“หมอสุภัทร” สู้ต่อ! เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งย้ายต่อ กพ. ใน 30 วัน

เผยได้รับรับคำสั่งย้ายฯ อย่างเป็นทางการแล้ว จันทร์นี้ (6 ก.พ.2566) เตรียมส่งมอบงาน และไปเป็น ผอ.โรงพยาบาลสะบ้าย้อยใน 15 วัน ชี้การบริหารงานภายใน “กระทรวงสาธารณสุข” เข้าขั้นวิกฤต แต่ไม่มีใครกล้าพูดเพราะกลัวโดนย้าย

วันที่ 4 ก.พ. 2566 นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบท อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ เปิดเผยความในใจเมื่อคำสั่งย้ายมาถึง ผ่านเฟซบุ๊กว่า 

ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณอาจารย์วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ อาจารย์แพทย์ผู้ใหญ่ที่สังคมและตัวผมเองเคารพยิ่ง ที่อาสาเป็นคนกลางในการหารือทางออกร่วมกันระหว่างผมและผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขรวมทั้งได้เสนอทางออกที่ให้ผมทำงานให้หนักขึ้นคือ เป็นผู้อำนวยการควบทั้งที่ รพ.จะนะและ รพ.สะบ้าย้อย ข้อเสนอและความตั้งใจของอาจารย์วีระศักดิ์นั้น ผมยินดีทำตามที่อาจารย์เสนอ งานหนักไม่กลัว กลัวแต่ว่าข้อเสนอของอาจารย์นั้นจะเป็นหมัน ฝ่าย สธ.ไม่ตอบรับครับ

ผมทราบว่า ทางศาลากลางจังหวัดสงขลาได้ส่งหนังสือคำสั่งย้ายตรงถึงโรงพยาบาลจะนะแล้ว แต่ผมได้ลาพักผ่อนมาประกอบภารกิจของครอบครัวที่กรุงเทพฯในวันที่ 2-3 ก.พ.66 อยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นในวันจันทร์ที่ 6 ก.พ.66 ผมจึงจะได้เข้าโรงพยาบาลครับ ไปทำงานและดำเนินการเรื่องคำสั่งโยกย้ายต่อไป 

โดยขั้นตอนทางราชการ เมื่อคำสั่งมาถึง ผมก็ต้องลงนามรับทราบคำสั่ง และมีเวลาไม่เกิน 15 วันในการดำเนินการทุกอย่างและเดินทางไปรับราชการในที่ใหม่ เวลา 15 วันนั้นไม่ใช่เวลาสำหรับการเก็บของและเดินทางนะครับ เดี๋ยวนี้ถนนดีรถดีแล้ว แต่เวลา 15 วันนั้น คือเวลาที่สำคัญสำหรับการส่งมอบงาน ซึ่งโดยหลักปฏิบัติทุกฝ่ายต้องสรุปงานที่ดำเนินการอยู่ว่าคั่งค้างถึงไหน ต้องเขียนสรุปงานเป็นเอกสารและนัดอธิบายส่งมอบให้กับผู้อำนวยการคนใหม่ เพื่อที่จะได้สานงานต่อได้อย่างไร้รอยต่อ ส่วนงานที่ว่าด้วยการพัสดุ การเงิน การบริหารบุคคล การจัดซื้อจัดจ้าง งานที่มีกฎหมายกฎระเบียบเข้ามาเกี่ยวข้อง งานบริหารเหล่านี้ที่ยังคั่งค้างยิ่งต้องมีการจัดทำเอกสารที่รัดกุมแล้วจึงส่งมอบ เพราะสิ่งเหล่านี้เกี่ยวเนื่องกับการรับผิดทางกฎหมายด้วย นี่คือภารกิจในช่วงเวลาที่ระเบียบกำหนดให้ว่าต้องเดินทางภายใน 15 วัน 

