เตือน! อีก 6 เดือน ไทยเตรียมรับใบแดง IUU หากทุกพรรคยังวางนโยบายไม่ถูกต้อง

รองประธาน IUU HUNTER ชี้ ทุกพรรค ไม่สนใจต่อความเลวร้ายสถานการณ์ทรัพยากรทางทะเลที่ลดลง ดึงดันปลดล็อกให้เกิดการทำประมงผิดกฎหมายทำลายทรัพยากร 

วันนี้ (1 มี.ค.2566)  ผศ.ธนพร ศรียากูล ในฐานะรองประธาน IUU HUNTER เปิดเผยกับ The Active ถึงการจับตาวิเคราะห์นโยบายพรรคการเมืองด้านประมง โดยมองว่า จากที่หลายพรรคการเมืองทยอยชูนโยบายหาเสียงด้านประมง รวมถึงร่วมกันโหวตรับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ) แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) การประมง พ.ศ.2558 จำนวน 7 ฉบับ เมื่อวันที่  23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เชื่อว่าทุกพรรคการเมืองจะทำให้ประเทศไทย ได้รับใบแดง IUU หรือถูกคว่ำบาตร ถูกระงับการนำเข้าอาหารทะเลของไทยจากสหภาพยุโรป ( EU ) ในอีก 6 เดือนข้างหน้า เพราะการวางนโยบาย รวมถึงการเดินหน้าแก้ไขกฎหมายประมงของทุกพรรค ไม่ได้เข้าใจถึงสถานการณ์ทรัพยากรทางทะเลและการประมงของไทย ว่าอยู่ในจุดเสี่ยงและเลวร้ายขนาดไหน ทั้งที่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลายหน่วยงานต้องร่วมกันและพยายามในการออกกฎกติกาเพื่อจัดระเบียบเนื่องจากสถานการณ์ทรัพยากรทางทะเลลดน้อยลง ไม่มีปลาให้จับ เพราะปล่อยให้เกิดการล้างผลาญจับกันด้วยเครื่องมือประมงทำลายล้างกันมาตลอด 30-40 ปี จนอ่าวไทยไม่มีปลา

“ปัญหาคือ เมื่อไม่มีปลาก็ต้องไปจับปลาเพื่อบ้านที่อินโดนีเซีย ขโมยปลาเพื่อนบ้านที่ประเทศนั้น  ประเทศนี้ เมื่อเข้าไปขโมยปลาเขา พี่น้องแรงงานของเราก็ต้องถูกค้ามนุษย์ กลายเป็นแรงงานทาส เพราะไปลักลอบจับปลาเขา มันก็เป็นปัญหาเรื่องค้ามนุษย์ขึ้นมาอีก ผมเลยต้องบอกว่าเหตุการณ์เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ที่รับร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประมง ผมพูดตรงและบอกไว้เลยว่า ทุกพรรค รวมถึงพรรครัฐบาลปัจจุบันทุกพรรค ไม่เว้นแม้แต่พรรคพลังประชารัฐ และพรรคฝ่ายค้าน ทุกพรรคตั้งใจให้ประเทศไทยได้รับใบแดงในอีก 6 เดือนข้างหน้า “ 

 ผศ.ธนพร ศรียากูล รองประธาน IUU HUNTER

ผศ.ธนพร กล่าวต่อว่า ที่หลายพรรคพยายามบอกว่า พี่น้องชาวประมงตอนนี้เขาเดือดร้อน กฎหมายที่ออกมาเข้มงวดจำกัดเกินไป จริง ๆ คือไม่เข้าใจหลักการ ไม่มองถึงต้นเหตุปัญหาว่าที่เดือดร้อน เพราะไม่มีปลาให้จับ พอไม่มีปลาให้จับ ก็จะเกิดปัญหาอย่างที่ยกตัวอย่าง และตอนนี้หากแก้ไขกฎหมาย ก็กำลังจะกลับสู่วงจรเดิมอีก เพราะกฎหมายประมงที่มีอยู่มีความเข้มงวดหลายเรื่อง ทั้งการออกใบอนุญาต การติดตามเรือ และเรื่องค่าปรับ รวมถึงเน้นเรื่องการจำคุก เรือที่ลักลอบหรือทำประมงผิดกฎหมายต่าง ๆ อย่างที่บอกว่าการไปจำคุกลูกเรือไม่มีประโยชน์ เพราะเขาทำตามคำสั่งของไต๋กับเจ้าของเรือ ดังนั้นต้องให้ลงโทษเจ้าของเรือกับไต๋โดยใช้ค่าปรับ   ตรงนี้มีหลัก มีที่มาที่ไป เมื่อกฎหมายดีอยู่แล้ว ทำไมต้องแก้

