคร และอีกหลายตำแหน่ง ได้แก่ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร, อุปนายกฝ่ายวิชาการ สมาคมคุรุสัมพันธ์, ทรงคุณวุฒิสำนักจุฬาราชมนตรี, วิทยากรบรรยายศาสนธรรมให้แก่สถาบันและองค์กรต่าง ๆ, ประธานที่ปรึกษาธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย, ประธานกรรมการศาสนากองทุนเปิดเอ็ม เอฟ ซี อิสลามมิกฟันด์, ที่ปรึกษาการให้บริการทางการเงินตามหลักศาสนาอิสลามของธนาคารออมสิน, ประธานคณะกรรมการเมืองไทยชารีอะห์ (ตะกาฟุล), ประธานคณะที่ปรึกษาทิพยะตะกาฟุล (ด้านศาสนา), ประธานคณะที่ปรึกษากองทุนอิสลามของ ธ.ก.ส.