สถิติพบคนไทยยังเคลื่อนไหวน้อย มีกิจกรรมทางกายต่ำกว่า 150-300 นาทีต่อสัปดาห์ ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก ควรเน้นกิจกรรมเสริมสร้างภูมิต้านทานทั้งภายนอกและภายใน
วันนี้ (15 พ.ค. 2565) กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรม เดินวิ่งสมาธิ ปีที่ 21 ภายใต้ชื่อ “เดินวิ่งสมาธิ วิสาขะ พุทธบูชา ถือศีล ๕ ลดละอบายมุข ร่วมใจถวายเป็นพุทธบูชา วิ่งด้วยสมาธิ พิชิต โควิด-19” ที่ สวนวชิรเบญจทัศ เนื่องในวันวิสาขบูชา ปี 2565 หวังให้คนไทยได้มีกิจกรรมสร้างภูมิคุ้มกันกายใจ โดยยึดหลักใจประสานกายเคลื่อนไหวอย่างมีสติ เพิ่มประสิทธิภาพเกราะคุ้มกันลดความเสี่ยงเกิดโรคไม่ติดต่อ NCDs
ประภาศรี บุญวิเศษ กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. มุ่งหวังให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีด้วยการมีกิจกรรมทางกายเพียงพอ จึงบูรณาการกิจกรรมทางกายด้วยการเดินและวิ่งเพื่อสุขภาพ พร้อมกับการบริหารจิตด้วยสมาธิผ่านกระบวนการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างช้าๆ มีสติให้เกิดสมาธิเป็นการเรียนรู้อย่างง่าย เพื่อมุ่งหวังให้ประชาชนลดละ อบายมุข ถวายเป็นพุทธบูชาเนื่องในวันวิสาขบูชา
ข้อแนะนำขององค์การอนามัยโลก ระบุว่าผู้ที่มีสุขภาพปกติควรมีกิจกรรมทางกาย 150-300 นาทีต่อสัปดาห์ แต่จากสถิติพบว่าคนไทยมีกิจกรรมทางกายลดลงจากสถานการณ์โควิด-19 โดยในปี 2563 คนไทยมีกิจกรรมทางกายเพียงพอ แค่ร้อยละ 54.3 เท่านั้น ทำให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องร่วมฟื้นฟูให้สูงขึ้น เพื่อเสริมสร้างวิถีการมีสุขภาวะที่ดี พร้อมกับปรับตัวอยู่ร่วมกับโรคโควิด-19 ส่งผลให้ในปี 2564 ระดับกิจกรรมทางกายของคนไทยเพิ่มขึ้นจากระดับดังกล่าวเป็นร้อยละ 63 ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี แต่ถือว่ายังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ร้อยละ 75
“การมีกิจกรรมทางกายด้วยการเดิน วิ่ง เป็นกิจกรรมทางกายที่ทำได้ง่ายเหมาะสมกับทุกเพศทุกวัยทุกเศรษฐฐานะ ทำได้ในทุกสถานที่ทั้งในบ้าน ละแวกบ้าน และทุกสถานที่ ด้วยระดับที่เพียงพอเป็นประจำ สม่ำเสมอ สามารถลดความเสี่ยงการเกิดโรคไม่ติดต่อ หรือ NCDs ซึ่งเป็นสาเหตุหลักในการเสียชีวิตของคนไทย ดังนั้น สสส. หวังว่ากิจกรรมเดิน-วิ่งสมาธิในครั้งนี้ จะสามารถจุดประกายความคิดและความกล้าสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มขยับ ให้หันมาเพิ่มการมีกิจกรรมทางกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอเพื่อสุขภาพแข็งแรง ห่างไกลโรคและเปลี่ยนแปลงตัวเองไปสู่ชีวิตวิถีใหม่ วิถีชีวิตสุขภาวะ ที่แข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ”
ธัชพล จิโรจน์วีรภัทร ประธานมูลนิธิสมาพันธ์ชมรมเดินวิ่งเพื่อสุขภาพไทย และประธานการจัดงานเดินวิ่งสมาธิ ปีที่ 21 กล่าวว่า กิจกรรมการเดินวิ่งสมาธิ คือการเคลื่อนไหวร่างกายในขณะที่จิตสงบ ใช้การควบคุมสติและสมาธิด้วยการหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอโดยสิ่งสำคัญคืออวัยวะต่างๆ และจิตใจต้องทำงานสอดคล้องสัมพันธ์กัน นอกจากจะช่วยลดแรงกระแทก ป้องกันการบาดเจ็บ ยังส่งผลให้การเดินหรือวิ่งมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และยังเป็นการเรียนรู้ที่จะหยุดนิ่งอยู่กับตัวเอง ส่งผลต่ออารมณ์สดชื่น แจ่มใส ลดความวิตกกังวลและคลายเครียด ซึ่งนอกจากใช้ในกิจกรรมครั้งนี้แล้ว ยังสามารถนำหลักการนี้มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้อีกด้วย เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันทั้งด้านร่างกาย จิตใจและอารมณ์ ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพกาย
“สุขภาพกายที่ดี ต้องมาจากสุขภาพใจที่ดีด้วย ดังนั้นงานเดินวิ่งในครั้งนี้จึงไม่ได้คาดหวังว่าชัยชนะจะมาจากผู้ที่เดินหรือวิ่งได้เร็วกว่าและเข้าเส้นชัยก่อน แต่ชัยชนะที่แท้จริงคือ ผู้ที่สามารถนำใจกับกายมาอยู่ด้วยกันบนพื้นฐานของจิตใจที่สงบ และก้าวเดินอย่างมีสติ เพราะฉะนั้นในวันนี้นักเดินวิ่งทุกคนไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงทำจิตใจให้สบายๆ แล้วบอกตัวเองว่าเราจะอยู่กับตัวเองพร้อมเดินหรือวิ่งไปก็พอ”