โพล ชี้ พ่อแม่ไทย 64% ใช้จอเลี้ยงลูกปฐมวัย หวั่นกระทบพัฒนาการ

กรมอนามัยร่วมกับภาคีเครือข่าย เปิดผลสำรวจ “การเล่นเด็กปฐมวัยร่วมกับพ่อแม่” ชี้ 64% อยู่กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แนะพ่อแม่เล่นกับลูกมากขึ้น พร้อมประสานโครงการส่งเสริมการเล่นผ่านชุมชน

วันที่ 18 มี.ค. 2565 สำนักงานสถิติแห่งชาติ องค์การยูนิเซฟ (UNICEF) ประเทศไทย สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP) และกรมอนามัย เผยผลสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย ครั้งที่ 6 (Multiple Indicator Cluster Survey 6 : MICS6) ซึ่งเป็นการสำรวจระดับโลกเรื่องการเล่นเด็กปฐมวัยร่วมกับพ่อแม่

นายแพทย์ทักษพล ธรรมรังสี ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP) กล่าวว่า จากการสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลกลุ่มตัวอย่าง 8,856 คน พบว่า เด็กปฐมวัยที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี ได้เล่นกับพ่อแม่หรือผู้ปกครอง ร้อยละ 90.3 ถือเป็นอันดับที่ 11 จาก 84 ประเทศ ที่มีรายได้ต่ำหรือปานกลาง โดยการเล่นที่พบมากที่สุด คือ การเล่นกับเด็ก ร้อยละ 98 การพาเด็กไปเดินเล่นนอกบ้าน ร้อยละ 97 และการหัดเรียกชื่อ นับเลขหรือวาดรูป ร้อยละ 95 ส่วนการเล่นที่พบน้อยที่สุด คือ การเล่านิทาน ร้อยละ 84 การร้องเพลง ร้อยละ 80 การอ่านหนังสือหรือดูสมุดภาพ ร้อยละ 78

ภาพจากเว็บไซต์ กรมอนามัย

ผลการวิเคราะห์ข้อมูลยังพบว่า การมีหนังสือสำหรับเด็กในครอบครัว อย่างน้อย 3 เล่ม ส่งผลต่อการเล่นของเด็กปฐมวัยที่มากขึ้นถึง 3 เท่า อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เช่นเดียวกับการมีของเล่นในบ้าน โดยไม่จำเป็นต้องเป็นของเล่นที่ต้องซื้อมา อาจจะเป็นการประดิษฐ์เองจากของใช้ในบ้าน ล้วนส่งผลต่อการเล่นของเด็กปฐมวัยที่มากขึ้นถึง 1.5 เท่า แต่ในทางกลับกัน พบว่าเด็กปฐมวัย ร้อยละ 64 มีการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่นโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต โดยระยะเวลาการใช้จอที่มากกว่า 1 ชั่วโมงต่อวัน ส่งผลต่อการเล่นของเด็กปฐมวัยที่ลดลง ถึงร้อยละ 50

ด้าน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ผลงานวิจัยในระดับสากลครั้งนี้ ชี้ชัดว่า การเล่นในเด็กปฐมวัย เช่น การเล่นกับพ่อแม่ พี่น้อง ธรรมชาติ ต้นไม้ สัตว์ ดิน ทราย น้ำ ระบายสี ปั้นดินน้ำมัน ต่อบล็อกไม้ ฉีก ตัด ปะกระดาษ วิ่งเล่นในสนาม ปีนป่าย เล่นบทบาทสมมติ เล่นดนตรี ทำงานบ้าน และการอ่านหนังสือ มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการกระตุ้นสมองให้เปิดรับการเรียนรู้ผ่านความรู้สึกสนุกก่อให้เกิดวงจรการเรียนรู้ และพัฒนาการรอบด้าน ทั้งร่างกาย อารมณ์ สังคม จิตใจ สติปัญญา และช่วยเสริมทักษะการคิดเชิงบริหาร EF (Executive Function) ในการจัดการความคิด ความรู้สึก และการกระทำ การยืดหยุ่นทางความคิด การวางแผน ตั้งเป้าหมาย แก้ไขปัญหา เตรียมพร้อมก้าวเข้าสู่วัยเรียน วัยรุ่น และวัยทำงาน เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ พร้อมรับมือกับผลกระทบจากโรคโควิด-19 รวมถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และปัญญาประดิษฐ์ที่เข้ามามีบทบาทแทนมนุษย์

สอดคล้องกับ นายแพทย์อุดม อัศวุตมางกุร ผู้อำนวยการกองกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ กล่าวว่า จากผลการสำรวจชี้ให้เห็นว่าพ่อแม่ควรเล่นกับลูกให้มากขึ้น และลดการใช้หน้าจอลง เนื่องจากส่งผลกระทบต่อพัฒนาการในหลายด้าน โดยกรมอนามัยพร้อมประสานกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ และภาคีเครือข่ายส่งเสริมการเล่นผ่านโครงการเด็กไทยเล่นเปลี่ยนโลก ด้วยการเติมเต็มการเรียนรู้ผ่านการเล่นตามแนวคิด 3F ได้แก่ Family Free และ Fun และพัฒนา พื้นที่ต้นแบบเด็กไทยเล่นเปลี่ยนโลกครอบคลุมทุกตำบล เพื่อให้เด็กมีโอกาสได้พัฒนาตนเองผ่านการเล่น โดยการดำเนินงานในพื้นที่จากความร่วมมือกันระหว่างครอบครัว สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย หน่วยบริการสาธารณสุข และชุมชน นอกจากนี้ โครงการมีการพัฒนาผู้อำนวยการเล่น ผ่านหลักสูตรออนไลน์ www.mooc.anamai.moph.go.th ซึ่งปัจจุบันมีผลการดำเนินงานผู้อำนวยการเล่น จำนวน 9,823 คน

Author

Alternative Text
AUTHOR

ศศิธร สุขบท

มนุษย์ช่างฝัน ชอบสร้างสรรค์ข่าวเชิงบวก มีพรรคพวกชื่อจินตนาการ แสนสุขกับงานขับเคลื่อนสังคม