“ก้าวข้าม 32 : STOP | PAUSE | PLAY FORWARD” นักวิชาการ ผู้ประกอบการ และผู้บริโภคร่วมระดมความคิดเห็นหาทางออกผลักดันการแก้ไข มาตรา 32 กระตุ้นสร้างการรับรู้ หาจุดสมดุลระหว่างกฎหมาย ปากท้อง และเศรษฐกิจ
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2022/03/EE6D6DEA-CA8D-4FDF-8FB0-A7D68D457626-1024x683.jpeg)
วันนี้ (5 มี.ค. 2565 ) สมาพันธ์พิทักษ์สิทธิ์ด้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือ สสค. จัดกิจกรรมเสวนา “ก้าวข้าม 32 : STOP | PAUSE | PLAY FORWARD” โดยนักวิชาการ ผู้ประกอบการ และผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับปัญหาจาก พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พ.ศ. 2551 มาตรา 32 ที่ระบุว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือทางอ้อม”
ข้อกำหนดดังกล่าวทำให้เกิดข้อจำกัดทั้งการผลิต และการโฆษณา ซึ่งส่งลกระทบต่อผู้ประกอบการรายย่อย วงเสวนาในครั้งนี้ จึงเน้นไปที่การระดมความคิดเพื่อหาช่องทางการไปเดินหน้าต่อไปของกฎหมายฉบับนี้ รวมทั้งทำให้ เกิดการสร้างการรับรู้ หาความสมดุลระหว่างกฎหมาย ปากท้อง และเศรษฐกิจ
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2022/03/B2C07DF6-8906-4791-8BF2-E21A765E6A36-1024x683.jpeg)
ด้าน สมาพันธ์สิทธิ์ด้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ระบุว่า พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มีความคลุมเครือไม่ชัดเจน ตลอดจนบังคับใช้ไม่เป็นธรรม และเปิดช่องใช้ดุลยพินิจ สร้างอุปสรรคและความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และธุรกิจที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้สิทธิเสรีภาพของผู้บริโภคที่ถูกลิดรอน
ณิกษ์ อนุมานราชธน ผู้ประกอบการค็อกเทลบาร์ กล่าวว่า พ.ร.บ. ฉบับนี้ ทำให้งานศิลปะและความคิดสร้างสรรค์กลายเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย เพียงเพราะมันเป็นแอลกอฮอล์ รวมถึงทำลายสุราพื้นบ้านซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีค่า นอกจากนี้ ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องคำนิยามในกฎหมาย
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2022/03/2FB6FEED-49B7-40E9-B827-585966724C02-1024x683.jpeg)
“ผมว่าใน ม.32 มีคำว่าทางตรงทางอ้อม ผมว่าทางอ้อมเป็นปัญหา เพราะมันใช้ดุลยพินิจได้ ถ้าตัดคำว่าทางอ้อมได้ก็ดี แต่ในใจผมคือไม่อยากให้มี อยากให้มี ม.31 และ ม.33 ไปเลย”
ผศ.ดร.เจริญ เจริญชัย นักวิชาการ และแอดมินเพจ “สุราไทย” ได้กล่าวถึง มุมมองทางกฏหมาย ว่า พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ต้องได้รับการปรับปรุง แก้ไขให้เหมาะกับสภาพการณ์ เพราะผู้ประกอบการและผู้บริโภคต่าง ได้รับผลกระทบ ต้องประสบกับความยุ่งยากในการประกอบอาชีพ จาก 3 มาตรการหลักของพ.ร.บ. คือมาตรการควบคุม การโฆษณา (มาตรา 32) มาตรการควบคุมฉลากและบรรจุภัณฑ์ (มาตรา 26) และมาตรการควบคุมการขาย ได้แก่ การควบคุมเวลาขาย (มาตรา 28) การควบคุมการขายในสถานที่สาธารณะ (มาตรา 27) และการห้ามขายออนไลน์ (มาตรา 30)
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2022/03/42E2AEF3-C672-4927-9928-D44E87E37702-1024x768.jpeg)
“จากหลักฐานเชิงประจักษ์ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐเองและ WHO มาตรการเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้การดื่มอย่างเป็นอันตราย (harmful use of alcohol) ลดลงแต่อย่างใด แสดงว่ามาตรการและการบังคับใช้กฎหมายที่เกินจำเป็นเหล่านี้ไม่มีประสิทธิผลตามเจตนารมณ์ในการออกกฎหมาย นอกจากนี้ ยังไม่เหมาะสมกับสภาพการณ์ เพราะใช้มานานกว่า 14 ปี โดยยังไม่มี การทบทวนปรับปรุงใดๆ จำกัดสิทธิของผู้บริโภคในการรับรู้ข้อมูลที่จำเป็นต่อการเลือกซื้อสินค้า และเสรีภาพในการแสดงออก สร้างผลกระทบที่เกินสมควรให้ผู้ประกอบการ ซึ่งไม่เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ”
ด้าน เข็มทอง ต้นสกุลรุ่งเรือง นักกฎหมายมหาชน คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งใน ผู้ร่วมเสวนา ระบุว่า ทางแก้มี 2 ช่องทาง คือ กระบวนการทางการเมืองอย่างที่ทำกันอยู่ เพราะกฎหมายออกจากการการล็อบบี้ทางการเมือง อีกแบบหนึ่งคือช่องทางกฎหมาย
![](https://theactive.net/wp-content/uploads/2022/03/4B4D2C3F-401A-464E-B2D7-AC7D9C14B425-1024x683.jpeg)
ในส่วนของการเคลื่อนไหวในสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2565 ในการประชุมสภา ระเบียบวาระที่ 5 เป็นเรื่องค้างพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ในการประชุมครั้งก่อน (2 ก.พ.) ซึ่งมีผู้เสนอคือ เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส. กทม. พรรคก้าวไกล และคณะสภามีมติส่งร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต หรือ ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อน 60 วัน ก่อนนำมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง