เผยสถานการณ์รอบปี พบ แรงงานไทย แรงงานข้ามชาติ ถูกเลิกจ้าง ค้างค่าจ้าง ค่าชดเชย กระทบความมั่นคงอาชีพ สวัสดิการ เสนอทบทวนกฎหมาย กำหนดมาตรการ จูงใจนำลูกจ้างไทย – แรงงานข้ามชาติ เข้าระบบประกันสังคม
วันนี้ (30 เม.ย. 67) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ส่งสารเนื่องใน ‘วันแรงงานสากล’ 1 พฤษภาคม ประจำปี 2567 โดยระบุว่า กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (ICESCR) ที่ประเทศไทยเป็นภาคีและมีพันธกรณีต้องปฏิบัติตาม ได้รับรองสิทธิในการทำงาน การได้รับค่าจ้างที่เป็นธรรม รวมทั้งสิทธิของทุกคนในการมีสวัสดิการสังคมและมีมาตรฐานการครองชีพที่เพียงพอสำหรับตนเองและครอบครัว “สิทธิแรงงาน” จึงเป็นสิทธิมนุษยชน
โดย กสม. ตรวจสอบ ติดตาม และประเมินสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิแรงงานในรอบปีที่ผ่านมา พบว่า แรงงานไทย แรงงานข้ามชาติ ทั้งในระบบ และนอกระบบยังประสบปัญหาการถูกเลิกจ้าง, การค้างค่าจ้าง และ การค้างจ่ายค่าชดเชย แรงงานหลายกลุ่มไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ส่งผลกระทบต่อการมีงานทำ ความมั่นคงในการเลี้ยงชีพ และการเข้าถึงสวัสดิการแรงงานขั้นพื้นฐาน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานแพลตฟอร์ม หรือ ไรเดอร์ ซึ่งไม่ได้รับการปฏิบัติจากบริษัทแพลตฟอร์มในฐานะพนักงานหรือลูกจ้างตามกฎหมาย
ส่วนแรงงานไทยที่ไปทำงานต่างประเทศ เช่น แรงงานที่ไปเก็บเบอร์รี่ป่าในประเทศสวีเดนและประเทศฟินแลนด์ ประสบปัญหาถูกหลอกไปใช้แรงงาน ไม่ได้รับการดูแลตามสัญญาจ้าง และต้องอยู่ภายใต้สภาพการทำงานที่ยากลำบาก การบังคับใช้แรงงานมีลักษณะเป็นขบวนการค้ามนุษย์
ขณะที่แรงงานที่ได้รับสวัสดิการทางสังคมตามกฎหมาย คือ แรงงานซึ่งเป็นผู้ประกันตนของกองทุนประกันสังคมยังมีความเหลื่อมล้ำจากการรับบริการด้านสาธารณสุข เช่น บริการทันตกรรม ซึ่งสิทธิประโยชน์ที่ได้รับต่ำกว่าระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) อันเป็นมาตรฐานขั้นต่ำ เป็นต้น
กสม. จึงเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนกฎหมายแรงงานที่เกี่ยวข้องและดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้แรงงานทุกกลุ่มที่เข้าไม่ถึงความคุ้มครองทางสังคม เช่น ลูกจ้างทำงานที่บ้าน, ลูกจ้างภาคการเกษตร, ไรเดอร์, ผู้รับงานไปทำที่บ้าน รวมทั้งแรงงานไทยในต่างประเทศ ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม และควรมีมาตรการจูงใจในการนำลูกจ้างทั้งแรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติ ในประเทศไทยเข้าสู่ระบบประกันสังคม และเร่งปรับปรุงให้สิทธิประโยชน์ในระบบประกันสังคมตามข้อเสนอแนะของ กสม.
พร้อมเน้นย้ำให้รัฐบาลเร่งดำเนินการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ฉบับที่ 87 และฉบับที่ 98 รับรองเสรีภาพในการสมาคม และสิทธิในการรวมตัวและการเจรจาต่อรอง เพื่อให้แรงงานทุกกลุ่มในประเทศไทยได้รับความเป็นธรรม มีความมั่นคง ปลอดภัยในการทำงาน มีคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งด้านสุขภาพและสภาพแวดล้อมที่ดี และมีมาตรฐานการครองชีพที่เพียงพอ โดยไม่ถูกแบ่งแยกและเลือกปฏิบัติ อันจะเป็นการสร้างมาตรฐานแรงงานไทย และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางการค้าต่อไป