“พิธา“ พบ สภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย

รับปากจะเป็นนายกฯ ที่พร้อมเข้าใจปัญหา และส่งเสริมศักยภาพกลุ่มชาติพันธุ์ เร่งดันร่างกฎหมายคุ้มครองสิทธิวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์

วันนี้ (15 มิ.ย.66 ) ที่สภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย จ.เชียงใหม่  พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่พบประชาชนกลุ่มต่าง ๆ รวมถึงสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย โดยมีตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ มารอต้อนรับจำนวนมาก 

โดย พิธา ได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ซึ่งเป็นเมนูชาติพันธุ์ทั้งหมด 9 เมนู  ขณะที่ สภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย ตั้งใจให้อาหารเป็นตัวสื่อสาร ถึงความมั่นคงในชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ ขณะเดียวกันก็จะเห็นถึงสิ่งที่มาลดทอนความมั่นคงและศักยภาพ ทั้งการลิดรอนสิทธิในที่ดินทำกิน และสิทธิในวิถีชีวิตดั้งเดิม 

โดยตัวแทนชาติพันธุ์กลุ่มต่าง ๆ ได้ร่วมกันสะท้อนปัญหาและข้อเสนอหลายประเด็น เช่น การส่งเสริมสิทธิชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย  ผ่านร่างพ.ร.บ.สภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย เพื่อเป็นการส่งเสริมและคุ้มครองรับรองสิทธิกลุ่มชนเผ่าพื้นเมือง หรือชาติพันธุ์ในประเทศไทย  และการยอมรับหลักการความหลากหลายทางเชื้อชาติ ปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคล รวมถึงการเข้าถึงสวัสดิการรัฐ ที่เท่าเทียม เป็นธรรม เช่น การศึกษาที่ต้องทำให้เข้ากับวิถีชีวิต 

แต่ประเด็นเร่งด่วนคืออยากให้ พิธา เร่งแก้ปัญหา การละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่น กรณีที่ดินทำกิน กรณีพื้นที่ม่อนแจ่ม หรือ กรณีปัญหาข้อพิพาทในพื้นที่บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี รวมถึงการพัฒนาสร้างเศรษฐกิจที่มั่นคงยั่งยืนให้กับกลุ่มชาติพันธุ์

ด้าน พิธา รับปากว่าจะให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และส่งเสริมศักยภาพ วิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ 

“ผมโตที่นิวซีแลนด์ มีเพื่อนที่เป็นชนเผ่าชาวเมารีที่โตมาด้วยกัน สิ่งที่เขาต่อสู้เพื่อสิทธิด้านต่าง ๆ การเข้าถึงสาธารณูปโภค สัญชาติ เขตวัฒนธรรมพิเศษ นี่เป็นเรื่องสำคัญที่นานาชาติให้ความสำคัญ และเป็นสิ่งที่ผมสนใจและให้ความสำคัญ  ซึ่งอยากให้มั่นใจ นายกฯคนต่อไป จะสนใจใส่ใจเรียนรู้ปัญหา และศักยภาพของพี่น้องชนเผ่าพื้นเมือง“

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ : แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล

ด้าน ศักดิ์ดา แสนมี่ เลขาธิการสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย เชื่อว่า การที่ตัวแทนชนเผ่าพื้นเมืองฯ ได้พูดคุย ได้นำเสนอปัญหาและแนวทางต่างๆต่อ พิธาวันนี้ ทำให้เห็นความหวังและเป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้ข้อเสนอต่าง ๆ เกิดการขับเคลื่อนต่อทั้งในระดับพรรค และนโยบายของรัฐบาลในอนาคต ซึ่งเชื่อมั่น เพราะพรรคก้าวไกลมี ส.ส.และ คณะทำงานที่เป็นตัวแทนสัดส่วนจากชาติพันธุ์ 

ทั้งนี้ คาดหวังให้การผลักดันร่างกฎหมายชาติพันธุ์ โดยเฉพาะฉบับที่สภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทยผลักดัน รอการพิจารณาในรัฐสภาแล้ว รวมถึงอีก 4 ฉบับ ที่เสนอโดยภาคส่วนต่าง ๆ จะเป็นกฎหมายเร่งด่วนที่เดินหน้าทันทีภายใน 100 วันหลังจัดตั้งรัฐบาล ตามที่พรรคก้าวไกลประกาศไว้ 

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active