ส่วนเรื่องนโยบายที่ยกมาหาเสียงของทุกพรรคในตอนนี้  ผศ.ธนพร มองว่า ยังเป็นนโยบายที่เอาใจประมงพาณิชย์เป็นหลัก ที่บอกแบบนี้เพราะทุกพรรคมีเจ้าของเรือ โดยเจ้าของประมงพาณิชย์เป็นผู้กำหนดผลประโยชน์ในพรรคนั้น ๆ ทั้งสิ้น นโยบายเกี่ยวกับชาวประมงจริง ๆ ซึ่งเป็นเกษตรกรรายย่อยแทบไม่มีเลย ที่มาเสนอกันทุกวันนี้ทุกพรรค ล้วนสนับสนุนแต่เรือลำใหญ่  ซึ่งทำการประมงแบบล้างผลาญ เป็นต้นเหตุให้ประเทศไทยได้รับใบแดง เป็นต้นเหตุให้ถูกจัดอันดับในประเทศที่มีการค้ามนุษย์ ผมคิดว่าเรื่องที่ชาวประมงพื้นบ้านตัวจริงเสียงจริงสะท้อนมา ว่านโยบายแทบทุกพรรคการเมืองไม่ตอบโจทย์ครอบคลุมการแก้ไขปัญหาให้กับชาวประมงอันนี้เรื่องจริง รวมถึงรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ ในตอนนี้ ซึ่งย้อนไปเมื่อ 4 -5 ปีก่อน ก็ดูเหมือนจะเอาจริงกับการแก้ไขปัญหา แต่วันนี้ไม่ใช่แล้ว ท่าทีเปลี่ยนไปแล้ว 

“ดังนั้นผมขอเตือนทุกพรรค เตือนพล.อ. ประยุทธ ดัง ๆเลยว่า ถ้าครั้งหนึ่งท่านภาคภูมิใจ ว่าท่านปลดใบเหลืองได้ ผมก็จะบอก พล.อ.ประยุทธ์ ว่า  อีก 6 เดือนข้างหน้า ท่านจะเป็นคนที่ทำให้ประเทศไทยได้รับใบแดงร่วมกับพรรคการเมืองทุกพรรค ผมเน้นทุกพรรคในขณะนี้ที่เสนอแก้ไขกฎหมายประมง แม้แต่พรรคที่รักสิ่งแวดล้อมทั้งหลาย ที่เพิ่งแถลงนโยบายสิ่งแวดล้อม อย่างพรรคก้าวไกล หรือแม้กระทั่งพรรคเพื่อไทย รวมถึงทุกพรรคที่สนับสนุนการแก้ไขกฎหมายควรหยุดเรื่องนี้ไปก่อน ผมรู้จักทุกคนตัวละครทุกพรรค ผมเห็นชื่อกรรมาธิการแล้ว บางคนบอกเลยว่าเคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับโจร IUU คนในวงการรู้ว่าผมหมายถึงใคร  ดังนั้นควรหยุดก่อนจะพาประเทศไทยไปสู่การค้ามนุษย์แรงงานทาสกันเหมือนเก่า “

 ผศ.ธนพร ศรียากูล รองประธาน IUU HUNTER
 ผศ.ธนพร ศรียากูล รองประธาน IUU HUNTER

เมื่อถามว่าหากจะเป็นการป้องกันสิ่งที่ ผศ.ธนพร คาดการณ์ไว้ เพื่อไม่ให้ประเทศไทยถูกคว่ำบาตรได้รับใบแดงจาก IUU จะต้องเดินหน้ากันอย่างไร  ผศ.ธนพร ชี้ว่า ทุกพรรคต้องเลิกพูดเรื่องการแก้แก้ไขกฎหมายประมง และเอาเวลามาพูดกันเพื่อแก้ไขป้องกันไม่ให้ประเทศไทยกลับไปอยู่ในจุดที่จะโดนใบแดง IUU จะดีกว่า โดยเน้นและเข้มงวดกับการบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่ให้เต็มที่เสียก่อน ทั้งการตรวจจับเรือลักลอบทำประมงผิดกฎหมาย เรือประมงที่ใช้เครื่องมือประมงทำลายล้างทรัพยากร รวมถึงมาตรา 57  ผลักดันให้มีการกำหนดชนิดและสัตว์น้ำที่ได้มาตรฐาน หากเปลี่ยนมาช่วยกันผลักดันเรื่องเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กว่า ต่อการทำประมงและความยั่งยืนของทรัพยากร

ผศ.ธนพร กล่าวทิ้งท้ายว่า เมื่อนโยบายพรรคการเมืองต่าง ๆ เป็นเช่นนี้ หากจะเป็นการหยุดผลกระทบที่จะตามมาได้  ก็ขึ้นอยู่กับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในฐานะโหวตเตอร์ที่จะรู้เท่าทันนโยบาย ที่ไม่ส่งเสริมการทำลายล้างทะเลไทย 

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active