โตแล้วก็ถูกหลอกได้! ถอดพฤติกรรมลักพาตัวเด็ก 14 ตีสนิท ออกอุบายซื้อของให้ จนหลงเชื่อ

มูลนิธิกระจกเงา พบ กรณีเด็กโตถูกลักพาตัวหลายคดี ​ส่วนใหญ่ใช้วิธีตีสนิทหลอกจะซื้อของให้ ชวนเล่นเกมส์ออนไลน์ พาไปเที่ยว ด้าน ตร.พบเบาะแสผู้ก่อเหตุนำซาเล้งไปขายที่ จ.สระบุรี อึ้งเคยถูกหมายจับคดีพรากผู้เยาว์ปี 57 

จากกรณีที่เด็กชายวัย 14 ปี หรือ น้องมัว ที่ถูกชายขับซาเล้งลักพาตัวออกจากวัดบางโฉมศรี จังหวัดสิงห์บุรี เมื่อวันที่ 16 ก.ย.66  ล่าสุดตำรวจ สภ.อินทร์บุรี เชิญเพื่อนของน้องมัว ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ในช่วงเวลาที่น้องมัวหายตัวไป มาชี้รูปภาพผู้ต้องสงสัยเพื่อยืนยันว่า เป็นบุคคลเดียวกับที่ก่อเหตุจริงหรือไม่ โดยเด็กยืนยันว่าเป็นบุคคลเดียวกับที่ก่อเหตุจริง ตำรวจยังคงหาเบาะแสเพิ่มเติม และออกหมายจับแล้ว

เหตุการณ์นี้ตำรวจได้แกะรอยรถจักรยานยนต์ซาเล้ง ตามเส้นทางกล้องวงจรปิด พบว่า วันเกิดเหตุ มีภาพของเด็กชายมัวที่นั่งบริเวณหน้ารถ และมีนายพันเป็นคนขับ จุดนี้อยู่ไม่ห่างจากวัดโฉมศรี ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุที่นายพันล่อลวงให้เด็กชายมัวขึ้นรถมาด้วย

เวลาห่างกันไม่มากนัก มีภาพจากกล้องวงจรปิดจุดที่สอง จับภาพได้บริเวณแยกอินทร์บุรี-หนองสุ่ม มีเด็กชายมัวนั่งอยู่บริเวณหน้ารถของนายพัน โดยเส้นทางนี้มุ่งหน้าไปที่อำเภอเมืองสิงห์บุรี สอดคล้องกับข้อมูลที่ตำรวจพบว่า นายพันได้พาน้องมัวไปพักที่โรงแรมสันติสุข ซึ่งอยู่ในตัวเมืองสิงห์บุรี ขณะที่กล้องอีกตัว จับภาพได้วันรุ่นขึ้น หลังจากที่นายพันพาเด็กชายมัวออกจากโรงแรมสันติสุข ได้ใช้เส้นทางถนนจักรสีห์ มุ่งหน้าค่ายบางระจัน โดยเด็กชายมัวไม่มีท่าทีขัดขืน

กรณีนี้ มูลนิธิกระจกเงา อธิบายถึงสาเหตุว่า ทำไมเด็กโตอายุ 14 ปี จึงถูกลักพาตัวแล้วไม่หนี โดยข้อเท็จจริงเด็กโตถูกลักพาตัวได้จริง และเกิดขึ้นหลายคดีแล้ว 

ซึ่งกรณีของน้องมัวที่มีภูมิลำเนาเดิมอยู่กับครอบครัวที่ อ.พบพระ จ.ตาก ต่อมาเมื่อปีที่แล้ว เด็กเดินทางมาเรียนหนังสือใน จ.สิงห์บุรี  เนื่องจากพ่อแม่ต้องไปทำงานก่อสร้างที่อื่น ไม่มีเวลาดูแลเด็ก และในพื้นที่ จ.สิงห์บุรี มีลักษณะของวัด ที่รับดูแลเด็กจากพื้นที่สูงตามแนวชายแดน จนเป็นค่านิยมที่เด็กในพื้นที่จะลงมาเรียนหนังสือต่อที่ภาคกลาง 

เมื่อผู้ก่อเหตุเข้าไปเก็บของเก่าบริเวณวัดจึงรู้จักกับเด็ก จากนั้นผู้ก่อเหตุทำทีตีสนิทโดยซื้อขนมและให้เงินเด็ก ตลอดจนให้เด็กเล่นโทรศัพท์มือถือ จนเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ สุดท้ายผู้ก่อเหตุ หลอกเด็กว่าจะซื้อโทรศัพท์มือถือให้ เด็กจึงยอมตามไป โดยจากภาพกล้องวงจรปิดที่พบ จะเห็นว่า เด็กนั่งเล่นมือถือบนซาเล้งตลอดเวลา  ทั้งนี้ มีเด็กรายอื่นให้ข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุก็เคยมาชักชวนเด็กคนอื่นไปด้วย โดยหลอกว่าจะพาไปซื้อโทรศัพท์เช่นกัน

ขณะที่คดีอื่น ๆ ที่เป็นการลักพาตัวเด็กโต พบว่า เด็กจะหลงเชื่อคนร้ายว่าจะซื้อของที่เด็กต้องการให้ ไม่ว่าจะเป็นมือถือ คอมพิวเตอร์หรือพาไปเล่นเกมส์ออนไลน์ตามร้าน ในขณะที่การเดินทางไปตามสถานที่ต่าง ๆ เด็กจะรู้สึกสนุก ตื่นเต้น เพราะไม่เคยมีประสบการณ์ออกไปเที่ยวหรือไปยังต่างถิ่น อีกทั้งคนร้ายมักดูแลเด็กดี ให้กินให้เล่น ไม่บังคับเด็ก  เด็กจึงหลงเชื่อและยอมอยู่ด้วย

 

ล่าสุด ตำรวจเจอรถซาเล้งคันที่ใช้ก่อเหตุแล้ว ซึ่งถูกนำไปขายไว้ที่จังหวัดสระบุรี ในราคา 3,500 บาท ซึ่งตำรวจนำมาเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำมาสู่การออกหมายจับต่อไป

จากการตรวจสอบยังประวัติอาชญกรรมของผู้ก่อเหตุ ทราบว่า ผู้ก่อเหตุมีหมายจับของศาลจังหวัดปราจีนบุรี เมื่อปี 57 ในข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดามารดา  

สำหรับผู้ใดพบเห็น แจ้งเบาะแสได้ที่ มูลนิธิกระจกเงา โทร. 080 775 2673

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active