ส่วนเมื่อรับคำสั่งแล้วย้ายแล้ว ผมก็จะส่งคำอุทธรณ์ไปยังคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมของสำนักงาน กพ.ตามขั้นตอน ซึ่งกำหนดเวลาที่ต้องยื่นอุทธรณ์ใน 30 วันหลังรับทราบคำสั่ง แล้วก็ปรึกษาทีมกฎหมายของชมรมแพทย์ชนบทในการขอความเป็นธรรมจากศาลปกครอง ฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตตามมาตรา 157 หรืออาจจะรวมถึงฟ้องต่อ ป.ป.ช.ต่อไป 

ผมเป็นข้าราชการระดับอำเภอ เพียงแต่ผมมีอีกหมวกคือประธานชมรมแพทย์ชนบท การต่อสู้ของผมและผู้คนมากมายในครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อตัวผมเอง แต่ชัดเจนว่า เพื่อฟื้นฟูระบบธรรมาภิบาลของกระทรวงสาธารณสุขที่ถึงจุดต่ำมาก ไม่ให้ตกต่ำไปกว่านี้อีก และให้การถูกกลั่นแกล้งโยกย้ายไม่เป็นธรรมที่เห็นชัดเจนกรณีของผมกลายเป็นโฟกัสของความร่วมมือร่วมใจของผู้คนทั้งในและนอกกระทรวงสาธารณสุขคนละไม้คนละมือที่จะออกมาปกป้องและปลดปล่อยกระทรวงสาธารณสุขจากการครอบงำวางคนเพื่อยึดกระทรวงสาธารณสุขเป็นสมบัติและฐานระยะยาว 

“ขอเรียนตรงๆ วันนี้การบริหารจัดการภายในของกระทรวงสาธารณสุขนั้นวิกฤตมากๆครับ คนใน สธ.รู้ดีแต่พูดไม่ได้เพราะจะโดนย้าย บ้านของเราอย่าให้คนที่มาเช่าอยู่อาศัยมายึดและทำลายนะครับ” 

ย้อนดูความเคลื่อนไหวชมรมแพทย์ชนบท ก่อน นพ.สุภัทร ถูกคำสั่งย้ายจากโรงพยาบาลจะนะไปเป็น ผอ.โรงพยาบาลสะบ้าย้อย

  • นำแพทย์ในชมรมแพทย์ชนบทตรวจเชิงรุก-รักษาผู้ป่วยโควิดใน กทม.
  • ค้านกระทรวงสาธารณสุข ที่ต้องการระบายวัคซีน16.8 ล้านโดสให้โรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศเพราะไม่อยากให้โรงพยาบาลชุมชนเป็นเพียงสถานที่ระบายวัคซีนจากส่วนกลาง  เนื่องจากความต้องการรับวัคซีนในพื้นที่ ลดลง ยังมีวัคซีนในสต๊อกและที่สำคัญคือไม่มีอุปกรณ์ในการเก็บรักษาวัคซีน
  • วิจารณ์การโยกย้ายข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข ผิดหลักธรรมาภิบาลและถูกแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง
  • โจมตีนโยบายกัญชาเสรี ไม่รัดกุม เป็นสุญญากาศ  ไม่มีการควบคุม มอมเมาเยาวชน
  • คณะกรรมการสอบวินัยฯ ลงโทษภาคทัณฑ์ ฐานกระทำผิดวินัยไม่ร้ายแรง ไม่สุภาพเรียบร้อยไม่รักษาความสามัคคี ไม่ช่วยเหลือราชการระหว่างราชการด้วยกัน
  • นพ.สุภัทร ถูกสั่งย้ายไปเป็น ผอ.โรงพยาบาลสะบ้าย้อย
  • ประกาศฟ้องศาลปกครองเพราะเห็นว่าถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรม ไม่มีเหตุผล
  • แนวร่วมชมรมแพทย์ชนบท คนในพื้นที่จะนะ และเอ็นจีโอ ให้กำลังใจ และจัดกิจกรรมคัดค้านคำสั่งย้าย นพ.สุภัทร
  • รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงสาธารณสุขให้ทบทวนคำสั่งย้าย “หมอสุภัทร”
  • ประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช.สภาผู้แทนราษฎรฯ รับคำร้องคำสั่งย้าย นพ.สุภัทรไม่เป็นธรรม 2 ก.พ.นี้

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active